รหัสลับ “ประเทศไทย” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

เห็นบ่นกันจัง!
เพื่อไทยบอก ถ้าได้เป็นรัฐบาล ปัญหาปากท้องชาวบ้านจะหมดไป
พอมาเป็นรัฐบาลจริงๆ เข้าเดือนที่ ๕ แล้ว
ปรากฎว่า ชาวรากหญ้าผอมเป็น “พระปางทรมาน” มีแต่ชาวยอดยาง “สายพันธุ์การเมือง” เท่านั้น
พุงเป็น “พระสังกัจจายน์”!

อย่าง “นายกฯประเทศไทย” ที่ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนั่นปะไร
ดูท่านไม่ทุกข์ร้อนอนาทรกับสิ่งใด ปีใหม่ไปลั้ลลา เดินงับโอโซน เบิกบานสำราญใจอยู่ชายหาดหัวหินโน่น

ส่วนชาว “รากหญ้า” แบกหน้าเหี่ยวคืนถิ่น หวังไปเบียดบังข้าวสารก้นยุ้งพ่อแม่ เพื่อแบกกลับมาลั้ลลาแข่งเศรษฐาในเมืองกรุง

“ปัญหาปากท้อง” น่ะ…หมดไป
คือแทบ “ไม่มีอะไรจะแดก”!

ปะหน้าคนทำธุรกิจอยู่นครสวรรค์ เขาเปรยว่า ตั้งแต่เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จากปลายปีมา ทุกอย่าง ฝืดเคืองมาก

การค้าฝืดเคือง ก็หมายถึงว่า…
ชาวบ้านไม่มีกำลังซื้อ คือไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย เมื่อกำลังซื้อหด กำลังการผลิต ก็หดตาม

เมื่อภาคการผลิตหด การจ้างงานก็หด
เมื่อคนไม่มีงานทำ ก็ไม่มีเงิน การจับจ่ายใช้สอยก็จะกระเบียดกระเสียน

“เครื่องจักรเศรษฐกิจ” ก็เดินสะดุด หยุดๆ ติดๆ หรือจอดสนิทเลย
ก็เลยเกิดเศรษฐกิจระบบใหม่ ที่เรียก “รวยกระจุก-จนกระจาย”!

คนรวยกลุ้ม เงินไม่ทำงาน นอนอืดล้นเซฟ-ล้นแบงก์ มีแต่เสื่อมค่า ไม่สร้างราคาเพิ่ม เพราะรอบหมุนเวียนน้อย ถึงขั้นไม่หมุนเวียนเลย

คนจนก็กลุ้ม เมื่อนักลงทุนไม่นำเงินออกมาหมุนเวียน
เท่ากับระบบ “แปลงงานเป็นเงินค่าจ้าง” ก็ไม่มีหรือมีน้อย
ก็เลย “ฝืด” กันทั้ง “ฝ่ายรวย-ฝ่ายจน”!

ที่หา “เงินง่าย-เงินคล่อง” ก็ภาคการเมืองระบบเลือกตั้งเท่านั้น

ดูอย่าง “เพื่อไทย” ซิ….
แค่อุ๊งอิ๊งใช้แค่คำว่า “ซอฟต์ พาวเวอร์” คำเดียว ก็ตกเบ็ดเงินงบประมาณได้ตั้งกว่า ๕,๐๐๐ ล้าน

หมูๆ…สไตล์ “หมูกระทะ”!?
ทำไมเงินในระบบจะไม่ฝืดล่ะ เคยได้ยินเพลง “นกกะปูดตาแดง น้ำแห้งก็ตาย” กันใช่มั้ย?

ตอนนี้ ก็ประมาณนั้น ส่วนหนึ่งเพราะ เงินใช้จ่ายภาครัฐที่เรียก “งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗” ยังไม่มีการนำออกมาใช้
ยังคาอยู่ในสภา ชาวประชาก็ลยเหมือนนกกะปูด!

ทำความเข้าใจกันนิด
คือปีใหม่ของ “งบประมาณแผ่นดิน” ไม่ได้เริ่ม ๑ มกราคม อย่างวันปีใหม่แต่ละปี

หากแต่ปีงบประมาณ ที่ภาครัฐจะนำเงินออกมาใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาและการลงทุนในโครงการต่างๆ ตามนโยบาย
จะเริ่มตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ไปถึง ๓๑ กันยายน ของแต่ละปี

แต่ของปี ๒๕๖๗ ผ่านไปแล้ว ๔ เดือน
จนถึงวันนี้ ๑ มกรา.

ยังไม่มีเงินซักบาทเพื่อการพัฒนาและการลงทุนออกมาเป็นหัวจักรชักลากระบบการผลิตและการจ้างงานเลย!

