เปลว สีเงิน
เมื่อวาน ๒๑ สิงหา. “วันลูก”
สังเกตอาการจากภาพในศาลรัฐธรรมนูญแล้ว “นายกฯ แพทองธาร” อยู่ในสภาพ “นักมวยถอดใจ”
ถ้าเป็นสำนวนนิยายสไตล์ “ประชา พูนวิวัฒน์” ก็ต้องใช้คำว่า “เข็ดแล้ว…ให้ดิ้นตาย”!
และวันนี้ ๒๒ สิงหา. “วันพ่อ”!
ลุ้นระทึกหน่อยที่ศาลอาญา เพราะมีคุกเป็นเดิมพันในคดีทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อที่เกาหลีใต้เข้าข่ายความผิดตามมาตรา ๑๑๒
แฟนๆ ชั้นริงไซด์และขอบสนาม มองไปทางเดียวกันว่า ทักษิณน่าจะ “ดวงดี”
“ดวงดี” หรือ “คุกดี” วันนี้แหละ ศาลมีคำตอบ!
เมื่อวาน พ่อไม่ได้ไปให้กำลังใจลูกที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้ ลูกน่าจะไปให้กำลังใจพ่อที่ศาลอาญา
เพราะผลคดีของพ่อ จะมีผลต่อการตัดสินใจ “ขั้นสุดท้าย” ของลูก
ที่จะ “อยู่รอ” หรือ “ลาก่อน”
ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดี “คลิปสนทนาฮุนเซน” ว่าด้วยมาตรฐานจริยธรรม ศุกร์ที่ ๒๙ สิงหา.!?
สังเกตแรงกระเพื่อมลมหายใจประชาชนแล้ว ดูจะเทน้ำหนักความสนใจไปที่คดีอุ๊งอิ๊งวันที่ ๒๙ สิงหา.มากกว่า
อย่างเมื่อวาน แค่ชั้นไต่สวนพยาน “นายฉัตรชัย บางชวด” เลขาฯ สมช.และการไต่สวนซักปากคำอุ๊งอิ๊ง ผู้ถูกร้อง คนยังคนสนใจติดตามกันทั้งเมือง
ก็ผิดหวังกันเล็กน้อย หะแรก เข้าใจว่าจะมีการถ่ายทอดสด แต่ “นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ สั่งห้าม
ทั้งห้ามมิให้ผู้เข้ารับฟังการไต่สวน นำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่และบิดเบือนข้อมูล อันจะทำให้สาธารณชน เกิดความเข้าใจผิด
แฟนๆ หน้าจอ จึงได้ดูถ่ายสดเฉพาะช่วง “เปิดหัว” และ “ปิดท้าย” เท่านั้น ขั้นตอนการไต่สวนถือเป็นความลับ ไม่มีเล็ดลอดออกไปภายนอก
ผมว่าก็ถูกต้อง เพราะเรื่องนี้ เกี่ยวกับความมั่นคง เกี่ยวกับความลับทางราชการ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขืนให้เผยแพร่ มีแต่เสียทุกด้าน!
เรื่องนี้ คำตัดสินจากศาลฯ จะมีอย่างใด ต้องรอ ๒๙ สิงหา.
แต่คำตัดสินจากประชาชน มีออกมาเรียบร้อยนานแล้ว คือ
“รับไม่ได้” ที่อุ๊งอิ๊งสนทนากับฮุนเซนเช่นนั้น!
ที่น่าสนใจ หลังจากไต่สวนปากคำพยานและผู้ถูกร้องเมื่อวานแล้ว เดิมศาลฯ ให้คู่กรณี ยื่นคำแถลงปิดคดีวันที่ ๒๗ สิงหา.
แต่เมื่อวาน ศาลฯ สั่งเลื่อนให้คู่คดียื่นคำแถลงปิดคดีวันที่ ๒๕ สิงหา.คือเร็วขึ้น
แต่วันลงมติและอ่านคำวินิจฉัย ยังคงเป็นวันที่ ๒๙ สิงหา.ตามเดิม โดยตอนเช้า ๙ ตุลาการจะประชุมปรึกษาหารือและลงมติ
๑๕.๐๐ น. จะอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง!
ขั้นอ่านคำวินิจฉัยนี้ มีประตูกี่บานเปิดหมดเพื่อเผยแพร่ให้ฟังทั่วกัน ท่านก็ไม่ต้องตะกายไปฟังถึงที่ศาลฯ หรอก
เปิด “ไทยโพสต์ ออนไลน์” นอนเอกเขนกฟังอยู่กับบ้านสบายจัง ตังค์ก็ไม่ต้องเสีย!
