เปลว สีเงิน
พรรคประชาชน
พวกคุณจะล้มให้หมดเลย ทั้ง ชาติ ทั้งศาสนา ทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างนั้นเชียวหรือ?
เขมรมันยิงใส่ชาวบ้าน โรงพยาบาล อาคารร้านค้าตูมๆ จนพังพินาศ ไฟไหม้ ชาวบ้านเสียชีวิต ทั้งต้องอพยพหนีจรวด BM-21 ของเขมรกันเป็นแสนๆคน
แค่นั้นยังไม่หนำใจ มันยังลอบเข้ามาฝังกับระเบิดในเขตไทย จนทหารลาดตระเวนต้องขาขาดไป ๕ นาย เจ็บอีกหลาย
แต่ “ช่อ-พรรณิการ์” กลับตั้งคำถามกับทหารว่า
“มันมีคนไม่อยากให้สงครามจบ เพราะช่วงเวลาที่เกิดสงคราม คือเวลาที่ตัวเองป็นฮีโร่หรือไม่…ดิฉันตั้งคำถาม?”
กองทัพภาค ๒ ขอรับการสนับสนุนลวดหนามหีบเพลงจากประชาชน เพื่อทำรั้วกั้นแดนไทย-เขมร
“รังสิมันต์ โรม” ก็ค้านว่า….
“ไม่เหมาะสม การขอรับบริจาคทำให้ลดทอนภาพลักษณ์กองทัพ กองทัพจะน่าเกรงขาม ถ้ามีการจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งถ้าเรื่องนี้มีปัญหาจะเกิดคำถามถึงความพร้อมได้
และไม่มีความจำเป็นที่กองทัพต้องอาศัยอินฟลูเอนเซอร์มาระดมรับบริจาค……”
นี่ “เรื่องชาติ” นะ
มาดูเรื่อง “ศาสนา” จากบทบาทคนพรรคประชาชนกันบ้าง
ในการอภิปรายงบประมาณเมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา “นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ” ส.ส.นนทบุรี เขต ๘ พรรคประชาชน
เสนอตัดงบ “โครงการสร้างขวัญและกำลังใจบุคลากรเผยแผ่พระพุทธศาสนา” ๕ ล้านบาท
การเสนอตัด เป็นความเห็นของท่าน แต่เหตุผลในการตัดที่ สส.นนท์ อภิปรายนั้น อยากบอกว่า
ไม่เพียงสภาไม่น่ามีคนอย่างคุณเท่านั้น
คนอย่างคุณก็ไม่ควรเกิดอยู่ในแผ่นดินไทยนี้ด้วย!
ประชาชนทั้งหลาย จงจำชื่อ สส.นนท์ คนพรรคประชาชน ไว้
ว่านายคนนี้….
พูดถึงสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และสถานที่ปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยวาจาจ้วงจาบ หยาบช้า อันเป็นอนันตริยกรรมยิ่ง ดังนี้
“ทำไมพระสงฆ์ถึงต้องมีขวัญและกำลังใจในการทำงานด้วยเหรอครับ ผมก็งงนะครับ เพื่อเดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานในประเทศอินเดียและเนปาล
ก็คือไปสถานที่ที่พระพุทธเจ้า “ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน” ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับผู้ได้ประโยชน์
ไปทั้งหมด ๑๐๐ รูป ตกรูปละ ๕๐,๐๐๐ บาท ไปทำอะไรครับท่านประธาน ….. ไปกราบครับท่านประธาน”
“ท่านอยู่ประเทศไทย ท่านให้คนอื่นเขากราบไหว้ พอท่านไปประเทศอื่น ท่านกลับไปกราบอะไรก็ไม่รู้”
การกราบดังกล่าว ซึ่งอยู่ในหลักการของศาสนาพุทธ แต่พอกลับมาแล้ว ผมกลับมาดูรายงานของกรรมาธิการ ก็ไม่ได้มีแผนต่อยอดหรือพัฒนาศักยภาพอะไรเลยหลังจากกลับมา
เมื่อเทียบกับงบประมาณที่ใช้จ่ายไป ผมดูแล้วก็ไม่ตอบโจทย์ในภารกิจของ “สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ”
ทั้งที่มีหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ และดูแลประชาชนให้เข้าถึงหลักธรรมคำสอน
และไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ดูว่ากลับมาแล้วมาทำให้ศาสนาหรือการเผยแผ่ศาสนาดีขึ้นแต่อย่างใด
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอาจถูกตั้งคำถามว่า ใช้งบหลวงเพื่อไปทัศนศึกษาและไปกราบสิ่งเหล่านี้ มากกว่าพัฒนาพระพุทธศาสนาในเชิงระบบ”
พรรคประชาชน กระหือรือล้มสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเดียวไม่พองั้นหรือ?
ถึงต้องกัดกร่อนบ่อนเซาะหวังโค่นล้มพระพุทธศาสนาด้วยคำอภิปรายลบหลู่ เหยียดหยาม ถึงขั้นใช้คำพูดกับพระสงฆ์ที่ไปกราบสังเวชนียสถานว่า
“ไปกราบอะไรก็ไม่รู้”!?
เห็นวันต่อมา สส.นนท์ โพสต์เฟซแสดงความเสียใจและขอโทษที่อภิปรายด้วยถ้อยคำเช่นนั้น
และที่ว่า “ไปกราบอะไรก็ไม่รู้” นั้น บอกว่าเป็นความประมาทพลาดพลั้ง!?
เรื่องนี้ ไม่มีใครมีสิทธิ์ “ให้โทษ-ให้อภัย” คุณได้หรอก นอกจากแผ่เมตตาให้ “ยัง กัมมัง กะริสสันติ, กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา, ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ”
จักทำกรรมอันใดไว้, เป็นบุญหรือเป็นบาป คุณนั่นแหละจักต้องเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆ สืบไป
คนอารยะ แม้นอกชาติ-นอกศาสนา เขายังให้ความเคารพสถานที่สำคัญของศาสนาอื่น ด้วยการไม่แสดงกริยาวาจาเหยียดหยาม หมิ่นแคลน
แล้วคุณเป็นสส.ตัวแทนคนจังหวัดนนทบุรี ถึงไม่นับถือพุทธศาสนา คุณก็เป็นคนไทย
และการพูดถึงสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และสถานที่แสดงปฐมเทศนาของพระบรมศาสดาเจ้าเช่นนี้ ด้วยจิตสำนึกของสมาชิกรัฐสภา
มันใช่มั้ย มันควรมั้ย?
จะอ้างประมาทพลาดพลั้ง ฟังไม่ขึ้น เพราะพรรคประชาชน ก่อนให้สส.ขึ้นอภิปราย ต้องซักซ้อมคำอภิปรายกันก่อนแล้ว
และเท่าที่เห็นปฎิบัติ….
จะเขียนข้อความที่จะอภิปรายลงไอแพด-โน้ตบุ๊ก วางข้างหน้า อ่านไป-อภิปรายไปอยู่แล้ว
ฉะนั้น อ้างประมาทพลั้งพลาด คุณอ้างได้ แต่จะให้คนเขาเชื่อ คงจะยาก!
มันก็แปลกดีนะ การเมืองประชาธิปไตย ระบบรัฐสภายุคนี้
รัฐบาลเพื่อไทย ก็เสื่อม
ฝ่ายค้านพรรคประชาชน ก็เสื่อม!
สรุปแล้ว “รัฐบาลและค้าน” เป็นทั้งส่วนเกินของสังคมชาติและเป็นทั้งตัวถ่วงความก้าวหน้าของประเทศชาติ
ประชาชนพึ่งพาอะไรไม่ได้เลย?
ความมั่นคงแข็งแกร่งของชาติบ้านเมือง อยู่ที่กองทัพ-ทหาร
ความง่อนแง่นในการทำมาหากินของชาวบ้าน การบริหารประเทศล้มเหลว อยู่ที่รัฐบาลเพื่อทักษิณ!
นี่…ชีวิตพวกเรา จะต้องยอมให้หมานำต่อไปอย่างนี้น่ะหรือ?
เราอยู่กันอย่างขมขื่น จำฝืนทน
ถามว่า แผ่นดินตอนนี้อยู่ได้เพราะใคร?
ตอบได้ทันที….
ทหาร กับ ประชาชน!
ผมละกลัวใจเขาเลย…คนไทยนี่ ยามศึกผนึกใจร่วมรบ ยามสงบแยกพวกตีกัน
ถ้าผมเป็นทหารอยู่แนวหน้านะ เห็นแนวหลังคือประชาชน “เป็นทุกอย่างให้ทหาร” แบบนี้ละก็ สู้ถวายหัวเลย พับผ่า!
เสียท่า ที่แก่เกินแกงไปซะแล้ว ไม่งั้นจะสมัครไปเป็นทหารถือปูนไปโบกตึกให้ดู
รัฐบาลวันนี้ มีอำนาจตามกฎหมาย
แต่ไม่มีความหมายในทางศรัทธา-เชื่อถือจากประชาชน
เพราะหัวใจคนไทยร่วม ๗๐ ล้านดวง ร้อยเป็นพวงมาลัยไปคล้องคอ-คล้องใจกองทัพ-ทหารทั้งหมด
๒๑ สิงหา.นี้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” เรียก “นางสาวแพทองธาร” ไปชี้แจง พร้อมพยาน ๑ ปาก คือ “เลขาฯ สมช.” ในเรื่องคลิปสนทนาอุ๊งอิ๊ง-ฮุนเซน
ความจริง เธอยื่นคำชี้แจงเป็นเอกสารไปแล้ว แต่ศาลท่านอยากฟังปากคำจากเจ้าตัวชัดๆ ก่อนจะมีคำวินิจฉัยในวันศุกร์ที่ ๒๙ สิงหา.
หลายเสียงเสนอให้อุ๊งอิ๊ง “ชิงลาออก” ก่อนศาลตัดสิน ด้วยเหตุผลว่า เมื่อลาออกก่อน ศาลฯ ก็จะยุติคดี อุ๊งอิ๊งก็ยังจะไม่มีความผิดอะไร แต๊ดๆๆๆทางการเมืองได้ต่อไป
มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก จะชิงลาออกหรือรอให้ศาลฯ ตัดสิน ค่าเท่ากัน!
คือ ถึงชิงลาออกก่อน ประเด็นความซื่อสัตย์สุจริตไม่เป็นที่ประจักษ์และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม ก็ยังเป็นชนักปักคาติดหลังอยู่เหมือนเดิม
จะเข้ามามีตำแหน่งทางการเมืองอีกก็ไม่ได้
วันข้างหน้า ขี้ข้าแบกหามมาเป็นนายกฯ ก็จะโดนร้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติอยู่ดี
อย่าง “ทนายถุงขนม” เห็นมั้ย ชิงลาออกก่อน แล้วกล้าเสนอเป็นอีกมั้ยล่ะ เหมือนสส.บางคนตอนนี้ ที่รู้ตัวว่าประวัติตนขาดคุณสมบัติด้านจริยธรรม
แล้วกล้าเป็นรัฐมนตรีซะที่ไหนล่ะ นอกจากนั่งชักใยคนที่ส่งขึ้นไปเป็นหุ่นให้คอยเชิด
อุ๊งอิ๊ง ตอนนี้เป็นรัฐมนตรีวัฒนธรมอีกตำแหน่งใช่มั้ย?
ถ้าชิงลาออกตอนนี้ ตำแหน่งรัฐมนตรีวัฒนธรรมก็หลุดด้วย!
เพราะ นายกฯ อุ๊งอิ๊งกับรัฐมนตรีอุ๊งอิ๊งมันคนเดียวกัน
เมื่อเป็นคนดียวกัน….
คุณสมบัติก็ต้องไม่ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๖๐ ว่าด้วยมาตรฐานทางจริยธรรมเช่นเดียวกัน
ก็ต้องถูกร้องศาลรัฐธรรมนูญด้วยข้อหาจากคลิปสนทนาฮุนเซน ไม่มีทางหนีพ้น!
ฉะนั้น จะปล่อยเรื่องเป็นหนามฝังคาเนื้อให้รำคาญไปทำไม “เสี่ยงบุญ-เสี่ยงกรรม” รอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวันที่ ๒๙ สิงหา.ให้สมกับเป็นลูกทักษิณที่ “กูหนีตะพึด” เท่กว่า
ว่าแต่ว่า ๒๑ สิงหา.ที่อุ๊งอิ๊งจะไปยืนให้ปากคำตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และต้องตอบคำซักถามนั่นน่ะ น่าตื่นเต้นกว่าเยอะเลย
เพราะเวทีนี้ “ไม่มีไอแพด” ช่วยนะ!
“จะรอด-จะร่วง” ส่วนหนึ่งก็อยู่ที่ “ศาลฯ ถามสด-อุ๊งอิ๊งตอบสด” นี่แหละ
รอดหรือร่วงก็ไม่รู้แหละ รู้แต่ว่า ๒๙ สิงหา.รัฐบาลยังมี แต่คนจะมาใหม่ แบบเซอร์พรายยยยยสสสส์
อุ๊งอิ๊งก็อย่าต้องเสียอก-เสียใจไป ยังไง ชื่อก็ได้ติดบอร์ดนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๑ อยู่แล้วแหละน่า!
นายกฯ ที่คุยฮุนเซนแค่ ๙ นาที แต่พูดแบะท่าผลประโยชน์ต่างตอบแทน “จะเอาอะไรให้บอกอิ๊งได้เลย จะจัดการให้” ถึง ๓ รอบ
ยังดีนะ…..
ที่ฮุนเซนไม่บอก “จะเอาเกาะกูด”!
เปลว สีเงิน
๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๘
