ผักกาดหอม
“เฒ่าโจ” ช่างร้ายกาจมาก…
ข่าวต่างประเทศที่อื้อฉาวที่สุด ณ วินาทีนี้ คงหนีไม่พ้น “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามอภัยโทษให้ “ฮันเตอร์ ไบเดน” ก่อนการฟังคำพิพากษา คดีซื้อปืนผิดกฎหมาย และเลี่ยงภาษี ช่วงกลางเดือนนี้
ทั้งๆ ที่ประกาศมาตลอดว่าจะไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
แต่กลับลำซะงั้น
อเมริกันชนก็ด่ากันยับสิครับ!
“ไบเดน” ใช้เหตุผลฟังดูคุ้นๆ เหมือนจะลอกการบ้านจากประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อ้างว่า คดีนี้มีแรงจูงใจทางการเมือง
กระบวนการยุติธรรมบกพร่อง
แต่ผลมันคือ “ฮันเตอร์” ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากผู้ต้องหาคดีลักษณะเดียวกัน เนื่องจากเป็นลูกชายของประธานาธิบดี
“ฮันเตอร์” ไม่ต้องแกล้งป่วย ไม่ต้องไปนอนชั้น ๑๔
แถมไม่มีใครหน้าไหนสามารถเพิกถอนการอภัยโทษได้
และในวันที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” เป็นประธานาธิบดีเต็มตัวแล้ว ก็ไม่มีอำนาจถอน!
เป็นเรื่องน่าเศร้าแทนอเมริกันชน “ไบเดน” เคยวิพากษ์วิจารณ์ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ใช้อำนาจในการอภัยโทษให้แก่พวกพ้อง
แต่สุดท้ายเป็นเสียเอง
เลือกเส้นทางเดียวกับ “ทรัมป์”
จะไปว่า “เฒ่าโจ” คนเดียวคงไม่ได้ เพราะอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายต่อหลายคนก็เคยนิรโทษกรรมให้พี่น้องและพวกพ้องมาแล้วเกือบทั้งนั้น
เช่น “บิล คลินตัน” เคยใช้อำนาจอภัยโทษสามีของเศรษฐินีผู้บริจาครายใหญ่ให้พรรคเดโมแครต
นั่นคือ “มาร์ก ริช” นักการเงิน ที่ถูกตั้งข้อหาเลี่ยงภาษี
“คลินตัน” ยังอภัยโทษให้พี่ชายคือ “โรเจอร์ คลินตัน จูเนียร์” จากความผิดฐานสมคบคิดจำหน่ายโคเคน ในวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งในปี ๒๐๐๑ อีกด้วย
อเมริกาเป็นประเทศต้นตำรับแห่งความโปร่งใส ก็ยังให้อำนาจผู้นำทำอะไรแบบนี้ได้
ถ้าประเทศไทยให้อำนาจนายกรัฐมนตรีสามารถอภัยโทษผู้ทำผิดกฎหมายได้ บรรลัยแน่นอนครับ
จะไม่มีนักการเมืองติดคุกแม้แต่วันเดียวเลยสักคน
มาเข้าเรื่องกันครับ วานนี้ (๓ ธันวาคม) เรื่อง “บุญทรง เตริยาภิรมย์” ได้พักโทษ ใส่กำไลอีเอ็มกลับไปนอนบ้านที่เชียงใหม่
มีการแตกประเด็นไปเยอะพอควร
“ทวี สอดส่อง” บอกกับนักข่าวว่า ไม่เฉพาะ “บุญทรง” คนเดียวเท่านั้นที่ได้รับพักโทษ
ยังมีเพื่อนร่วมรุ่นคดีทุจริตจำนำข้าว โดยเฉพาะข้าราชการที่รับใช้ถวายหัว ก็ได้รับการพักโทษด้วย
ยกเข่งกันเลยทีเดียว
ถ้าเป็นไปตามกฎหมายก็ไม่มีอะไรขัดข้องครับ กรณีนี้ถือว่านักโทษทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ต่างไปจาก นักโทษที่ไปนอนตากแอร์ห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ รายนั้นมีโอกาสกลับมาติดคุกจริงอยู่เหมือนกัน
อย่าทำเป็นเล่นไป
อีกประเด็นที่พูดถึงกันมากคือกรณี “บุญทรง” เป็นใบเบิกทางให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” กลับไทยหรือเปล่า
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเบิกทางไหน
บก น้ำ หรือ อากาศ
ตอนนี้มองไม่ออกจริงๆ นอกจากกลับมาติดคุกเสียก่อน
แต่นั่นเรื่องเล็กกครับ เรื่องใหญ่คือคำให้สัมภาษณ์ของ นายกฯ แพทองธาร
ฟังแล้วปวดกบาลแทน!
