29 เม.ย.63 เวลา 11.45 น พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางลงพื้นที่จุดคัดกรองคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย ณ จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นรอยต่อรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติตามมาตรการกรองคนไทยที่เดินทางเข้ามาหลังจากมีการปิดด่านพรมแดนสะเดาชั่วคราว เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา
โดยมี นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายชวกิจต์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา, นายภักดี ดุลยพิจารณ์ นายด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ในการนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ตรวจเยี่ยม กระบวนการคัดกรองโรค และพูดคุยสอบถามรวมถึงสร้างความเข้าใจในเรื่องมาตรการกักตัว Local Quarantine กับประชาชนที่เดินทางกลับเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย
พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า ในวันนี้ เป็นการมาตรวจดูว่ามีช่องว่างอยู่หรือไม่ตลอดแนวชายแดนไทย – มาเลเซียตั้งแต่จังหวัดสตูล – จังหวัดนราธิวาส ระยะทาง 647 กิโลเมตร ช่วง 10 กว่าวันที่ผ่านมา เราทุกคนคงได้เห็นภาพแล้วว่าทุกฝ่ายมีความเข้มแข็งในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชน ชาวบ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตาแจ้งข่าวสาร เพราะทุกคนก็กลัวและมีความระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก สำหรับภาพรวมการปฏิบัติงานในปัจจุบันหลังจากที่เราย้ายมาที่ด่านปาดังเบซาร์ พบว่าที่นี่ เป็นสถานที่ที่เหมาะสม ในส่วนยอดคนไทยที่เดินทางเข้ามาก็ไม่มีปัญหาเรื่อง Local Quarantine และจากการสอบถามคนไทยทุกคนที่เข้ามาก็ทำให้ทราบว่าทุกคนรู้กระบวนการในการกักตัวเป็นอย่างดี
เมื่อช่วงเช้าก็ได้เดินทางไปที่จังหวัดสตูลเพื่อไปดูช่องทางทางธรรมชาติตามเกาะแก่งต่างๆ พบว่าชาวบ้านที่นั่นให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เมื่อพบใครที่ข้ามแดนมาก็รีบพาตัวไปส่งทางการทันที เพราะทุกคนมีความเข้มแข็ง เป็นชุมชนที่เข้มแข็ง และจากการลงพื้นที่มาก็ไม่พบว่ามีอะไรน่าเป็นห่วง
ในช่วงบ่ายจะเดินทางไปที่อำเภอสุไหงโกลกจังหวัดนราธิวาส ไปดูเรื่องการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ทหารเฝ้าระวังตลอด ขอให้ทุกคนได้เป็นกำลังใจให้ด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างหนัก เฝ้าแนวตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับยอดคนไทยที่จะเดินทางเข้ามานั้นยังไม่มีการกำหนดสิ้นสุด คงต้องรอนโยบายจากทางรัฐบาล ทางกองทัพภาคที่ 4 ในฐานะกองกำลังที่ดูแลพื้นที่ก็จะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดเช่นกัน และสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามานั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ยืนยันว่าทุกคนจะต้องถูกนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรค และกักตัว 14 วันตามมาตรการของสาธารณสุข โดยไม่มีการยกเว้นแม้แต่คนเดียว ถึงแม้จะหลบหนีเข้ามาอย่างผิดกฎหมายก็ต้องเข้าสู่กระบวนการนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับการเปิดด่านศุลกากรปาดังเบซาร์เป็นด่านหลักนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีการพูดคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด สงขลา, สาธารณสุข และด่านศุลกากรปาดังเบซาร์แล้ว ทุกฝ่ายได้ลงความเห็นว่าด่านศุลกากรปาดังเบซาร์เหมาะสมที่จะใช้เป็นด่านหลักแทนด่านพรมแดนสะเดา
สำหรับบรรยากาศการเดินทางเข้ามาของคนไทยจากประเทศมาเลเซียที่ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ในวันนี้ยังคงมีคนไทยทยอยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่องและเมื่อทุกคนผ่านจุดคัดกรองโรค และผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย ก็จะถูกส่งไปกับตัวตามสถานที่ที่แต่ละจังหวัดได้กำหนดไว้ต่อไป
ศูนย์ประชาสัมพันธ์
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้
