เปลว สีเงิน
“เศรษฐกิจ-การเมือง”………
เป็นปัญหาโถมกระแทก “สังคมประเทศ” หนักนะช่วงนี้
อย่าไปโทษ “ตัวหนักแผ่นดิน” ตัวนั้นเลย!
ถ้าจะโทษ
ก็ต้องโทษ “รัฐบาลเศรษฐา-เพื่อไทย” นั่นแหละ พูดกันจากผลงาน ๑๐ เดือน นอกจากโม้และขนสมุนบริวารเข้ามายึดครองทางการเมืองแล้ว
ด้วยประชาธิปไตย “คอร์รัปชันนิยม”
ทุกอย่างมัน “แพงทั้งแผ่นดิน” โรงงานปิดระนาว คนตกงาน ชาวบ้านไม่มีกิน-ไม่มีใช้ เศรษฐาทำได้แค่ “โม้ไปวันๆ” กับจ้องจะแจกเท่านั้น!
ที่เคยด่ารัฐบาลประยุทธ์ “๙ ปีมีแต่ทำประเทศล้าหลัง”
แต่ ๑๐ เดือน เพื่อไทยนี่แหละ ทำประเทศ “ล้าหลัง-ถอยหลัง” ของจริง
งบลงทุน..มี แต่รัฐบาลไม่ลงทุนเลยซักบาท
เอา “งบลงทุน” เป็นแสนๆล้าน ไปทำ “เงินดิจิทัล” แจกหาเสียง
เมื่อภาครัฐไม่ลงทุน การจ้างงานก็ไม่มี สภาพคล่องในระบบก็แห้ง การจับจ่ายใช้สอยก็น้อยลง การผลิตสินค้าก็จอด
เศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้าน ก็เจ๊ง!
รัฐบาลอยู่ในสภาพ “ลิงแก้แห” เร่งเปิดกาสิโนบ้าง ออกหวยเกษียณบ้าง ออกหวย ๓ ตัว ใช้คำว่า “หวยเลข ๓ หลัก” แก้ขวย บ้าง
อบายมุขนำหน้า นักบริหาร “สิ้นคิด” เท่านั้น ที่ทำ!
อบายมุข มันอาหารกินเล่น ไม่ใช่เรื่องหลัก ที่จะใช้เป็นนโยบายเพื่อฐานรากประเทศ รอ วรัญชัย โชคชนะ มาเป็นนายกฯ ก็ทำได้
แต่ “เศรษฐกิจ-สังคม-การลงทุน” รากฐานบ่งชี้อนาคตประเทศนั่นตะหาก ที่ผู้บริหารระดับนายกฯต้องคิดและมีแผนพัฒนาทั้งคน ทั้งระบบ
ความจริง รัฐบาลประยุทธ์เขาวางรากฐานสู่อนาคตยั่งยืนไว้ให้หลายโครงการ ทั้งโทรคมนาคนพื้นฐาน “รถ-เรือ-ราง-อากาศ”
ทั้งโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ด้วยอุตสาหกรรมนวัตกรรมสู่ศตวรรษที่ ๒๑
ถึงขั้นมีเมืองอัจฉริยะ เพิ่มทักษะ “วิจัย-พัฒนา” ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีไอทีทั้งหมด
ทั้งสิ่งแวดล้อม, เศรษฐกิจ, พลังงาน, การบริหารภาครัฐ, การดำรงชีวิตอัจฉริยะ และฯลฯ ทุกอย่างในชั้น “อัจฉริยะ”
“สมาร์ท ซิตี้” หรือ “เมืองอัจฉริยะ” ใน EEC นี้ เป็นเมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งโลกทั้งใบจะขับเคลื่อนไปสู่จุดนั้นในอนาคตทั้งสิ้น
๙ ปี ประยุทธ์ วางไว้ให้กระทั่ง “วังจันทร์ วัลเลย์” เมืองนวัตกรรมเทคโนโลยีต้นแบบอัจฉริยะ เป็น “ซิลิคอนวัลเลย์” แห่งอาเซียน
“ปตท.” ของเรานี่แหละ ร่วมมือกับ “สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ” (สวทช.) พัฒนาให้เป็นต้นแบบและจะเป็น “หัวเจาะ” ให้ประเทศสู่เมืองนวัตกรรม
๑๐ เดือน เศรษฐา พ่นน้ำลายกระจาย ……..
แต่ EEC คำเดียวในเนื้องาน-เนื้อนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทยทางต่อยอด ไม่กระเซ็นจากปากเลยซักคำ!?
