ผลประชุม RBC ไทย–กัมพูชา เห็นพ้อง 11 ข้อ ลดตึงเครียดชายแดนพื้นที่ทัพภาค2 พร้อมเดินหน้าสู่สันติภาพ ย้ำไทยยังคงรักษาอธิปไตยของประเทศ

27 สิงหาคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ที่บริเวณ ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ได้บรรลุ 11 ข้อตกลงสำคัญ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนและสร้างบรรยากาศแห่งสันติภาพ ตามที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้แถลงภายหลังการประชุมฯ โดยมีสาระสำคัญดังนี้

• ยืนยันปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและผลประชุม GBC ก่อนหน้า
• รักษาช่องทางสื่อสารทางทหารทุกระดับ แก้ปัญหาด้วยสันติวิธี หลีกเลี่ยงการปะทะ
• งดเผยแพร่ข่าวปลอมและการยั่วยุ ลดแรงกดดันทางสังคมและการเมือง
• ยอมรับมาตรการสร้างความปลอดภัยภายใต้กรอบหยุดยิง ไม่เป็นการรุกราน
• ผลักดันการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเชิงมนุษยธรรม เสนอต่อที่ประชุม GBC
• ตั้ง “ชุดประสานงาน” (CG) เพื่อเสริมกลไกเจรจาและแก้ปัญหาในระดับพื้นที่
• ร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์
• ประเด็นคั่งค้างใด ๆ จะนำเข้าสู่การประชุม GBC หรือกลไกที่เหมาะสม
• กำหนดประชุม RBC ครั้งถัดไปภายใน 1 เดือน โดยกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ

นายจิรายุ กล่าวว่า รัฐบาล เชื่อว่าผลการประชุม RBC ในครั้งนี้จะช่วยลดความตึงเครียด ลดการปะทะและส่งเสริมการรักษาสันติภาพตามแนวชายแดน ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมใช้ทุกกลไกที่เหมาะสมและจำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน เป็นสำคัญ
โดยผลการประชุมครั้งนี้สะท้อนถึง ความมุ่งมั่นและความจริงใจของไทย ที่ต้องการลดความตึงเครียดชายแดนและสร้างสันติภาพ ตามที่ได้ตกลงไว้ในการประชุม GBC สมัยสามัญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซีย

Written By
More from pp
ธอส. ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ และเงินฝากประจำ 0.05 – 0.35% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่...
Read More
0 replies on “ผลประชุม RBC ไทย–กัมพูชา เห็นพ้อง 11 ข้อ ลดตึงเครียดชายแดนพื้นที่ทัพภาค2 พร้อมเดินหน้าสู่สันติภาพ ย้ำไทยยังคงรักษาอธิปไตยของประเทศ”