ผู้ชำนาญการด้านข่าวสีพ เขาชอบเอาตัวเลขมาบอกว่า ผลจะออกมา ๕:๔ บ้าง ๗:๒ บ้าง ๖:๓ บ้าง
แต่ผมไม่มีข่าวสีพอย่างเขา อีกอย่างไม่ชอบทำเกินหน้าที่ จึงไม่มีตัวเลข เพราะไม่สนใจจะรู้ และไม่ต้องการเดาด้วย
รอฟัง ๒๙ สิงหา.ผลออกมาอย่างไร รู้ตอนนั้น ก็คงไม่ลงแดงตายซะก่อนหรอก
เราต้องเข้าใจในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ร่วม “อารยสังคมธรรม” ว่า
คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ “ผูกพันทุกองค์กร”
และคำตัดสินของประชาชน “ผูกพันกับเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตุลาการทุกคน”
ฉะนั้น คำว่า “มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” และคำว่า “ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง” นั้น
ผูกพันผู้ทำหน้าที่ “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” ด้วย!
ผมจึงไม่วอกแวกกับผลคำวินิจฉัยของ ๙ ตุลาการ ในคดีนายกฯ แพทองธารในวันที่ ๒๙ สิงหา.ด้านจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
หลายท่านคงคันเนื้อ-คันตัว บอกว่า…แหม เหมือนดื่มกาแฟแล้วไม่มีปาท่องโก๋จิ้มนม น่าจะมีความเคลื่อนไหวเป็นกระแสให้จับทิศทางกันบ้าง
ก็นี่ไง “อาจารย์คมสัน โพธิ์คง” ที่ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้เข้าฟังการไต่สวนเป็นรายบุคคลพร้อมกับทนายนกเขาและนายสมชาย แสวงการ
อาจารย์คมสันเก็บบรรยากาศมาโพสต์เฟซเป็นน้ำจิ้มไว้ดังนี้
…………………………………………….
Komsarn Pokong
ศาลรัฐธรรมนูญห้ามเผยแพร่การพิจารณาคดีอุ๊งอิ๊งค์กับคลิปฮุนเซน ห้ามบิดเบือนข้อกฎหมาย
ดังนั้น เผยแพร่บรรยากาศตามความรู้สึกของผมเล็กน้อยที่เห็นละกัน
1..อุ๊งอิ๊งค์เตรียมตัวมาดี
ตอบศาลในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคลิปและเหตุการณ์ต่างๆ อย่างฉาดฉาน แต่เรื่องที่ไม่ได้เตรียมและข้อกฎหมาย มีอึ้งเล็กน้อย ตอบไปตามความรู้ที่ตนมีอย่างหยุมหยิม
2.ข้อกฎหมายเป็นจุดอ่อนสำคัญของอุ๊งอิ๊งค์และพยาน(นายฉัตรชัย)มีการตอบข้อกฎหมายผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากหลักการของกฎหมายพอสมควร
ดูแล้วเสียเปรียบเรื่องข้อกฎหมายอย่างสาหัส
3.ต้องชมว่าทนายความอุ๊งอิ๊งค์เตรียมตัวดี แต่บางเรื่องก็ช่วยไม่ค่อยได้
4..ผู้ร้องถามประเด็นไม่คมนัก แต่ก็ยังสะท้อนว่าทำการบ้านมาพอสมควร
5.มีดราม่าสะอึกสะอื้นเล็กน้อย แต่ไม่น่าส่งผลให้มีความสงสารมากนัก เพราะผมว่าสะอึกสะอื้นผิดคิวไปนิด
6.การไต่สวนคดีชั้น 14 ของศาลฎีกา ฟังสนุกกว่า มันส์กว่า คมกว่า
7.การไต่สวนครั้งนี้ ดูแล้วอาจส่งผลต่อคณะรัฐมนตรีชุดนี้ในอนาคต
เอาแค่นี้ละกันครับ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งห้ามเผยแพร่การพิจารณา เนื่องจาก จะกระทบข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ
…………………………………………
คมสัน อาจารย์กฎหมาย งวดนี้ เป็นอาจารย์ใบ้หวยให้แฟนๆ ตีความเอาเอง
ศาลรัฐธรรมนูญนั้น ข้อกฎหมายกับข้อเท็จจริงตามประจักษ์เป็นสิ่งหลักที่ท่านยึด
เรื่องเทคนิก เรื่องเจตนา-ไม่เจตนา เรื่อบกพร่องโดยสุจริต มันเป็นมุกแป้กหน้าม่าน ใช้ไม่ได้แล้ว คนดูก็เหม็นเบื่อ
แต่อาจารย์คมสันก็ให้คะแนนอุ๊งอิ๊งเกือบเต็ม ๑๐ ตอบเรื่องคลิปได้ฉาดฉาน เพราะทำการบ้านมาดี
แต่ถูกหักแคะแนน ตรงดรามาสะอึก-สะอื้นผิดคิว และติวข้อกฎหมายมาตอบไม่แม่นยำ
ที่อาจารย์คมสันใบ้หวยมาทั้งหมด ๗ ข้อ ที่ทำแฟนๆ ตาลุกก็ตรงข้อ ๗ นี่แหละ ที่ว่า
“7.การไต่สวนครั้งนี้ ดูแล้วอาจส่งผลต่อคณะรัฐมนตรีชุดนี้ในอนาคต”!!!