ยังไม่พูดถึงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก
สนามบินอู่ตะเภา รถไฟฟ้าเชื่อม ๓ สนามบิน รถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน รถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และด้วยวิสัยทัศน์พลเอกประยุทธ์ ลงทุนสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเอง ไม่ให้จีนสร้างให้
ยอมให้คนด่าทั้งเมืองว่า…ช้า ประยุทธ์มันคิดบ้าอะไรของมันวะ?
โดยเจรจาจีน จนจีนยอม “ถ่ายทอดโนว์ฮาว” การสร้างระบบรางรถไฟฟ้าความเร็วสูงให้คนไทย
ซึ่งปกติแล้ว เรื่อง “องค์ความรู้” เป็นของมีค่าหวงแหน ไม่มีใครยอมถ่ายทอดให้ใครง่ายๆ แต่จีนกัดฟันถ่ายทอด “ให้ไทย”
ต่อจากนี้ “วิศวกรรถไฟไทย”….
จะเป็นเจ้าเดียวในอาเซียน สามารถสร้างระบบ “รางรถไฟฟ้าความเร็วสูง” ได้เอง!
ประเทศ ไม่มี Know How ต่อให้มีเงิน ก็ไม่มีอนาคต ถึงมี ก็เป็นอนาคต “ผู้บริโภค-ผู้รับจ้างผลิต”
สินค้า ๑๐๐ บาท ผู้รับจ้างผลิตได้ ๑ บาท เป็นค่าแรง ส่วนอีก ๙๙ บาท เจ้าของ Know How ขนกลับประเทศ! ตัวอย่างเห็นได้จากอุตสาหกรรมรับจ้างประกอบรถยนต์ทุกวันนี้ในบ้านเรา!
เห็นมั้ย การลงทุนทางเทคโนโลยีสู่อนาคต มีใครเขามาลงทุนในไทยบ้าง ได้ยินแต่ กูเกิ้ล บ้าง อีลอน มัสก์ บ้าง เซมิคอนดักเตอร์ บ้าง
ย้ายฐานการผลิตไปอินโดฯ ไปมาเลย์ฯ ไปสิงคโปร์ฯ ไปเวียดนาม ที่เศรษฐาพล่านเชิญใครต่อใครมาลงทุน ไม่มีใครมาซักราย
ที่มี ก็ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้ว!
เพราะอะไร เพราะ ๓ ง. “โง่ งก เงิน” (แจก) นั่นไง
ตอนเศรษฐาเป็นนายกฯ ปั๊บ ประกาศ ทุ่ม ๕ แสนล้าน Upskill ยกเครื่อง-ยกระดับ “ฝีมือแรงงานไทย” ทั้งระบบ
คือรื้อโครงสร้าง “การเรียน-การสอน” ในระบบศึกษา ทั้งหมด ด้วยเงินก้อนนั้น แทนเอาไปแจก
มันจะ “ช็อกโลก” นักลงทุนจะปักหมุดที่ชื่อประเทศไทยทันที!
แต่นี่ เอาเงิน ๕ แสนล้านไปแจกเป็นไอติม พวกรัฐบาลแทะแล้วเหลือให้ชาวบ้านเลียๆ ดูดๆ แป๊บเดียวก็หมดไป ไม่สร้างอะไรด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เลย!
ในประเทศที่มีแต่คนโง่ คนงก งมงาย ชำนาญแต่ชุมนุมประท้วง เก่งแต่เรียกร้องค่าแรง แล้วหยุดงาน
แต่ทักษะในงาน ด้วยองค์ความรู้ที่จะเป็น “แรงงานฝีมือ” ด้านอุตสาหกรรมนวัตกรรม ไม่มีเลย
แล้วใครจะมาลงทุน?
ก็มีพวกทำ “กาสิโน” ธุรกิจ “กินคน” เท่านั้น ที่ต้องการเข้ามาลงทุน เพราะทรัพยากรหลักที่เขาต้องการ ไม่ใช่คนมีทักษะฝีมือ
หากแต่เป็นประเภท “ยิ่งโง่-ยิ่งดี”!
นี่เห็นข่าว “ถุงขนม” ไปหกที่ฮ่องกงอีกแล้วมิใช่หรือ ไทย ดี เด่น ดัง ด่านนี้ นักลงทุนดีๆ เขาถึงยี้ ประเภทอัปปรีย์เท่านั้น ที่ชอบ
ความจริง เศรษฐา เป็นคนดี
แต่เป็นนายกฯ ที่ห่วย อยากรู้ห่วยจริงหรือไม่ ไปเอาคลิปเสียงตัวเองตอนตะโกนกับชาวบ้านมาฟังอีกที
แล้วเอาแต่ละเรื่องที่คุยโตมาเทียบกับที่ทำใน ๑๐ เดือนดู มันหน้ามือกับหลังมือเลย!