เอามาใช้ล่วงหน้าได้ก่อนแค่ “รายจ่ายประจำ”
เช่น เงินเดือนข้าราชการกับเพื่อความจำเป็นเร่งด่วนบางเรื่องเท่านั้น!

“๓-๔ มกรา.๖๗” นี่แหละ
“พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗” วงเงิน ๓,๔๘๐,๐๐๐ ล้านบาท จะเริ่มพิจารณาในสภาวันแรก!

และก็โน่นแหละ จะผ่านวาระแรก สู่การแปรญัตติ และวาระ ๓ ในชั้นรับร่างพรบ.ทั้งฉบับ สู่การประกาศใช้
เร็วสุดก็ พฤษภา.ช้าสุดก็ มิถุนา.๖๗!

รู้อย่างนี้แล้ว ก็ทำใจซะเถอะ อีก ๕-๖ เดือนนับจากนี้ แหงนคอดูปลาเค็มบนขื่อ แล้วกินข้าวเปล่ากันไปก่อน

เงินเป็นก้อนจากหัวจ่ายภาครัฐ ยังไม่มีไหลออกมาหรอก
จากพฤษภา-มิถุนา.ไปอีก ๒-๓ เดือน ก็สิ้นปีงบประมาณ ปี ๖๗

แล้วทำไงล่ะ ….
งบปี ๖๗ ยังอยู่ในครรภ์ ไม่ทันใช้ ก็จะสู่เชิงตะกอนซะแล้ว

ความจริง ตอนนี้ ต้องเตรียมทำงบประมาณ ปี ๖๘ ด้วยซ้ำ แต่เมื่องบปี ๖๗ เป็นท”งบท้องมาน”
สงสัย งบปี ๖๘ ผู้ทำ น่าจะไม่ใช่ “รัฐบาลเศรษฐา” ซะละมั้ง แบบนี้?!

ช่วงนี้ ผมหูตาแฉะฟังและอ่านคำทำนาย “การบ้าน-การเมือง”จากโหราจารย์แต่ละท่าน หลักๆ ทิศทางจะไปทางเดียวกัน

ท่านว่า จากมกรา.ไปถึงพฤษภา.จะเกิดเหตุการณ์ชนิดฟ้าผ่าฉับพลัน ทั้งด้านอุบัติภัยธรรมชาติและด้านพลิกผันฉับพลันทางการเมือง

“การเมือง” นั้น โฟกัสไปที่รัฐบาลเพื่อไทยในด้าน “ปรับครม.-เปลี่ยนตัวนายกฯ”
หรือถึงขั้น “ลุกขึ้น สะบัดเสื่อ” แล้ว “ปูเสื่อกันใหม่” หมดขนาดนั้นเลย!

แต่ที่ “หายใจโล่ง” โหราจารย์บอกตรงกันมีอยู่เรื่อง

ว่าหลัง ๒๑ เมษา. “วันลงเสาหลักเมือง” ในขณะที่ทั้งโลกมะงุมมะงาหรา ทั้ง “เศรษฐกิจ-การเมือง-การสงคราม”

แต่ “เศรษฐกิจประเทศเรา” จะ “สดใส-เจิดจ้า” ก็ไม่ต้องรู้หรอกว่า เพราะดาวอะไรยกย้าย

รู้เพียงว่า ทั้งส่งออก ทั้งท่องเที่ยว ตัวสร้างรายได้หลักเข้าประเทศ จะเหมือน “ระหัดฉุดน้ำ” เข้าไร่-เข้านา เงินไหลนอง-ทองไหลมา

ทั้ง “รากหญ้า-ยอดยาง” ยิ้มแต้ตามฐานานุรูปไปตามๆ กัน!

แต่บอกก่อน ไม่ใช่เพราะรัฐบาล “คิดใหญ่-ทำเป็น” ตามราคาโม้หรอก หากแต่เป็นตามวงรอบดาวประกอบบุญญาบารมีแห่งองค์พระสยาม

ที่สำคัญ ประหนึ่ง “ฟ้าดินดลใจ” ให้ลูกหลานไทย รวมทั้งชาวต่างประเทศ ที่หลั่งไหลมาไทย
โดยไม่มีใครบังคับ ขู่เข็ญ หรือใครจงใจสร้างอีเวนต์ลวงโลก

หากแต่ “เข้าถึง-ศรัทธา-เปี่ยมใจ”
พากันแต่ง “ชุดไทย” ไปตามศาสนสถานสำคัญๆ ของประเทศโดยมิได้นัดหมาย

เช่น ที่วัดพระแก้ว ศาลหลักเมือง วัดอรุณ วัดไชยวัฒนาราม เป็นต้น

กระทั่ง “ศาลท้าวมหาพรหม” มีสถิติออกมา ทั้งคนไทย-คนเทศ มาสักการะ-ขอพร แล้ว
มากต่อมาก “สมประสงค์” ณ ราชประสงค์แห่งองค์ “ท่านท้าวมหาพรหม” นั้น

กว่า “๑ ล้านคน” ในรอบ ๑ ปี
เมื่อสมปรารถนาก็มาสักการะบวงสรวงและทั้งมาขอพรใหม่ เพื่อปีต่อๆ ไปสัมฤทธิ์ดังปรารถนา!

