ไม่มีอะไรลี้ลับกว่าชั้น ๑๔-เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

ย้อนอดีตกันหน่อย…

นึกถึงตอนที่ พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง ประกาศตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย คำพูดที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในขณะนั้นคือ ฝ่ายประชาธิปไตย กำลังจะตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย

เชื่อว่าหลายคนคิดเหมือนๆ กัน

พรรคก้าวไกลโคตรโง่ ไม่ประสีประสาทางการเมืองเลย

เห็นขี้มูกเป็นเต้าส่วน!

สุดท้ายเป็นไงครับ เหมือนหัวล้านได้หวี วานรได้แก้ว

มีจำนวน สส.มากที่สุด แต่ใช้ไม่เป็น

ที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะ ในอดีตพรรคเพื่อไทยเคยเป็นแบบไหน วันนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้น แต่พรรคก้าวไกลดันมองไม่ออก คิดว่าเป็นแนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตย เป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ใกล้เคียงกัน

เรื่องพรรคก้าวไกล “โง่” คือด่าตรงๆ เลยครับ

โง่จริงๆ

ส่วนตัวประเมินพรรคก้าวไกลไว้สูงกว่าช่วงตั้งรัฐบาลปีที่แล้วเยอะ น่าจะเป็นพรรคการเมืองที่มีประสิทธิภาพทางการเมือง มีไหวพริบมากพอที่จะทำงานใหญ่ได้

แต่ก็เห็นกันแล้ว วันนี้ติดหล่ม ม.๑๑๒ ที่ตัวเองสร้างขึ้นมา เพราะความจองหอง อวดดี เล่นการเมืองตามโซเชียลมากไป จนแทบไม่ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน กลายเป็นเรื่องน่าผิดหวัง

ในขณะที่ “ทักษิณ” มีสถานะนักโทษอยู่ระหว่างการพักโทษ กลับเคลื่อนไหวทางการเมือง มีบทบาทเหนือรัฐบาล แต่พรรคฝ่ายค้านเกือบทั้งหมด ดูเนือยผิดปกติ ราวกับว่ารอเศษเนื้อที่นักโทษเทวดาจะโยนให้

คนที่แสดงบทบาทฝ่ายค้านอย่างแข็งขัน กัดระบอบทักษิณไม่ยอมปล่อย กลับเป็น “หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม” ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็น สส.เพราะประชาชนไม่เลือก

ไม่เห็นคุณค่า ไม่ให้ราคา!

มาเรื่องฝ่ายประชาธิปไตยกันอีกสักนิด เผื่อคนรักทักษิณจะได้หูตาสว่างกันบ้าง

รัฐบาลพรรคเพื่อไทยวันนี้ เหมือนกับการเมืองกัมพูชาในอดีตปนกับเกาหลีเหนือในปัจจุบัน

ประเทศไทยวันนี้มีนายกรัฐมนตรีสองคนเช่นกัมพูชาในอดีต

คนแรกคือ นายกฯ เศรษฐา ในทางกฎหมายคือนายกฯ ตัวจริง แต่ในทางการเมืองคือนายกฯ หุ่นเชิด

คนที่สองอย่างที่รู้กัน “นักโทษชายทักษิณ” ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ชี้นิ้วสั่งนายกฯ หุ่นเชิดได้

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ถอดรูปแบบการตั้งผู้นำมาจากเกาหลีเหนือ

สืบทอดทางสายเลือด

สืบสันดานจากดีเอ็นเอ

“นักโทษชายทักษิณ” เป็นพ่อของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

การเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยพยายามทำให้ดูประหนึ่งว่าเป็นกระบวนการทางประชาธิปไตย แต่ข้อเท็จจริง กรรมการบริหารพรรคทุกคนต้องทำตามคำสั่งเจ้าของพรรคตัวจริง

และวันนี้เจ้าของพรรคตัวจริงแสดงบทบาททางการเมืองโชว์ให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นแล้วว่า ใครคือนายกฯ ตัวจริง

วันเสาร์ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ที่ นายกฯ หุ่นเชิด ต้องนำไปขบคิดว่า จะอยู่ในตำแหน่งอย่างมีศักดิ์ศรีได้อย่างไร

“นักโทษชายทักษิณ” ไปโคราชตอบคำถามนักข่าว ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง ราวกับว่ามีอำนาจเต็มในการบริหารประเทศ

“นักโทษชายทักษิณ” แนะนำให้นายกฯ เศรษฐา เรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจ มีการระบุวันว่าคือวันนี้ (๒๗ พฤษภาคม) เพื่อหามาตรการโด๊ปเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน

ขณะที่นายกฯ เศรษฐาพยายามรักษารูปมวย บอกว่าคนอื่นก็แนะนำ เช่น อนุทิน ชาญวีรกูล

แล้วไง?

