เปลว สีเงิน
“ดาวพฤหัสบดี”
เทพเจ้าแห่งคุณธรรม “ดาวปราบมาร” ย้ายบ้านจาก “เมษ” ไปอยู่ “พฤษภ.” แล้ว เมื่อวาน (๓๐ เมย.๖๗)
พฤษภ.เป็นภพ “กดุมภะ” ของดวงเมือง
“กดุมภะ” เป็น “ภพเงิน-ภพทอง”
เมื่อพฤหัสไปอยู่ ก็แปลว่า นับจากวันนี้เป็นต้นไป ๑ ปี จนถึง ๑๓ พฤษภา.๖๘
บ้านเมืองไทยในภาพรวม เงินจะไหลนอง-ทองจะไหลมา การค้า-การขายที่ไหนฟุบ แต่ที่ไทยจะเฟื่อง คนต่างบ้าน-ต่างเมืองจะเฮละโลมา
คนดี จะเรืองระบิล แต่คนกังฉิน จะฉิบหาย ตายโหง
คนสุจริต-คิดชอบ จะติดเทอร์โบ คนคิดคด-ทรยศชาติ จะวิบัติวอดวาย บริวารจะหน่าย-ลูกเมียจะหนี
ใครมีที่ดิน ทิ้งไว้ให้หมาขี้ นับจากเดือนนี้ จะกลายเป็นทอง ใครมี เตรียมไปห่อกันไว้ให้ดี ก่อนมีคนแอบไปฮุบ
เรียกว่า ถึงยุคไทยเรืองวิไล ชาวบ้าน-ชาวช่องจะได้ “ลืมตา- อ้าปาก” กันซะที
แต่เป็นการ “ลืมตา-อ้าปาก” ชนิดมีเงื่อนไข
“คนชั่วบรรลัย-คนดีรุ่งเรือง” ท่านว่าไว้ประมาณนั้น
“ท่าน” ที่ว่านั้น คือใคร?
ถ้าถามผม ก็ต้องตอบว่า ก็ “ผม” นี่ไง!
ใครที่ชอบประชดว่า “ทำดี-ได้ดี มีที่ไหน ทำชั่วกลับได้เป็นเสนาบดีมีถมไป” นั่นเหมือนกัน
ถอนคำพูดซะ!
เพราะต่อจากนี้ “เทพเจ้าแห่งคุณธรรม” ท่านจะมาจัดระบบที่วิปริตมานานเข้าสู่ระเบียบ “ทำดีมีเรือช่วย-ทำซวยมีเกือกแถม”
คนดี “ที่ยังมองไม่เห็นหน้า” สิทธิการิยะท่านว่า coming soon ปล่อยให้คนบ้าครองเมืองคะนองไปก่อน
พวกประเภท “อดอยาก-ปากแห้ง” มา ๘-๙ ปี ที่กะว่า ตานี้ละวะ จะได้โกงมาแบ่งกันให้มันปาก
ก็จะ “สมพรปาก”
เพราะจะได้ “น้ำทองแดง” กรอกปากที่แห้งกรังรอ!
ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ “จริง-ไม่จริง” เป็นเรื่องอนาคตที่ต้อง “ตามไปดู” ผมก็รู้ตามที่โบราณท่านจารไว้
อนาคต มองไม่เห็น เอาที่มองเห็นวันนี้-ขณะนี้ ดีกว่า
อ่านขาวนี้กันดู เป็นการ “ชิมลาง”ล ะกัน
……………………..
“วันนี้ (๓๐ เมย.๖๗) “นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้รับมอบทองคำจำนวน ๑๒.๕ กิโลกรัม
จาก “หลวงปู่คลาด ครุธัมโม” วัดป่าบ้านใหม่ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ประธานสงฆ์และผู้แทนคณะศิษยานุศิษย์ “พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
ซึ่ง “ทองคำ” ดังกล่าว…….
เป็นทองคำที่ได้รับจากการจัดงานบุญประเพณี “ผ้าป่า ๑๒ เมษาฯ” สืบหน่อต่อแขนงคลังหลวง บูชาพระคุณองค์หลวงตา” ตามเจตนารมณ์ของ
“หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน” เพื่อสมทบเข้าเป็น “ทุนสำรองเงินตรา”
“สินทรัพย์” ที่ได้รับมอบมาทั้งหมดในช่วงก่อนหน้านี้ แบ่งเป็นทองคำแท่งน้ำหนักรวม ประมาณ ๑๓,๑๑๗.๓๓๙ กิโลกรัม
และเงินตราต่างประเทศจำนวน ๑๐,๔๕๗,๑๕๙.๖๓ดอลลาร์ สรอ.(ข้อมูล ณ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๖)
“ธนาคารแห่งประเทศไทย”
๓๐ เมษายน ๒๕๖๗
……………………………….