ผมเป็นคนมีเมตตา ปลาเป็นไม่กิน กินแต่ปลาตาย จึงขอตีความตรงคำว่า “อาจส่งผลต่อคณะรัฐมนตรีชุดนี้ในอนาคต”
แฟนคลับอุ๊งอิ๊งทำใจสบายๆ ไว้….
“อาจารย์คมสัน” ท่านคงตั้งใจจะเขียนว่า “อาจส่งผลดีต่อคณะรัฐมนตรี…” ทีนี้ ตกคำว่า “ดี” ไปคำ เหลือแต่ “อาจส่งผล…” เลยทำให้หวิวๆ ตรงท้องน้อยอยู่บ้าง
แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนคลับอุ๊งอิ๊ง ก็คงมองไปอีกมุมในประโยคว่า “อาจส่งผลต่อคณะรัฐมนตรีชุดนี้ในอนาคต”
ว่าหมายถึง “อุ๊งอิ๊งอวสาน” แน่!
เมื่อนายกฯ พ้นจากตำแหน่ง คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันนี้ก็สิ้นสภาพตามไปด้วย
ทุกกระทรวงว่างรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงรักษาการแทนรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาลว่างนายกฯ “ผู้นำบริหาร” ต้องประชุมรัฐสภาโหวตเลือกตัวนายกฯ กันใหม่
ได้ตัวนายกฯ แล้ว ก็ฟอร์มครม.ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศต่อ
ดูแล้วไม่ยาก
แต่ตอนทำ มันยากยิ่งกว่ายกครกตำสากเป็นพันเท่า จะเอานายกฯ ตามบัญชีคนไหนเสนอสภาโหวตเลือก แค่ขั้นตอนนี้ก็จะตีกันตายแล้ว
พฤศจิกา.นี่ ประเทศจะได้รัฐบาลใหม่บริหารหรือไม่ ผมก็ยังไม่แน่ใจ
หรือจะมีอะไรแทรกซ้อนเป็นปรากฎการณ์ใหม่ในระบบรัฐสภาให้ฮือฮากัน!!!
และระหว่างประเทศ “หัว-หาง” ไม่มี ถ้าเขมรฉวยโอกาสราวีตูมตามขึ้นมาจะทำยังไง?
โธ่ จะต้องเครียดให้เป็นโรคกระษัยเส้นไปทำไม ประเทศไทยอยู่ด้วยสถาบัน ทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ ทัพตำรวจ ทหารพราน และประชาชน
ดีซะอีก ว่างรัฐบาลอย่างที่มีอยู่ปัจจุบัน ทำให้งานกวาดขยะวุ้นเส้นง่ายขึ้น รวดเร็ว ฉับไวขึ้นซะด้วยซ้ำ!
“ไม่มีกองทัพดอกนะเจ้าชีวาวาย ไม่ตายดอกเพราะไม่มีรัฐบาลญาติเขมร”
พูดถึงเขมร เมื่อวาน (๒๑ ส.ค.)เขมรทำท่าจะเบี้ยวประชุม RBC ซะแล้ว นัดกันที่ “สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ ๑๙ ค่ายสุรสิงหนาท” อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จน ๑๙.๐๐ น.ฝ่ายเขมรจึงประสานขอประชุมทางโทรศัพท์และอีเมล ในระดับเลขานุการ
จากประชุม GBC ที่มาเลย์ฯ รัฐมนตรีกลาโหมไทย-เขมร ตกลงกัน ๑๓ ข้อ ถกกันเมื่อค่ำที่ผ่านมา ฝ่ายไทย เสนอเพิ่มเติมอีก ๓ ข้อ
๑.ให้เก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกัน
๒.ร่วมปราบสแกมเมอร์
๓.จัดสรรพื้นที่ชายแดนให้ถูกต้อง
นี่ กองเลขาทั้ง ๒ ฝ่ายยังถกกันอยู่ ถ้าเขมรตกลง ก็จะเสนอที่ประชุมใหญ่ RBC ที่จะมีขึ้นวันนี้ (๒๒ ส.ค.)
หากตกลงกัน “กองทัพภาคที่ ๑” ของไทย กับกองบัญชาการทหาร ภูมิภาคที่ ๕ ของเขมร ก็จะลงนามร่วมกัน
แต่ดูแล้ว…ยาก
เก็บกู้ทุ่นระเบิดและปราบสแกมเมอร์ ก็เป็น ๒ ข้อที่ “พลเอกเตีย เซ็ยฮา” รัฐมนตีกลาโหมเขมร ไม่ยอมตกลงกับพลเอกณัฐพลแต่แรกแล้ว
ก็ตามดูกันไป กำลังสนุกเร้าใจขึ้นเรื่อยๆ อย่าลืม… บ้านเมืองเป็นเรื่องบนบ่าประชาชน
“ปล้นบ้าน-ปล้นเมือง” เป็นเรื่องของรัฐบาลกับสภาเค้า!
เปลว สีเงิน
๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๘