ก็ประจานตัวเองสิครับ เศรษฐกิจมีปัญหา แต่คนเป็นนายกฯ ยังไม่รู้ต้องทำอะไรก่อนหลัง

เท่าที่เห็น เก่งแต่เอาผ้าขาวม้าไปขายต่างประเทศ

จนกลายเป็นงานถนัด!

จะขายได้หรือเปล่ามิทราบได้

แต่แทบทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือกลับมาเลย

แลนด์บริดจ์ที่เอาไปขาย โฆษณาว่ามีทุนต่างชาติรุมตอม

แล้วทำไมวันนี้ถึงเงียบเป็นเป่าสาก

บทบาทนายกฯ เศรษฐาจึงกลายเป็นเพียงเด็กฝึกงาน

ผิดกับ “นักโทษชายทักษิณ”

ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนโดยนักโทษผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล

ขณะเดียวกัน “นักโทษชายทักษิณ” กำลังทำลายรัฐบาลเพื่อไทย ด้วยการสร้างเงื่อนไขนำไปสู่การปะทะกันทางการเมืองหลังจากนี้

กรณี ๔๐ สว.ยื่นให้ศาลวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ “เศรษฐา ทวีสิน” และ “พิชิต ชื่นบาน” เป็นการยื่นเพราะเป็นหน้าที่

แต่ “นักโทษชายทักษิณ” ท้าชน!

อ้างการเมืองลี้ลับ

มันไม่มีอะไรลี้ลับไปกว่า นักโทษที่ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว ไปนอนตากแอร์ห้องวีวีไอพีชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ แถมสามารถบงการรัฐบาลได้อีกด้วย

การเมืองวันนี้มันบิดเบี้ยวเสียจนยากจะเชื่อได้ว่าเราอยู่ในรัฐบาลประชาธิปไตย

มีการสร้างเงื่อนไขที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุทางการเมือง

และในสถานการณ์แบบนี้เราก็เห็นความโง่เขลาของพรรคก้าวไกลอีกจนได้

เรื่องที่ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ผ่านโซเชียลว่า

“…ถ้าคุณเศรษฐา ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ก็ต้องพ้นด้วยกลไกของรัฐสภา ที่ยึดโยงกับประชาชน…”

“…ผมไม่เห็นด้วยกับการสถาปนาอำนาจให้กับองค์กรอิสระอย่างศาลรัฐธรรมนูญ ให้มาก้าวล่วงอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ อย่างที่สังคมกำลังคลางแคลงใจกันอยู่…”

พรรคก้าวไกลคิดอย่างไรกับประโยคที่ว่า “มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”

แล้วพรรคก้าวไกลทำอะไรบ้าง หลังมีการตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่แม้แต่สภาทนายความยังยึดตั๋วทนาย

จะใช้กลไกสภาตอนไหน

ปากบอกต้องยึดโยงกับประชาชน แล้วทำไมไม่ทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้เต็มภาคภูมิเสียที

ปล่อยให้ “หมอวรงค์” คนที่ประชาชนไม่ยอมเลือก ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล แทบจะโดดเดี่ยว!

พรรคก้าวไกลก็ดีแต่ปากแบบนี้แหละครับ รัฐบาลถึงได้บริหารประเทศแบบเหิมเกริม

แค่เรื่องข้าวเน่า ๑๐ ปี พรรคก้าวไกลยังไม่มีปัญญาไปทำอะไร

ถนัดหล่อถนัดสวยรำลึกรัฐประหาร ๑๐ ปี ชี้โบ๊ชี้เบ๊ระบอบประยุทธ์ยังอยู่

มันคือความเฮงซวยของนักการเมือง

คิดในมุมกลับโลกยุคนี้การปล่อยให้ระบอบเผด็จการยังอยู่ ในขณะที่ตัวเองชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่เป็นแค่หัวล้านได้หวีที่ถูกเหยียบโดยระบอบทักษิณ ไม่เรียกว่าโง่ จะเรียกว่าอะไร

จากนี้ไปสิ่งที่นักการเมืองทั้งสภาต้องเอาไปขบคิดคือ นักการเมืองแทบไม่เปลี่ยนตัวเอง แต่คณะรัฐประหารรู้จักปรับตัว

รัฐบาลประยุทธ์บริหารประเทศนานร่วมทศวรรษได้เพราะอะไร ขณะที่นักการเมืองได้แต่ชี้หน้าด่าเป็นเผด็จการสืบทอดอำนาจ

เอาไปคิด!

ถ้าคิดออกรัฐประหารไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแน่นอน

Written By
More from pp
ต้องค้นหาคำตอบเอง – สันต์ สะตอแมน
สันต์ สะตอแมน เมา-ไม่เมา..เราไม่รู้! แต่ที่รู้ (จากข่าว) หลังนักร้องหนุ่ม คุณว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์ ขับรถชนรถเก็บขยะ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
Read More
0 replies on “ไม่มีอะไรลี้ลับกว่าชั้น ๑๔-เปลว สีเงิน”