ผมมานั่งๆ พินิจ-พิจารณาดู แต่ละบรรพบุรุษไทย พระผู้สร้างและพระผู้พิทักษ์ปกปักรักษาบ้านเมือง ท่าน “เลือดไทยทุกหยด”

ดังนั้น เมื่อเห็นลูกหลานไทยหันมาแต่งชุดไทย หนังละครหันหาความเป็นไทย ท่านปลื้มและสุขใจมาก

ด้วยใจบรรพบุรุษปลื้มและเป็นสุขนั้น…
เกิดกระแสคลื่นเป็นพลังแห่งจิตตานุภาพพิทักษ์และประทานพรแผ่นดินไทย

หนุนนำให้แผ่นดินผืนนี้เป็นกระแสร่มเย็น ดึงดูดคนดี-คนมีศีล-มีธรรม ไม่ว่าชาติ-ศาสนาไหน

จากปลายเมษา.เป็นต้นไป
จะบ่ายหน้าหนีร้อนไฟสังคมโลกมาหลบเย็นในบ้านเมืองไทยเรา ชนิดเมืองแทบแตก!

กำลังซื้อ จะฉุดกำลังผลิต กำลังจ้างงาน สินค้าประเภทผักหญ้า ข้าวปลาอาหาร และสินค้าแปรรูปทางการเกษตร เพื่อการส่งออก ทำผลิตกันแทบไม่ทัน

สมัยก่อน ทำไมบ้านเมืองร่มเย็น ผมนึกย้อนก็พอมองเห็น พอตกเดือนมีนา.คนทำเรือกสวนไร่นา จะตั้งศาลเพียงตา ถวายเครื่องบัดพลีเจ้าที่

สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือต้องมี “ละครชาตรี” มาร้อง-รำถวาย!
และงานบุญตามเทศกาล คนไปวัด ผู้หญิงจะแต่งชุดไทยสะไบเฉียงสวยงาม

บรรพบุรุษผู้สร้างแผ่นดินท่านปลื้มลูกหลานดำรงไทย ท่านโสมนัสใจจึงสาธุการ บ่านเมืองถึงได้ร่มเย็น ไม่รุ่มร้อน เหมือนปัจจุบัน

แต่ช่วง ๓-๔ ปีมานี้ หนุ่ม-สาวไทย ตลอดชาวเทศ หันมาแต่ง “ชุดไทย” ในบ้านเมืองไทย

ที่ศาลท่านท้าวมหาพรหมและที่ศาลหลักเมือง
ละครแก้บน รำถวายกันชนิดมือกำไม่ลง เป็นที่ปลาบปลื้มประโลมวิญญานบรรพบุรุษแผ่นดินยิ่งนัก

เนี่ย….
ทั้งดวงดาว ดวงเมือง ด้วยคนไทยเป็นลูกหลานที่ดีศรีประเทศ บรรพบุรุษท่านโมทนา

พร้อมเปล่งบุญญา อวยชัย-ให้พร ให้ลูกหลานไทยได้สมปรารถนากัน นับแต่วันเกิดประเทศไทย ๒๑ เมษา.เป็นต้นไป

ผู้ใดก็ตาม ประชาชนทุกหมู่เหล่าไม่ว่ารุ่นใหม่-รุ่นเก่า ทั้งพรรค ทั้งตัวนักการเมือง
“ซื่อสัตย์-กตัญญู-อดทน-หมั่นเพียร”
“จำเริญ-รุ่งเรือง” ทุกคน

อสัตย์-เนรคุณ-อ้อยสร้อย-เกียจคร้าน “พินาศ-ล่มจม”
“วิบัติ-เป็นไป” ทุกคน!

เปลว สีเงิน
๑ มกราคม ๒๕๖๗

 

 

Written By
More from plew
สามสัส “วันพินาศ” มาถึง -เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน วันนี้ เรียนประวัติศาสตร์ “กรุงรัตนโกสินทร์” กันนิด พศ.๒๓๒๕ …. “พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก” ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เป็น...
Read More
0 replies on “รหัสลับ “ประเทศไทย” – เปลว สีเงิน”