ที่พูดนี่ มิประสงค์ร้ายต่อรัฐบาลเพื่อไทย อยากให้เพื่อไทยอยู่บริหารประเทศไปให้ครบ ๔ ปีด้วยใจจริง
เปลี่ยนตัวนายกฯ เป็นเรื่องปกติ
แต่ใครก็อย่าผลักดันให้ “เปลี่ยนรัฐบาล” ชุดนี้เป็นอันขาด คนไทยสมควรได้รับบทเรียนเป็นความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน เป็นแส้โบย “ความสำนึก” ในการเลือกสส.จริงๆ จังๆ ซะที!
ให้ “เพื่อไทย-เพื่อทักษิณ” ที่เขาเทิดทูนนี่แหละเป็นรัฐบาลบริหารไป ไปให้มันสุด ให้มันเจ็บ ให้มันจำ
จะได้รู้ การเป็น “นางทาส” ที่ถูกจิกหัวขึ้นมาตบแล้วขยี้จูบ แท้จริงมันสุขหรือทุกข์ทรมาน?
ครั้งต่อๆ ไป ถ้ายังไม่เข็ด ก็เลือกกันต่อไป ถ้าเข็ด อยากเปลี่ยน “นกกระสา” ตัวใหม่ ก็ว่ากันไป ก็นี่…ประชาธิปไตยกินได้ ที่ชอบกันไงล่ะ!
ถ้าใครเข้ามาขัด มาล้ม-มาล้าง รัฐบาลเพื่อไทยไปตอนนี้ ผมถือว่า ไม่ใช่การทำคุณให้ประเทศ
แต่เป็นการทำคุณให้กับพรรคเพื่อไทยมากกว่า!
เพราะเพื่อไทยก็จะเอาไปหาตะแบงเสียง ที่ล้มเหลวไม่ใช่เพราะเขา หากแต่เพราะเขาถูกขัดขวางไม่ให้ทำงานตะหาก
ถ้าให้เขาเป็นรัฐบาลบริหารครบ ๔ ปีละก็ ประเทศไทย คนไทย จะต้องมีกิน มีใช้ มีศักดิ์ มีศรี แน่ๆ!
ฉะนั้น ให้เขาเป็นรัฐบาลไป ก็ไม่เห็นมีใครเดือดร้อนนี่นา ไม่เหมือนตอนรัฐบาลประยุทธ์ ขนาดทำทุกอย่างเป็นเส้นทางให้ประเทศ
ด่ากันเช้า ด่ากันเย็น ปั่นแฮซแท็ก ตั้งกระทู้ โพสต์กระแทกแเดกดัน ทั้งด่า-ทั่งไล่ ตั้งแต่เช้ายันเช้าอีกวัน
ดังนั้น แพงทั้งแผ่นดิน หนี้สินเต็มหัว การค้าเจ๊งระนาว ไข่แพงใบละ ๔ บาท ตอนนี้ เพื่อประชาธิปไตย จะเป็นไรไป
จำไว้…
เศรษฐา เปลี่ยนได้ แต่อย่าเปลี่ยน “รัฐบาลเพื่อไทย”
ให้เป็นซะให้เข็ด เข็ดไปด้วยกัน ทั้งคนเป็นและคนเลือกนั่นแหละ
ขอแถมนิด ดูเว็บ เห็นโพสต์นี้
กองทัพเรือไทย มีเฮลิคอปเตอร์ต่อต้านเรือผิวน้ำแบบที่ 1 (Super-Lynx300) ?
คุณสมบัติ :
1. ต่อต้าน ผู้รุกรานทางน้ำ
2. ต่อต้าน เรือดำน้ำ
3. มีเรดาร์ค้นหา
4. สามารถปฏิบัติการบนเรือขนาดเล็ก ในทุกสภาพอากาศ
ยุทโธปกรณ์ทางทหารมีไว้ป้องกันประเทศ และช่วยเหลือประชาชน
ขอขอบคุณ: ฝูงบิน 203 กองการบินทหารเรือ, กองทัพเรือ
แต่…เอออ เรือขนน้ำมันเถื่อน ๓ ลำ หนีจากสะพานเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ ออกพ้นเขตน่านน้ำไทย แต่ทำไมไม่เห็นเลยล่ะ?
ถามเล่นๆ น่ะ แต่ซีเรียส!
เปลว สีเงิน
๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๗
