“พิพัฒน์” รุดเยี่ยมครอบครัวแรงงาน เสียชีวิตจากอิสราเอล กำชับแรงงานจังหวัดดูแลสิทธิประโยชน์ทายาทให้ครบถ้วน

19 พฤษภาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะ

ลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายนิพล อัครศรี และนางอมร อัครศรี บิดาและมารดาของนายสนธยา อัครศรี แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากการไปทำงานที่รัฐอิสราเอล เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล

พร้อมมอบถุงยังชีพและมอบเงินเยียวยาเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จากเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ และสิทธิประโยชน์จากเงินกองทุนประกันสังคม

โดยมี นายสุวิทย์ จันทร์หวร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดหนองบัวลำภู ผู้นำชุมชน ร่วมให้การต้อนรับ นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายสันติ นันตสุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม ณ บ้านเลขที่ 67 หมู่ 3 ตำบลบ้านพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู

ทั้งนี้ มีแม่ของนายเสถียร สุวรรณคำ 1 ใน 8 แรงงานไทยที่สูญหายจากสถานการณ์ความไม่สงบอิสราเอล ได้เข้าพบ รมว.แรงงานด้วย เพื่อขอให้กระทรวงแรงงานช่วยติดต่อลูกของตนกลับมาจากอิสราเอล

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ซึ่งท่านได้กำชับให้กระทรวงแรงงานดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแรงงานไทยที่เสียชีวิตเพื่อให้ทายาทได้รับสิทธิประโยชน์ด้านแรงงานอย่างครบถ้วนโดยเร็ว

ในวันนี้ผมและคณะจึงได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล พร้อมมองถุงยังชีพและมอบเงินเยียวยาเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จากเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ และสิทธิประโยชน์จากเงินกองทุนประกันสังคม พร้อมให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของแรงงานไทยที่เสียชีวิตเพื่อให้ญาติทราบและอำนวยความสะดวกในเรื่องของเอกสารขั้นตอนต่างๆ ด้วย

ในส่วนของสิทธิประโยชน์ที่ทายาทผู้เสียชีวิตจะได้รับนั้น ประกอบด้วย

1) สิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีเสียชีวิต โดยทายาทจะได้รับเงินสงเคราะห์ 40,000 บาท และเงินค่าจัดการศพในต่างประเทศ เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากระบบอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ของกรมการจัดหางานในเบื้องต้น พบว่า นายสนธยายังคงอยู่ในความคุ้มครองของกองทุนฯ

2) โครงการเยียวยา 50,000 บาท

3) เงินชดเชยสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีเสียชีวิต โดยครอบครัวจะได้รับเงินช่วยเหลือ เป็นค่าทำศพ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 79,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการฝังศพ เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินประมาณ 47,000 บาท (1,300 usd) เงินช่วยเหลือการเป็นหม้าย ประมาณ 57,000 บาท เงินชดเชยรายเดือน และเงินชดเชยรายปี (จำนวนเงินตามหลักเกณฑ์ที่สถาบันประกันภัยแห่งชาติกำหนด)

4) ติดตาม เงินชดเชยเมื่อสิ้นสุดสัญญาจ้าง (ปิซูอิม) โดยฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟจะเป็นผู้ติดตามให้และขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตาม และ

5) เงินประกันสังคม

ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายสนธยาได้สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนไปแล้ว แต่ยังมีเงินชราภาพซึ่งเป็นเงินบำเหน็จชราภาพที่คงเหลืออยู่ในประกันสังคม โดย นายสนธยา อัครศรี สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน เมื่อปี 2558 มีเงินบำเหน็จชราภาพอยู่ที่ 7,301.68 บาท (ยังไม่รวมดอกผล) และ นายสุทธิศักดิ์ รินทลักษ์ สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน เมื่อปี 2559 มีเงินบำเหน็จชราภาพ 31,108.26 บาท (ยังไม่รวมดอกผล)

ซึ่งท่านไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานทั้งหนองคายและหนองบัวลำภู ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน

ทั้งสองครอบครัวเพื่อให้ญาติทราบและดูแลสิทธิปประโยชน์ให้ครบถ้วน และจากการได้พูดคุยกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต พบว่า บิดา มารดา และญาติพี่น้องทุกคนต่างมีขวัญกำลังใจดีขึ้นโดยลำดับแล้ว

“ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอส่งกำลังใจให้กับแรงงานที่เหลืออีก 6 ราย ให้ได้รับการปล่อยตัวโดยเร็วที่สุด ขอให้ครอบครัวของแรงงานที่เสียชีวิตจากอิสราเอลมั่นใจได้ว่า กระทรวงแรงงาน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามอย่างเต็มที่ ในการดำเนินการประสานทุกฝ่าย เพื่อติดตามสิทธิประโยชน์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงแรงงานให้ได้รับสิทธิ์อย่างครบถ้วนโดยเร็ว

ซึ่งเงินช่วยเหลือของนายสนธยา อัครศรี ที่ญาติจะได้รับเป็นเงินประมาณการอยู่ที่ 320,301.68 บาท ส่วนของนายสุทธิศักดิ์ รินทลักษ์ ทายาทผู้เสียชีวิตที่อยู่จังหวัดหนองคายจะได้รับประมาณ 344,108.26 บาท”

ทั้งนี้ ในส่วนของสิทธิประโยชน์ที่ประเทศไทยในวันนี้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานได้มอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ทายาทแล้ว ส่วนการดำเนินการติดตามสิทธิประโยชน์ที่อิสราเอล ฝ่ายแรงงานฯ จะประสานกับสถานทูตและทางการอิสราเอลเพื่อให้ทายาทได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวโดยเร็วต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าว

Written By
More from pp
นายกฯ จับมือรัฐ เอกชน ประชาชน ในฐานะเจ้าของบ้าน สร้างความมั่นใจ ย้ำคำมั่นเดินหน้าเปิดประเทศ ฟื้นการท่องเที่ยวไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว
14 ตุลาคม 2564 เวลา 12.35 น. ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด...
Read More
0 replies on ““พิพัฒน์” รุดเยี่ยมครอบครัวแรงงาน เสียชีวิตจากอิสราเอล กำชับแรงงานจังหวัดดูแลสิทธิประโยชน์ทายาทให้ครบถ้วน”