เปลว สีเงิน
“ชงโค-จามจุรี”….สีม่วง
ทั้งในเมือง-ในบ้าน-ในป่า เมื่อถึงเวลา เจ้าก็บานพร้อมกัน
รักก็เช่นนั้น…
เมื่อถึงเวลา ทุกคนก็ต้องแสดงออกมา ให้รู้ว่ารัก!
ดังนั้น เมื่อวาน จึงเห็น ดอกไม้สีม่วง บานสะพรั่ง-พร้อมพรัก เต็มหัวใจคนไทยทั้งแผ่นดิน
ปลาบปลื้มยิ่งนัก กับการแสดงออกให้โลกประจักษ์
ว่าคนไทยรัก “กรมสมเด็จพระเทพฯ”
“กรมสมเด็จพระเทพฯ” คือแก้วตา-ดวงใจของคนไทยทั้งแผนดิน
ผู้ใดมีการกระทำกระทบกระเทือนถึงพระเกียรติยศของพระองค์ท่าน ผู้นั้น มันจะ “ลอยหน้า-ลอยนวล” อยู่ไม่ได้
นี่…ไม่ใช่แค่พูด
ทำเป็นการพิสูจน์ให้เห็น ก็ได้เห็นกันแล้ว!
หลายคนแปลกใจ ตั้งแต่ตอนสายๆ ใกล้เที่ยงวาน ว่าทำไมวันนี้ รถในท้องถนน ถึงหนาแน่นกว่าปกติ
เผอิญผมต้องเข้าเมือง เพราะนัดกินข้าวกับ “ไพศาล ศรีจรัสจรรยา” อดีตบรรณาธิการบางกอกโพสต์ ผู้เป็นสหายรัก
เห็นรถหลายคัน ผูกริบบิ้นสีม่วง ก็นึกขึ้นได้ว่า
วันนี้ “นิสิตจุฬาฯ” ทั้งเก่า-ทั้งใหม่ ที่ใจดวงเดียวกัน
เขานัดหมายไปร่วมทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ถวาย แด่
“สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ที่ลาน “พระบรมราชานุสาวรีย์สองรัชกาล” จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ก็เป็นที่เข้าใจได้ เป็นติดที่ปีติ
กลับเข้ามาสำนักงาน ดูข่าวโซเชียล โอ๊ะ…พรึ่บไปด้วยภาพข่าว “ประชาม่วง” พริ้วกิ่ง-สยายกลีบ โปรยปราย ไปทั่วประเทศ
ไม่ว่า เหนือ-ใต้-ออก-ตก รวมทั้งในกทม.ประหนึ่งสาดสีม่วงช่วงโชติ
ที่เหนือผมคาดหมาย คือที่จุฬาฯ
แรกๆ เห็นข่าวนัดไปแสดงสัญลักษณ์ ยังแอบประหวั่นใจ
ว่าบริเวณลาน “พระบรมราชานุสาวรีย์สองรัชกาล” กว้างใหญ่ ถ้านิสิตทั้งเก่าและใหม่ “รักอยู่ในใจ” ที่จะออกไปมีน้อย
นั่นจะดูไม่เหมาะสม!
แต่ที่ไหนได้…..
“จุฬาฯ รวมใจ” สะพรึ่บล้นลาน จนจามจุรีบานเดือนกุมภา.ต้องพริ้วเกสรเป็นริ้วๆ โปรยลงมาคารวะใจ
รักชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์
รัก “กรมสมเด็จพระเทพฯ”
รักบ้านเมืองไทย
รักความเป็นไทย
อย่าบ่มรักไว้ในใจ
ต้องแสดงออกมาให้โลก ให้ไทยทาส ได้สำนึกว่า ชาติ, ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์
ใครก็อย่าแตะ ในทางล้ม-ทำลาย
ไอ้พวกที่คิดล้มสถาบัน ทั้งเด็ก ทั้งไอ้เฒ่า ที่หวังเอาชาติไปเป็นทาสตะวันตกนั่นน่ะ
ซักวัน “เลือดหัวมันตก” นั่นแหละ บางทีจะสำนึกได้บ้าง!
เล่นอะไรก็ได้ ลองอะไรก็ได้….
