Daryaganj ผู้คิดค้นบัตเตอร์ชิกเก้นและดาลมัคคานี นำสูตรต้นตำรับที่มีมาตั้งแต่ปี 1947 มามอบประสบการณ์รสชาติอาหารเหนือของอินเดียแก่นักชิมชาวไทย ที่กรุงเทพฯ

ก้าวแรกสู่ตลาดต่างประเทศของร้านอาหารเหนือชื่อดังของอินเดีย Daryaganj เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยนำประสบการณ์กว่าเจ็ดทศวรรษของมรดกทางอาหารมาสู่กรุงเทพฯ ร้านตั้งอยู่ในโรงแรม Park Plaza Bangkok Soi 18 ก่อตั้งโดย ราฆาฟ จากกี หลานชายของ คุณกุนดาน ลาล จากกี – ผู้คิดค้นเมนูบัตเตอร์ชิกเก้นและดาลมัคคานี เมื่อปี 1947 ณ กรุงเดลี – ร่วมกับ อมิต บักกา – นักธุรกิจผู้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็กของเขา โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม เพื่อเฉลิมฉลองก้าวสำคัญของแบรนด์สู่ตลาดโลก
ตำนานแห่งนวัตกรรมด้านอาหาร
เรื่องราวของบัตเตอร์ชิกเก้นย้อนกลับไปยังอินเดียหลังการแบ่งแยกดินแดนในปี 1947 เมื่อ กุนดาน ลาล จากกี ผู้อพยพจากเปชาวาร์ ได้ร่วมก่อตั้งร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่าน Daryaganj ของกรุงเดลี ที่นั่นเองที่เขาได้สร้างสรรค์เมนู บัตเตอร์ชิกเก้น และ ดาลมัคคานี ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของอาหารอินเดียเหนือ และได้รับความนิยมไปทั่วโลก




นอกจากนี้ จากกียังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้คิดค้น ไก่พาโกรา (Chicken Pakora) และมีบทบาทสำคัญในการทำให้เมนูคลาสสิกอย่าง ไก่ทันดูรี (Tandoori Chicken), Mutton Seekh และ Mutton Burrah เป็นที่นิยมในร้านอาหารอินเดียทั่วโลก
มีการกล่าวขานว่า ในช่วงดึกของวันหนึ่ง ลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่หิวอย่างมากเดินทางมาถึงร้าน โดยหนึ่งในลูกค้าประจำแนะนำให้จากกีปรุงเมนูที่เป็นแกงเพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มรส ด้วยวัตถุดิบที่มีเพียงไก่ทันดูรีที่เหลืออยู่ จากกีจึงปรุงแกงเข้มข้นจากมะเขือเทศ เนยสด และเครื่องเทศสูตรลับ
ก่อนจะนำไก่ทันดูรีลงไปคลุกเคล้าในแกงนั้น จนทำให้เกิดบัตเตอร์ชิกเก้นที่กลายเป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์พิเศษ โดยต้องนำไก่ไปย่างในเตาทันดูรีก่อน แล้วจึงนำไปปรุงในซอสมะเขือเทศเนยสดที่เข้มข้น
ในช่วงหนึ่งของปี 1947 ลูกค้าชื่อ ซูชา ซิงห์ แนะนำให้ กุนดาน ลาล จากกี ทดลองพัฒนาเมนู Maa Ki Dal หรืออาหารที่ทำมาจาก ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นของแคว้นปัญจาบ จากกีจึงต้มถั่วดำอย่างช้าๆ ตลอดทั้งคืนบนเตาทันดูรี พร้อมมะเขือเทศ เนยสดขาว และสมุนไพรกับเครื่องเทศที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน จนได้เป็นเมนู ดาลมัคคานี สูตรเข้มข้นที่กลายเป็นตำนาน
ปัจจุบัน มรดกตำรับอาหารนี้สืบทอดโดย ราฆาฟ จากกี หลานชายของกุนดาน ลาล จากกี และ อมิต บักกา นักธุรกิจร้านอาหารมากประสบการณ์พร้อมรางวัลมากมาย ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็กและร่วมกันก่อตั้ง Daryaganj ในปี 2019 เพื่อเป็นเกียรติแก่สูตรอาหารต้นตำรับที่คุณปู่สร้างขึ้น วันนี้พวกเขากำลังขยายตำรับอาหารนี้ออกไปนอกอินเดีย โดยกรุงเทพฯ นับเป็นสาขาต่างประเทศแห่งแรก
