17 พ.ค. 63 เวลา 12.00 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านข้อมูลการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อโควิด-19
ชี้แจงแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” หลังจากเปิดให้ลงทะเบียน วันแรกประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการและประชาชนให้ความร่วมมือ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ได้เปิดให้ใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ซึ่งเป็นระบบที่ออกตามพระราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 พ.ค.63 ที่ผ่านมา เป็นทางการตามมาตรการผ่อนคลาย มีผู้เข้าลงทะเบียนในระบบนี้แล้วทั้งสิ้น (เวลา 11.30 น.) 26,736 ร้านค้า มีผู้ใช้งานกับระบบนี้หลังจากผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง อยู่ที่ 155,486 คน มีผู้เช็คอินสแกนคิวอาร์โค้ดอยู่ที่ประมาณ 4,635 คนต่อนาที ถือเป็นความร่วมมือร่วมใจของประชาชนชาวไทยในการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ
ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้รายละเอียดระบบไทยชนะ หน้าจอเป็นสีเขียว มี 3 เมนูสำคัญ คือ การค้นหาร้านค้า ทันทีที่กดเข้าจะเห็นร้านค้าในระบบ ซึ่งมาจากการลงทะเบียนของผู้ประกอบการ โดยมีขั้นตอนสำคัญในการลงทะเบียน คือ
1. ชื่อผู้ติดต่อ ต้องดูให้ถี่ถ้วน
2. บัตรประจำตัวประชาชน ผู้ประกอบการหรือผู้ดำเนินกิจกรรมต้องใส่ตัวเลขให้ครบ 13 หลัก
3. เบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อกลับและอีเมล์ที่จะทำหน้าที่เชื่อมต่อระบบไทยชนะกับผู้ประกอบการ
ระบบจะทำการแจ้งเตือนกลับไปว่าร้านค้าได้ลงทะเบียนแล้วถูกต้อง ผ่านการยืนยันตัวตนของระบบกระทรวงมหาดไทย โดยแจ้งทางอีเมล์เท่านั้น หากพบข้อผิดพลาด ระบบจะแจ้งให้ลงทะเบียนใหม่ หากลงทะเบียนถูกต้องคิวอาร์โค้ดจะใช้งานได้ในทุก ๆ วัน
สำหรับประชาชนเมื่อลงทะเบียนแล้ว ประชาชนจะเห็นชื่อกิจกรรมหรือร้านค้าที่ได้รับการผ่อนคลาย เห็นความหนาแน่นเป็นรูปแบบเปอร์เซ็นต์ เห็นโลเคชั่น ความจุสูงสุดว่ามีที่ให้ไปเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบคือร้านค้ากรอกปริมาณในการรับคนเข้าสู่บริการคลาดเคลื่อน
บางร้านค้ากรอกมามากหรือน้อยเกินไป ประชาชนมีหน้าที่เช็คอินและเช็คเอ้าท์ทุกกิจกรรม ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องตั้งจุดเช็คอินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเปิดกล้องจากโทรศัพท์มือถืออ่านคิวอาร์โค้ดที่เป็นตารางสี่เหลี่ยม หน้าจอจะขึ้นมาทันทีว่าเช็คอินสำเร็จแล้ว การเช็คอินครั้งแรก เป็นการกรอกเบอร์โทรศัพท์มือถือแค่ครั้งแรกครั้งเดียว เพื่อให้สามารถติดตามกลับได้ หากไม่เปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์หรือมีการปรับปรุงโทรศัพท์ เพียงเท่านี้ก็สามารถไปใช้บริการได้
ขั้นตอนของการเช็คเอ้าท์ทำแบบเดียวกันกับการเช็คอินคิวอาร์โค้ดตัวเดียวกัน ซึ่งผู้ประกอบการและผู้ประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ต้องช่วยประชาสัมพันธ์จุดที่ติดคิวอาร์โค้ดให้ประชาชนทราบด้วย หลังจากการเช็คเอ้าท์จะมีวันเวลาระบุไว้ ยังสามารถประเมินร้านค้าตามมาตรการ ได้แก่ เรื่องการล้างมือ การเว้นระยะห่างทางสังคม การทำความสะอาดพื้นผิว การใส่หน้ากากอนามัยในการให้บริการ
ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเน้นย้ำความสำเร็จในการดำเนินการวันนี้ ไม่พบความผิดพลาดในระบบ พร้อมยืนยันแพลตฟอร์มไทยชนะ www.ไทยชนะ.com ขณะนี้เป็นเพียงระบบเดียวที่ราชการรับรอง ข้อมูลจะส่งต่อให้กรมควบคุมโรคเพื่อใช้ในการป้องกันโรคโควิด-19 ส่วนระบบอื่น ๆ เป็นเพียงการร่วมมือกัน
โอกาสนี้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังได้ตอบคำถาม กรณีประชาชนใช้บริการเสร็จสิ้นแล้วและกรณีลืม ระบบจะตัดอัตโนมัติหรือต้องมีการตรวจเช็คเอ้าท์ว่า ระบบยังไม่มีการเช็คเอ้าท์อัตโนมัติ แต่จะเป็นการเคลียร์ระบบในเวลา 24.00 น. ของทุก ๆ วัน ซึ่งยังต้องขอให้ประชาชนช่วยกันเช็คเอ้าท์หรือผู้ประกอบการช่วยกันแนะนำให้เช็คเอ้าท์ เช่นเดียวกับเช็คอิน รวมทั้งคิวอาร์โค้ดยังนำไปติดที่ไหนก็ได้ รวมถึงติดที่ลานจอดรถ
ทั้งนี้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมยังยืนยัน ทุกประเภทกิจการที่ได้รับประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 16 และวันที่ 17 นี้ ตามมาตรการผ่อนปรนหรือผ่อนคลายกิจกรรม สามารถไปลงทะเบียนในระบบได้ รวมทั้งผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยในห้างสรรพสินค้าตลาดที่มีเป็นห้องหรือร้านควรจะต้องมีการสแกนคิวอาร์โค้ดของตนเอง เพื่อให้สามารถควบคุมโรคได้ละเอียดขึ้น เพราะเมื่อเข้าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ จะเดินตาม ช็อปหรือจุดบริการต่าง ๆ ทั่วไป
ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมยังกล่าวว่า รัฐบาลได้ช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด-19 ผู้ใช้บริการไม่ต้องกังวลในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยมี WiFi ฟรี และเป็นหน้าที่ของทางร้านค้าที่ต้องหาวิธีในการที่จดบันทึกว่ามีใครเข้าใช้บริการ ซึ่งข้อดีของการใช้ระบบ คือ จะทราบปริมาณของคนที่เข้ามาใช้บริการในจุดนั้น ๆ การติดตามและป้องกันโรคก็จะเป็นความลับเฉพาะตัว รวมทั้งยังมีการอบรมผู้ประกอบการไปแล้ว