แต่ “อย่าลองดี-อย่าล้อเล่น” กับความรักสถาบันที่ฝังอยู่ในสายเลือดไทยเป็นอันขาด
ถ้าล้มได้ง่ายๆ อย่างที่วาดหวัง รุกคืบ-แทรกตัว เข้าไปในองค์กรบริหารและปกครองทุกจังหวัด แล้วจะยึดประเทศได้ ตามพิมพ์เขียวที่ทำกันอยู่ตอนนี้นั่นน่ะ
ถ้าง่าย และได้อย่างที่คิด ก็ทำไป
แต่ถ้า “แหกคอก” ตอนไหน อย่านึกนะว่า ชาวบ้าน ชาวป่า-ชาวเมือง เขาจะด้อยคิด-ด้อยปัญญา
เขาจับพวกมึงขึ้นขาหยั่งทำปิ้งย่างเกาหลีละก็ ต่อให้ร้องถึงพวกสิทธมนุษชนพ่อมึง ก็อย่าหวังว่าเครื่องมือโลกาภิวัฒน์ตะวันจะช่วยได้
ไม่ใช่เพราะ “ท้องขึ้น-ท้องเฟ้อ” แล้วผมละเมอเรื่อยเปื่อย
หากแต่เห็นเป็นประสบการณ์มาแล้ว แต่สมัย “คณะราษฏร” เรืองอำนาจ
“พระมหากษัตริย์” ในยุค ๒๔๙๐-๒๕๐๐ เท่าที่ผมจำความได้ เพราะชอบอ่านหนังสือพิมพ์ตั้งแต่เด็ก
ให้ความรู้สึกว่า พระองค์อยู่ใต้การควบคุมของ “คณะราษฏร” กรายๆ
เขากีดกัน “พระมหากษัตริย์” กับ “ประชาชน “ให้ห่างกัน ชนิดไม่มีวันบรรจบได้เลย
ลงท้าย นิสิต-นักศึกษา-ประชาชน และทหาร นำโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ร่วมกัน คืนชาติ คืนศาสนา คืนสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้กับชาติไทย
“ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” มีในรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ปี พศ.๒๔๙๒ ก็จริง
แต่ “จริง” แค่ในตัวหนังสือ”
เพิ่ง “จริง” ในทางปฎิบัติ หลังจอมพลสฤษดิ์ปฎิวัติขับไล่จอมพล ป.พิบูลสงคราม ทายาทอำนาจคณะราษฎร “คนสุดท้าย” ออกไปแล้วนั่นหละ
พระมหากษัตริย์กับประชาชนอันเป็นพสกนิกรถึงได้เชื่อมสนิท นับแต่นั้นมา
เห็นมั้ย ขนาดนั้น ยังล้มไม่ได้
แล้วตอนนี้ “สถาบันกับประชาชน” สนิทแน่นเป็น “เนื้อเดียว-หัวใจดวงเดียว” กัน
ฉะนั้น ทั้งรุ่นใหม่ ทั้งไอ้เฒ่า ที่หวังจะ “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” พวกมึงมาทางไหน รีบเฉดหัวไปทางนั้นได้เลย
….ก่อน “เฉาตาย”!
เอาละ…มาเข้าเรื่อง-เข้าราวอีกซักนิด
เป็น “ควันหลง” จากคารม-คมวาทะในสภาระหว่าง “รังสิมันต์ โรม” กับรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย “ชาดา ไทยเศรษฐ์”
ในการอภิปรายตอนหนึ่ง รัฐมนตรีชาดา บอกว่า
มีผู้ช่วยสส.ส่งเงินให้ขบวนการ “กัดกร่อนบ่อนเซาะสถาบัน”
ผมไม่ได้ฟังสดตอนนั้น อ่านแต่ข่าว ซึ่งไม่ได้ระบุว่า เป็นผู้ช่วยสส.จากพรรคไหน
แต่เมื่อวาน (๑๕ กพ.๖๗) นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าก้าวไกล คงเกิดอาการร้อนใน ท้าให้รัฐมนตรีชาดาเปิดหลักฐาน
ท้าน่ะ ไม่แปลก ถ้าผมเป็นชัยธวัชก็ต้อง “ท้าเอาเชิง” ไว้ก่อน
แต่ที่แปลกและไม่แน่ใจ ว่าวันนั้น รัฐมนตรีชาดา ระบุพรรคของผู้ช่วยสส.คนนั้นหรือเปล่า เพราะนายชัยธวัชพูดว่า “ที่รัฐมนตรีชาดาบอก…..