ราฆาฟ จากกี กล่าวว่า “เส้นทางของคุณปู่ผมเริ่มต้นจากครัวในเมืองเปศวาร์ ความหลงใหลในรสชาติของเขาทำให้เกิดเมนูระดับตำนานอย่าง บัตเตอร์ชิกเก้น และ ดาลมัคคานี ช่วงเวลาหลังการแบ่งแยกดินแดนระหว่างอินเดีย-ปากีสถาน คุณปู่มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนโฉมอาหารอินเดียแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เราจะขยายตำรับอาหารของเขาสู่ระดับโลก ผมมักนึกถึงความถ่อมตนและความตั้งใจแน่วแน่ของเขาในการพัฒนาอาหารอินเดียเหนือเสมอ”
อมิต บักกา ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ กล่าวเสริม “การเปิดร้าน 15 แห่งในอินเดียเป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยม และตอนนี้เรากำลังนำรสชาติแท้ๆ ของอินเดียเหนือมาสู่กรุงเทพฯ เรามั่นใจว่าคุณภาพอาหาร การต้อนรับที่อบอุ่น และประสบการณ์การรับประทานอาหารที่กระตุ้นทั้งห้าประสาทสัมผัส จะดึงดูดทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก”
“อาหารของเราปรุงจากวัตถุดิบคุณภาพสูง คัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ทุกจานสะท้อนถึงความใส่ใจในคุณภาพ อาหารของเราคลาสสิกเหนือกาลเวลาไม่ได้เผ็ดจัดหรือหนักจนเกินไป เราจึงมั่นใจว่า Daryaganj จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวกรุงเทพฯ ด้วยฐานลูกค้านักเดินทางทั่วโลก เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะนำ Daryaganj สู่เวทีระดับสากล” อมิต กล่าวเสริม
จากการที่อมิตได้ดูแล Daryaganj ซึ่งคว้ารางวัลอันทรงเกียรติกว่า 60 รายการ และได้รับการยอมรับในระดับประเทศผ่านรายการเรียลลิตี้ชื่อดัง Shark Tank India นั้น ช่วยตอกย้ำสถานะของร้านในฐานะตำนานแห่งบัตเตอร์ชิกเก้น และตอนนี้ กรุงเทพฯ กำลังจะได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ของเมนูระดับตำนานนี้เป็นครั้งแรก!
นำรสชาติแท้ของอาหารอินเดียเหนือสู่กรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ ได้รับการจัดอันดับให้เป็น เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2024 มีนักเดินทางต่างชาติกว่า 32.4 ล้านคน แซงหน้าจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างลอนดอน ปารีส และดูไบ โอกาสนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่ Daryaganj จะได้นำรสชาติระดับตำนานมาสู่มหานครที่เต็มไปด้วยสีสันด้านอาหาร ชุมชนชาวต่างชาติที่ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของอาหารอินเดียในกลุ่มคนไทย และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง ล้วนทำให้กรุงเทพฯ เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเปิดตัว Daryaganj พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ดั้งเดิม และผสานไปกับรสชาติที่ร่วมสมัย ให้กับนักชิมชาวอินเดีย ไทย และนานาชาติ
ชัยยุทธ ศักดิ์จิระพงศ์ และ กวิน ศักดิ์นฤหล้า หุ้นส่วนของ Daryaganj ในประเทศไทยและเจ้าของโรงแรม Park Plaza Bangkok Soi 18 กล่าวว่า “กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เปิดรับความหลากหลายทางอาหาร และให้คุณค่ากับรสชาติดั้งเดิม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเปิดตัว Daryaganj สู่ตลาดโลก เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการนำร้านอาหารอินเดียระดับตำนานนี้มาสู่ประเทศไทย”
พื้นที่ร่วมสมัยที่แฝงด้วยประเพณีวัฒนธรรม
