เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จ.บึงกาฬ รายงานความคืบหน้ากรณีเข้าช่วยเหลือ ครอบครัวของเด็กนักเรียนหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียนพลิกคว่ำ บริเวณทางหลวงหมายเลข 2417 บนถนนสายเซกา-นาทม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีเด็กนักเรียนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 42 ราย ว่า ทาง พม. จ.บึงกาฬ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว จากการตรวจสอบ พบว่า นักเรียนเกือบทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ อ.นาทม จ.นครพนม ซึ่งมีระยะทางห่างจาก อ.เซกา 20 กิโลเมตร โดย ศรส. จ.บึงกาฬ ได้ลงพื้นที่โรงเรียนเซกาและโรงเรียนอนุบาลเซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ประสบเหตุรวม 45 ราย เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 42 ราย จำแนกตามสถานศึกษาจำนวน 2 โรงเรียน คือ โรงเรียนเซกา 36 ราย โรงเรียนอนุบาลเซกา 9 ราย 
ในส่วนของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเซกา ซึ่งนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเซกาและได้ให้คณะครูเข้าเยี่ยมพบว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตได้นำร่างกลับไปยัง จ.อ่างทอง 1 ราย และ จ.นครพนม 1 ราย สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 33 ราย ของโรงเรียนเซกา ได้ให้หยุดเรียนเพื่อดูอาการ และดูแลสภาพจิตใจ
สำหรับนักเรียนที่ศึกษาอยู่โรงเรียนอนุบาลเซกา ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 9 ราย โดยมีเด็ก 2 รายที่ได้รับการรักษาบาดแผลอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากได้รับบาดเจ็บบริเวณ มือ ข้อ หัวเข่า โดยทาง ศรส. จ.บึงกาฬได้ติดตามอาการจากครู และผู้ปกครองของเด็กอย่างต่อเนื่อง และจะได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านของเด็กทั้ง 9 ราย เพื่อให้กำลังใจและติดตามปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตามผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเกือบทั้งหมดพักอาศัยอยู่ที่ อ.นาทม จ.นครพนม ทาง ศรส. ต.บึงกาฬ จะได้ประสานความร่วมมือ ศรส. จ.นครพนม กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเยียวยาสภาพจิตใจ ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป
ด้านนายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กล่าวว่า ตนได้ติดตามตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยประสานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยทางถนนกรณีอยู่ในกฎเกณฑ์เรื่องความปลอดภัยทางถนนของเด็กและเยาวชนหรือไม่ ซึ่งเป็นมาตรการความปลอดภัยทางถนน ตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง รวมถึงเรื่องการเยียวยา
