ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่?
แต่..คราวนี้ถ้าไม่จบ เห็นที “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องหามุมสงบนั่งฟังเพลง “แตกหัก” ของ คุณมาช่า วัฒนพานิช เสียแล้วล่ะ!
“แตกเป็นแตก แบกเอาไว้ ก็หนัก..หักเป็นหัก ไม่ต้องแคร์ความรักความผูกพันอันเก่า..
ก็มันไม่มีประโยชน์
เธอสัญญา ก็ไม่เห็นจะทำ.. คำว่าพอ ก็ไม่เคยจะใช้ คงไม่เคยรู้จัก.. ต้องทนอย่างนี้ ก็มากไป
ให้มันแตกเลยดีกว่า ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ให้มันหักเลยดีกว่า ถึงทีจะเจ็บก็ยอม”
เนี่ย..ความรัก ความผูกพันอันเก่าของน้อง-พี่ ถ้ามันแคร์ไม่ไหว ก็ต้องยอมเจ็บ แต่หมายถึงเจ็บเฉพาะ (ใจ) ลุงตู่นะ อย่าให้ประเทศ-คนไทย (ที่เลือกลุงตู่) ต้องเจ็บไปด้วยก็แล้วกัน?
ส่วนจะมีวิธีการอย่างไรที่จะแบกรับ “ความเจ็บ (ใจ)” อันเกิดจากการแตกแยกในพรรคพลังประชารัฐ เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว..
นั่นก็ขึ้นอยู่กับนายกฯลุงตู่จะคิดหาหนทาง-ตัดสินใจ เพราะแม้กองเชียร์ พ่อยก-แม่ยกจะมีความรัก ความศรัทธา ความปรารถนาดีต่อท่านแค่ไหน-อย่างไร?
แต่เรื่องภายในใจ ภาระในเขตอ้อมแขน..คนไม่ใช่แฟน ย่อมคิดแทน-ทำแทนให้ไม่ได้ นอกเสียจากจะฝากบทเพลงของวงอินคาเอาไว้นั่งฟังเพลินๆสักท่อน..
“หมากเกมนี้ฉันก็รู้ ว่าจะต้องลงเอยอย่างไร ไม่ต้องรอให้จบเกม ฉันก็พร้อมจะยอมตัดใจ..”
ครับ..นายกฯ ลุงตู่จะ (ยอม) ตัดใจแบบไหน อีกไม่นานก็จะได้รู้-เห็น แต่ที่รู้-ที่เห็นในตอนนี้ บรรดาคุณหมอต่างดาหน้ากันออกมาทัก มาปราม มาแนะด้วยความเป็นห่วงเป็นใยในสถานการณ์โควิดที่ยังไม่อาจนิ่งนอนใจได้
โดยเฉพาะศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ย้ำเตือนอยู่ตลอด
อย่างล่าสุดก็โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า.. “แนวโน้มขณะนี้มีผู้ป่วยมากกว่าวันละ 100,000 คน โดยมีการระบาดมากในประเทศบราซิล อเมริกาและอินเดีย
สำหรับประเทศไทย จะต้องไม่ประมาท และนิ่งนอนใจ เพราะการระบาดยังอยู่ในโลกของเรา เป็นจำนวนมาก
ทำไมเราจึงต้องมีการเก็บกักตัวผู้เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะคนไทยที่เดินทางกลับประเทศเป็นจำนวนมากทุกวัน
ถึงแม้จะไม่พบการระบาดเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีพรมแดนธรรมชาติ เป็นระยะยาวไกล มาตรการการป้องกันภายในประเทศก็จะต้องเคร่งครัดเหมือนเดิม
ทุกคนจะต้องมีระเบียบวินัย ปฏิบัติตนด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด มีความซื่อสัตย์ ไม่ปกปิดบังข้อมูล
เวลาไปพบแพทย์ หรือในระบบสาธารณสุขก็จะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส อย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้
ยังมีความหวังว่า ถ้าทุกคนช่วยกัน เต็มกำลัง เคร่งครัด ระเบียบวินัย ดูแลสุขอนามัย ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตนเองและผู้อื่น กำหนดระยะห่างสำหรับบุคคล ก็จะเป็นการชะลอ หรือ ลดการระบาดรอบที่ 2ได้”
ก็..ใส่ใจ จำกันเอาไว้ อ้อ..ที่บางคนบอกอเมริกาโชคดีมีแนวโน้มที่โควิด-19 จะสูญพันธ์ ก็อย่าไปเชื่อ เพราะไฟที่จุดเผาห้าง เผาร้านค้า เผารถลามไปทั่วทุกเมืองนั้น..
ฆ่าโควิด-19 ไม่ตาย แต่ทรัมป์..ไหม้แน่!