การออกแบบภายในของ Daryaganj กรุงเทพฯ เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง กลิ่นอายวินเทจสุดคลาสสิก กับ ความหรูหราทันสมัย โดยนำแรงบันดาลใจจากศิลปะ Indian Art Deco มาตีความใหม่ให้เข้ากับประสบการณ์การรับประทานอาหาร ทุกองค์ประกอบได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้คงคุณค่าความคลาสสิก และสะท้อนพลังของปัจจุบัน
บรรยากาศภายในใช้ พื้นผิวธรรมชาติและโทนสีอบอุ่น โครงสร้างไม้ขัดมัน ทองเหลืองแวววาว และงานฉลุลวดลายที่นำมารวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างประณีต กระจกแกะสลักด้วยมือและกระเบื้องลายเรขาคณิตให้ความรู้สึกคลาสสิก ขณะที่พื้นหินอ่อนเรียบหรูช่วยเสริมความทันสมัย ภาพถ่ายเก่าแก่และแสตมป์อินเดียวินเทจที่ประดับอยู่ตามผนังช่วยถ่ายทอดเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์


หัวใจสำคัญของร้านคือครัวแบบเปิด ที่จัดวางเตาทันดูรีและเตาย่างแบบดั้งเดิมไว้ด้านหน้า ให้ลูกค้าได้ชมเชฟรังสรรค์อาหารกันแบบสดๆ เพิ่มประสบการณ์ที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีบาร์ที่ออกแบบอย่างสวยงาม โดดเด่นด้วย กระจกโค้งงามสง่า แสงไฟบรรยากาศ และองค์ประกอบทองเหลืองสร้างบรรยากาศที่ทั้งหรูหราและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มคลาสสิก หรือค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรสชาติอินเดีย ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัวกับอาหารที่โดดเด่นไปด้วยส่วนประกอบของเครื่องเทศ
การเดินทางแห่งรสชาติที่ได้มาจากมรดกตกทอดด้านอาหาร
Daryaganj คือการเฉลิมฉลองอาหารอินเดียเหนือแบบคลาสสิก ที่ทุกจานล้วนถ่ายทอดรสชาติอันเข้มข้น ประวัติศาสตร์อันยาวนาน และความประณีตในทุกขั้นตอนการปรุง เมนูของร้านได้รับการรังสรรค์รสชาติและเทคนิคการทำอาหารในยุคศตวรรษที่ 20 จาก Daryaganj ย่านเก่าแก่ในกรุงเดลีซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับชื่อร้าน โดยให้เกียรติรากเหง้าของอาหารอินเดียในยุคหลังได้รับเอกราช
แม้เมนูสูตรต้นตำรับจะยังคงเป็นหัวใจหลักของการรับประทานอาหารที่ Daryaganj กรุงเทพฯ ทางร้านยังได้เปิดตัว Daryaganj Gold Menu ที่นำความคลาสสิกมาผสมผสานกับนวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่
สองรสชาติของบัตเตอร์ชิกเก้นระดับตำนาน
ลูกค้าใน Daryaganj กรุงเทพฯ จะได้สัมผัสกับ บัตเตอร์ชิกเก้น สองสูตรที่สะท้อนการพัฒนาของเมนูนี้
The Original 1947 Butter Chicken – สูตรลับที่รักษาเนื้อสัมผัสแบบดั้งเดิม และความเข้มข้นของรสชาติจากยุคครัวแบบเดิม
Today’s Butter Chicken – สูตรที่พัฒนาให้ไก่เนียนนุ่มและเข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับรสนิยมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
เมนูระดับตำนานจากปี 1947
The Original 1947 Dal Makhani – สูตรต้นตำรับของ กุนดาน ลาล จากกี ปรุงจากถั่วดำที่เคี่ยวข้ามคืนพร้อมเนยสด ใบลูกซัดแห้ง และมะเขือเทศสุกจากเถาที่นำมาบดแบบสดๆ
The Original Tandoori Chicken – ไก่หมักโยเกิร์ตและเครื่องเทศสูตรลับ ย่างในเตาทันดูรีทั้งกระดูก สูตรต้นตำรับที่คิดค้นโดย โมคา ซิงห์ ที่ปรึกษาของจากกีในยุค 1920 ที่เปศวาร์
The Original Chicken Pakoda – ไก่ไร้กระดูกทอดกรอบในแป้งสูตรพิเศษ ปรุงรสด้วยเมล็ด Caromและผักชีบดสด