นักข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการปูทางและเปิดทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับไทย
คำตอบคือ….
“…ท่านบุญทรงเป็นผู้ต้องขัง ท่านยิ่งลักษณ์ไม่ได้เป็น ไม่น่าจะเกี่ยวกัน และจากการฟังท่านทวี สอดส่อง รัฐมนตรียุติธรรม เขาก็เข้าเกณฑ์ใช่หรือไม่ ก็ปล่อย และก็มีคนเข้าเกณฑ์อีกมากมาย อันนั้นเป็นเกณฑ์ของทางราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรมทราบดี ไม่เกี่ยวกับอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์อยู่แล้ว เป็นคนละสถานการณ์กัน…”
ก็ไม่รู้ว่าเจตนาจะบอกอะไรกับประชาชนครับ
จะบอกว่าไม่เหมือนกันเพราะคนหนึ่งติดคุก อีกคนหนีคุกใช่หรือไม่
ทำไมไม่พูดตรงๆ
แต่นายกฯ พูดราวกับว่า “ยิ่งลักษณ์” ไม่ใช่ผู้ต้องขัง ไม่มีความผิดอะไรติดตัวเลย
ก็ไม่ทราบครับว่า “ยิ่งลักษณ์” ในมุมมองของ นายกฯ แพทองธาร อยู่ในสถานการณ์อะไร
แต่ก็พอเดาได้จากคำให้สัมภาษณ์อีกท่อนหนึ่ง
นักข่าวถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ประสานมาหรือไม่ว่าจะกลับไทยเมื่อไหร่อย่างไร
คำตอบคือ…
“…ไม่มีค่ะ เหมือนเดิม โทร.คุยเฉยๆ ค่ะ…”
ตอบแบบนี้ก็ฉิบหายสิครับ!
ลืมอะไรไปหรือเปล่า?
วันนี้ “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยแล้วนะครับ
เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ!
เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
เป็นบุคคลซึ่งใช้อำนาจทางการปกครองของรัฐในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามกฎหมาย
มีหมวกอีกใบ ไม่ใช่ หลาน อา เหมือนเมื่อก่อน
หลาน อา โทร.คุยกัน ใครจะไปว่าอะไรครับ
แต่นายกรัฐมนตรี โทร.คุยกับนักโทษหนีคุก เป็นปกติวิสัยไม่ได้ครับ
ที่จริงนับตั้งแต่ “แพทองธาร” เป็นนายกฯ ให้สัมภาษณ์ในบริบทนี้มาแล้ว ๒-๓ ครั้ง แต่ไม่มีใครไปสะกิดว่า พูดแบบนั้นไม่ได้
“ยิ่งลักษณ์” มีหมายจับคดีปล่อยทุจริตจำนำข้าวที่ศาลสั่งจำคุก ๕ ปี แปะบนหน้าผากอยู่นะครับ
คนเขารู้กันทั้งประเทศ
“หลานอาปู” ก็รู้
แต่ทำไม ราวกับว่า “แพทองธาร” ไม่รู้
ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ รู้ว่านักโทษหนีคุก มีหมายจับ อาศัยอยู่ที่ไหน เป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินการให้มีการจับกุม ลากคอมาลงโทษให้ได้
ถ้ารู้แล้วไม่ทำ ก็ ม.๑๕๗ ครับ
กรณีนี้มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ว่า นายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือ นักโทษหนีคุก ให้ไม่ต้องกลับมารับโทษที่ประเทศไทย
แล้วแต่นักร้องเลยครับ!