มีผู้ช่วย สส.ของพรรคก้าวไกล อยู่เบื้องหลังสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชน ว่า
ขอให้เปิดได้เลย เพราะต้องยอมรับว่า มีความพยายามเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายครั้ง
ว่ามีพรรคการเมืองและนักการเมืองอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของเยาวชน
ดังนั้น ขอให้เปิดได้เลย และเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน ว่ามีพรรคการเมืองไหนบ้าง ที่เคยสนับสนุนงบประมาณให้กับการเคลื่อนไหวของเยาวชนที่ผ่านมาหรือไม่
ผมก็อยากเห็นเหมือนกันว่า จะมีกลุ่มการเมืองไหนบ้าง ที่หวังจะใช้กระแสความนิยมจากการเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาว เพื่อสร้างความนิยมให้กับตนเอง โดยการสนับสนุนงบประมาณ
ผมก็อยากเห็นเช่นกัน ผมไม่กังวล ขอให้เปิดได้เลย อาจจะมีพรรคอื่นก็ได้”
เมื่อนักข่าวนำคำท้าหัวหน้าพรรคก้าวไกลไปถามต่อรัฐมนตรีชาดา พรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรี ก็บอกว่า……
“ผมต้องไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ
ผมเปิดอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัว แต่ขอให้ถามมาในระบบ ผมจะตอบในระบบ เนื่องจากต้องอ้างอิงบุคคลที่สาม
ส่วนจะเป็นพรรคไหนนั้น ใครอภิปรายชัดเจน ก็คนนั้นแหละ ไม่มีพรรคอื่น
ใครพูดมาว่าจะเป็นพรรคอื่น ผมก็ตอบไปว่าไม่มีพรรคอื่น ผมไม่อยากทะเลาะกับคนพวกนี้ แต่อยากสกัดกั้นคนที่ทำไม่ดี”
ฟังรัฐมนตรีชาดาแพลมวันก่อน ผมก็หูผึ่ง
แต่คุณชัยธวัชเล่น “กินปูนร้อนท้อง” ซะเองว่าเป็นผู้ช่วยสส.พรรคก้าวไกล
ผมงี้…หมดอยาก หูตกเลย!
รัฐมนตรีชาดา เปิดแน่ แต่จะไปเปิดในระบบ เพราะต้องอ้างอิงบุคคลที่ ๓ ก็หมายถึงว่า จะเปิดในสภา
แบบนี้ ก็มันยิ่งกว่ามวยเวที ONE CHAMPIONSHIP ของ “บอส-ชาตรี” น่ะซี
คนฟังมีแต่ได้ แถมกำไร “ล้างโจร” ให้ประเทศ
แต่ที่ถูกแฉออกมาก่อนตอนนี้ เป็นรายการแก๊ง “พ่นสีใส่กำแพง” พระบรมมหาราชวัง
ตำรวจเขาแฉด้วยหลักฐานการโอนเงิน “ข้ามประเทศ” มาให้มือพ่นไปแล้ว
โทรทัศน์ “ท็อป นิวส์” ทำชาร์ตการเชื่อมโยงระหว่างผู้จ้างกับผู้ลงมือรับจ้างกัดกร่อนบ่อนเซาะสถาบันให้เห็นจะๆ แจ้งๆ
เรื่องนี้ ต้องบรรจุเข้าผังรายการ “Believe It Or Not” ให้ผบ.ตร.ต่อศักดิ์ เป็นพิธีกร ด่วน เพราะแฟนๆ กระหาย จนหูตั้ง
ก็อยากบอกว่า….
“ดาวโจร” ที่เคยคะนองเมือง ระวังกันหน่อยนะ
เพราะ “ดาวพฤหัส” เทพเจ้าแห่งคุณธรรม ความยุติธรรมและผู้พิทักษ์คนดีงาม ตื่นบรรทม ใกล้จะเข้าประทับดวงเมืองแล้ว
กลับตัว-กลับใจได้ ก็รีบกลับซะ
ถ้าไม่กลับ ระวัง “ตาจะกลับ” แล้วจะมาว่า “อาตมาไม่บอก” ไม่ได้เชียวนะ!
เปลว สีเงิน
๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