The Original Butter Paneer – คอจเทจชีสทิกก้าชิ้นนุ่มในซอสมะเขือเทศและเนย เพิ่มความหอมด้วยพริกเขียวและขิงซอย
เปิดตัว Daryaganj Gold Menu
Daryaganj Gold Menu มีเฉพาะที่กรุงเทพฯ โดยนำเสนอรสชาติที่หลอมรวมระหว่างมรดกด้านอาหารและนวัตกรรมได้อย่างนุ่มนวล รังสรรค์โดย เชฟภารัต เอส. บัท (Chef Bharath S. Bhat) ที่ปรึกษาด้านอาหารของ Daryaganj ซึ่งได้สร้างสรรค์เมนูพิเศษที่สะท้อนรสชาติอินเดียเหนือในมุมมองใหม่พิเศษสำหรับสาขานี้เท่านั้น
ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ในวงการอาหาร ทั้งในอินเดีย ตะวันออกกลาง และกรุงเทพฯ เชฟ ภารัต เอส. บัท (Bharath S. Bhat) เป็นเชฟชาวอินเดียคนแรกที่คว้าชัยในรายการ Iron Chef Thailand วิสัยทัศน์ของเขาคือการสร้างสรรค์เมนูร่วมสมัยที่ยังคงเอกลักษณ์ของอาหารอินเดียเหนือ ขณะเดียวกัน เชฟอภิเษก ยาดาฟ (Abhishek Yadav) หัวหน้าเชฟจากอินเดีย ยังคงมุ่งมั่นรักษาสูตรต้นตำรับให้สมบูรณ์แบบที่สุด
ไฮไลต์จาก Daryaganj Gold Menu ประกอบไปด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยสุดพิเศษ Stuffed Kashmiri Morels – เห็ดมอเรลเนื้อละเอียด สอดไส้หน่อไม้ฝรั่งรสกลมกล่อม Amritsari Soft Shell Crab – ปูนิ่มทอดปรุงรสด้วยเมล็ด Carom เสิร์ฟพร้อมโฟมวาซาบิเบาๆ Keema Tak-a-Tak – เนื้อแกะสับรสเข้มข้น เสิร์ฟคู่กับ jeera khari fans แป้งอบกรอบหอมยี่หร่า
เมนูจานหลักระดับตำนาน ประกอบด้วย Lobster Afghani Malai – กุ้งล็อบสเตอร์หมักในซอสครีมเข้มข้น เสิร์ฟคู่กับสลัดส้มเผาเพิ่มรสเปรี้ยวสดชื่น 24 Carat Lamb Rack Biryani – บิรยานีระดับพรีเมียม ข้าวบาสมาติปรุงด้วยหญ้าฝรั่นและเครื่องเทศอุ่นๆ ซ้อนชั้นกับซี่โครงแกะเนื้อนุ่ม เคลือบด้วย ทองคำ 24 กะรัต
ขนมหวานประกอบด้วยเมนูดั้งเดิม อย่าง Gulab Jamun & Ras Malai – ขนมอินเดียคลาสสิกที่ทุกคนหลงรัก หรือจะเลือกการผสมผสานของนวัตกรรม อย่าง Rose Tiramisu – ทีรามิสุสูตรพิเศษที่เติมกลิ่นกุหลาบ Saffron Rasmalai Tres Leches – Rasmalai ที่ผสานความนุ่มของเค้ก Tres Leches เข้ากับความหอมของหญ้าฝรั่น และ Mango Gold Makhan Malai – ขนมครีมฟูเบารสนุ่ม ตกแต่งด้วยทองคำ นอกจากนี้ยังมี Kulfi Sticks – ไอศกรีมแท่งแบบดั้งเดิมจากอินเดีย ให้สัมผัสละลายช้าและรสเข้มข้น มาช่วยเติมเต็มความหลากหลายของเมนูของหวาน
เรื่องราวผ่านจานอาหาร
การเปิดตัวของ Daryaganj กรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่การเพิ่มร้านอาหารอินเดียอีกร้าน แต่เป็นการสานต่อเรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อกว่า 77 ปีที่แล้ว หลังการแบ่งแยกประเทศ สำหรับชาวอินเดียที่โหยหารสชาติจากบ้านเกิด
สำหรับชาวต่างชาติที่มองหาความคุ้นเคยแต่แตกต่าง และสำหรับนักชิมที่อยากลิ้มลอง Butter Chicken สูตรต้นตำรับของแท้ Daryaganj ไม่ได้นำเสนอแค่มื้ออาหาร แต่เป็นการเสิร์ฟ “ประวัติศาสตร์” ลงบนจาน
ด้วยรากฐานที่ลึกซึ้งและสูตรอาหารที่ผ่านการปรับแต่งอย่างพิถีพิถัน Daryaganj กรุงเทพฯ พร้อม ยกระดับมาตรฐานใหม่ของอาหารอินเดีย
Park Plaza Bangkok, 9 ถนนสุขุมวิท ซอย 18 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทร.0-2658-7077 e-mail: [email protected]
เวลาเปิดทำการ: 18:30 น. – 23:30 น.
Instagram: @daryaganjbangkok
Facebook: daryaganjbangkok