เห็นมั้ย…
“ทององค์หลวงตา” เบิกฤกษ์-เบิกชัย ประเดิมเจิมให้ชาติ
“องค์หลวงตาพระมหาบัว”นั้น
แม้ท่าน “สิ้นภพ-จบชาติ” ดังคำท่านกล่าวไปแล้ว
แต่ด้วยบารมีองค์ท่าน “ศิษย์พระ-ศิษย์ฆราวาส” ผู้งอกงามในธรรม ยังคงสืบสานงาน “ผ้าป่าช่วยชาติ” ขององค์หลวงตาแต่เมื่อครั้งบ้านเมืองพบวิกฤติ “ต้มยำกุ้ง”
ด้วยการ “รวบรวมทองคำ” ส่งมอบเข้าท้องพระคลังเป็น “ทุนสำรองเงินตรา” ไม่เคยขาด
“ทองคำช่วยชาติ” เริ่มแต่ปี พศ.๒๕๔๑ ช่วงวิกฤต “ต้มยำกุ้ง” จนถึงปี พศ.๒๕๖๖
ส่งมอบเข้าท้องพระคลัง พร้อมเงินดอลลาร์สหรัฐฯไปแล้ว ๒๙ ครั้ง
เฉพาะทองคำ ๑๓,๑๑๗.๓๓๙ กิโลกรัม และล่าสุด เมื่อวานที่ “สวนแสงธรรม” พุทธมณฑล สาย ๓ นครปฐม เป็นครั้งที่ ๓๐ อีก ๑๒.๕ กิโลกรัม
รวม “ทองคำช่วยชาติ” ขณะนี้ ๑๓,๑๑๗.๓๕๑.๕ กิโลกรัม
“ทองคำแท่ง” น้ำหนัก ๑ กิโลกรัม = ๖๕.๖ บาททอง
ราคาทองคำแท่ง ณ วันที่ ๓๐ เมย.๖๗ เวลา ๒๐.๓๐ น.บาทละ ๔๐,๖๕๐ บาท
๑๓,๑๑๗.๓๕๑๕ X๖๕.๖X ๔๐,๖๕๐ เป็นเงินเท่าไหร่ คิดกันเอง ผมคิดไม่ถูก
“พ่อค้าบ้านจัดสรร” เก่งตัวเลข ช่วยคิดแปรธาตุทีซิ
ว่า “ทองคำแท่งช่วยชาติ” ขององค์หลวงตาพระมหาบัว แปรธาตุเป็นตัวเงินบาทไทย ได้ซักเท่าไหร่บาท?
ถึง ๕ แสนล้านบาทมั้ย?
ถ้าถึง จะได้ป่าวร้องให้ศิษย์หลวงตาพระมหาบัวมาช่วยกันอยู่เวรยาม เป็น “กำแพงแก้ว ๗ ชั้น” กั้นไว้รอบท้องพระคลังหลวง
ไม่ได้..ไม่ได้ โบราณท่านสอนนัก-สอนหนา
ว่า “ทางน่ะ…พอวางใจได้ แต่คน (ยามหน้ามืด) มันวางได้ซะที่ไหน”
ยิ่งประเภท “สัตว์หน้าขน-คนหน้าเหลี่ยม” ด้วยแล้ว
ขืนวางใจ….
โอกาส “จนซ้ำสอง-น้ำตานองทั้งประเทศ” เกิดขึ้นได้ง่ายๆ!
ที่ผมบอกตามดาว ว่าต่อจากนี้ บ้านเมืองไทยจะดี ประชาชีจะเป็นสุข
เชื่อว่า หลายท่านคงบอก “มะเหงกนี่แน่ะเป็นสุข”
ไม่เถียงครับ!
ขืนเถียง จะกลายเป็นไอ้เข้ขวางคลองรัฐบาลเพื่อไทยของคน ๑๐ ล้านเค้า
เพราะเขาประกาศว่า “พอกันทีกับ ๘-๙ ปี ประยุทธ์ ทำประเทศล้าหลัง ชาวบ้านอดอยาก จะตายกันหมดแล้ว”
“เลือกเศรษฐาเป็นนายกฯ แล้วคนไทยจะเป็นเศรษฐี”
แล้วเป็นไง ๘ เดือนเข้าไปแล้ว เศรษฐีมีแต่เศรษฐากับหัวหน้าคอก เท่านั้น
นอกนั้น เลือกเศรษฐาเป็นนายกฯ เป็นยาจกกันทั้งประเทศ”!
ไม่เชื่อ ไปท่องโลกโซเชียลดูก็ได้
“จวกเศรษฐา-เรียกหาลุงตู่กลับมา” พรึ่ดไปหมด!
ผัก หญ้า ปลา ไข่ เรียกว่า ข้าวปลาอาหารทุกชนิด ขึ้นราคาชนิดไม่เกรงใจหัวหน้าครอบครัวใหญ่เล้ยยย
ทุกอย่าง ตั้งแต่เศรษฐามา มีแต่ขึ้น..ขึ้น..ขึ้น
ขึ้นจนตีนก่ายเลยหน้าผากจนหงายท้อง-หงายไส้
ที่สัญญา ๕ แสนล้านมา แจกคนละหมื่นบาทไป ก็ไม่มีมาซักที
สรุปแล้ว เป็นรัฐบาล ๘ เดือน เด่นอยู่เรื่องเดียว
เรื่องเอา “โจรกินเมือง” กลับมาเป็น “นักโทษเทวดา”!
โม้ว่าเก่ง เข้ามาแก้เศรษฐกิจ
เอาเข้าจริง ไอ้โกบริหารม่านรูดยังเก่งซะกว่า เข้ามา ๘ เดือน เอะอะอ้าง “ยังไม่มีงบประมาณ” ทำอะไรไม่ได้
แล้วชี้นิ้ว นำทางไปโทษ “ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ” ว่าคนอดยาก ไม่มีเงิน มีแต่หนี้ เพราะ “ดอกเบี้ย” แพง
บริหารห่วย กลับโทษผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ มันประหลาดนายกฯ ไม่เคยเห็นที่ไหนในโลก!
ก็ร่วมปี ไม่มีเม็ดเงินลงทุนเลย
มีแต่ดึงเวลา งุบงิบขมิบเงินงบประมาณไว้ เพื่อเอาไปแจกทำ “ประชานิยม” เป็นแสนๆ ล้าน
เมื่อเงินไม่ไหลไปหล่อเลี้ยงระบบ ชาวบ้านจะเอาที่ไหนแหลกล่ะพ่อคุณ?
ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาล กล้าโผล่หัวไปกรายแถวๆ ตลาดหลักทรัพย์มั้ย?
ทั้งตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร ตลาดเงิน ต่างชาติมีแต่เทขาย ขนเงินออกไปเป็นล้านล้านบาทแล้วมั้ง
เพราะอะไร ?
เพราะไม่เชื่อมั่นรัฐบาลในคอกอย่างหนึ่ง ขนเงินกลับไปซื้อพันธบัตรสหรัฐฯได้ดอกเบี้ย ๕ เปอร์เซนต์อัพ
เห็นอย่างนี้แล้ว ยังจะให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยอีก!?
อีกทั้งโลกอยู่ในช่วงหาความแน่นอนไม่ได้ ไม่ว่าด้านเศรษฐกิจ-การค้า-การลงทุน เศรษฐกิจภายในสหรัฐฯ เองก็กำลังพัง
“การเมืองเรื่องสงคราม” นั่นเป็นตัวกลบไว้!
แต่ผู้นำรัฐบาลไทย ตื่นเช้าก็ตะโกนอยู่ ๒ เรื่องเท่านั้น
-เพราะแบงก์ชาติไม่ลดดอกเบี้ย
-เพราะมีคนขวาง “กู้มาแจก” ๕ แสนล้าน!
กูจะบ้าตาย!!!
เลยไม่รู้จะเชื่อ “ดาว” ไหนดี ระหว่างดาวพฤหัสบดีกับดาวโม้สิ้นดี?
รอไว้เชื่อ “คนดี” ที่กำลังมาจากดาว “พฤหัสบดี” ดีกว่า
ปลายไตรมาส ๓ ต้นไตรมาส ๔ น่าจะเห็นนะ !
เปลว สีเงิน
๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗
