เปลว สีเงิน
พรุ่งนี้ “๒๘ ธันวาคม”
เป็นวัน “สมเด็จพระเจ้าตากสิน”
หลังจากทรงกู้เอกราชและทรงสถาปนา “กรุงธนบุรี” เป็นเมืองหลวงแทน “กรุงศรีอยุธยา” ณ ปี พ.ศ.๒๓๑๐ แล้ว
ทรงปราบดาภิเษกเป็น “พระมหากษัตริย์” แห่งกรุงธนบุรี
ต่อมา มีการถวายราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”
และสร้างอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงเครื่องขัตติยาภรณ์ ประทับเหนืออัศวราชพาหนะ พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ ประดิษฐานบนแท่งคอนกรีตเสริมเหล็ก
ณ บริเวณวงเวียนใหญ่ ฝั่งธนบุรี ตราบทุกวันนี้
ผมเป็นเด็กบ้านนอก นั่งรถไฟจากแม่กลอง ข้ามแม่น้ำท่าจีน ต่อรถไฟมหาชัยมาลงวงเวียนใหญ่ เหยียบกรุงเทพฯ ครั้งแรกของชีวิต
ภาพยิ่งใหญ่สะกดใจผมตื่นตะลึง ครั่นคร้าม ทั้งศรัทธา ขนลุกซู่ คือภาพ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ตระหง่านตรงหน้า
ม้าศึกทรงประหนึ่งมีชีวิต ผาดโผนโจนผยองส่งเสียงก้องสนามรบ
พระแสงดาบในพระหัตถ์ขวาที่ทรงชู นั้น
ประหนึ่งเลือดทรยศขบถชาติสาดกระเซ็นเซ่นคมดาบ วะวับวามหยาดหยดอยู่ในมืดมะลำมะเลืองตอน ๒ ทุ่ม ณ ลานอนุสาวรีย์ นั้น
ก่อนๆ ผมไปถวายเครื่องราชสักการะ ด้วยระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ที่ค่ายบางกุ้ง
แผ่นดินผืนนี้ มีให้อยู่-มีให้กิน….
ดำรง “เอกราชชาติไทย” ส่งต่อถึงลูกหลานไทยตราบวันนี้ ยันอนาคตกาล ก็ด้วย “ชีวิต-จิตวิญญาน-เลือดเนื้อ”
แห่ง “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” พระองค์นี้
ขอกราบ ศิระทาบแผ่นดิน รำลึกถึงพระมหากรุณาล้ำของ “สมเด็จพระเจ้าตากสิน” พ่อข้า
พระผู้สถิตอยู่บนฟากฟ้า ณ ชั้นไหนก็ตาม….
แบบอย่างพระผู้พ่อพระองค์นั้น ลูกขอเดินตามรอยพระบาท “ชาติ-แผ่นดิน” เหนือชีวิต
คนเรา เมื่อเกิดแล้วต้องตาย
ถ้าตายวันนี้ “เพื่อชาติอยู่” ต่อไป จะไม่มีวันตาย แต่ถ้าอยู่ต่อไป โดย “ปล่อยให้ชาติตาย”
มึงสมควรตายซะตั้งแต่วันนี้แล้ว!
ระยะหลัง ไม่ค่อยอำนวยกับการเดินทาง พอ ๒๘ ธันวา.ผมก็จะทำบุญอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”
อย่างปีนี้ เมื่อ ๒๑ ตุลา.วันครบรอบปีที่ ๒๘ ไทยโพสต์ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ท่านมอบเงินให้เจ้าหน้าที่มาร่วมทำบุญ ๑๐,๐๐๐ บาท เหมือนกับอีกหลายๆ ท่าน
กาลไหนเป็นกาลอันควร ผมก็จะนำเงินเหล่านั้นแบ่งปันไป
อย่างของพล.ต.ท.ธิติ วานซืนผมโอนเข้า “มูลนิธิสมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช” วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์
สมทบสร้าง “อาคารผู้ป่วยในโรงพยาบาลอ่าวลึก จังหวัดกระบี่” และมอบทุนรักษาผู้ป่วยยากไร้ ๑๙ โรงพยาบาล ถวายเป็นพระกุศล “สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญานสังวร” เรียบร้อยแล้ว
ทานอันประเสริฐนี้ ขอเราทั้งหลาย รวมทั้งพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง จงร่วมกันตั้งใจถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ในกาลนี้ด้วย
ครับ….
ก็ต้องคุยล่วงหน้าซะวันนี้ ด้วยไม่แน่ใจว่าจะได้กลับมาคุยทันของวันพรุ่งนี้มั้ย?
เพราะรับเชิญกัลยาณมิตรท่านหนึ่งแถวๆ สามพราน ย่านนครชัยศรีไว้ ว่าจะไปร่วมพิธีฉลองมิสซา เนื่องในวันสมภพพระกุมารเยซู
ถ้ากลับมาคุยไม่ทัน ๒๘ ธันวา.อาจไม่ได้ปะหน้ากัน จึงบอกล่วงหน้า เป็นการเตือนให้รำลึกว่า
๒๘ ธันวา.เป็นวันปราบดาภิเษก ขึ้นประทับนั่งพระราชบัลลังก์พระมหากษัตริย์ของ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”
เมื่อกลางเดือนธันวา.ผมลงไปไหว้ “หลวงพ่อทวด” วัดช้างให้ ปัตตานี ประจำปี
และได้ไปดูความคืบหน้าการหล่อหลวงพ่อทวดให้เต็มองค์ที่ “วัดทรายขาว” สงขลา
อยู่ในขั้นเตรียมการจะเททองหล่อเป็นชิ้นๆ รวม ๖ ชิ้น มาประกอบเป็นส่วนล่างขององค์ “หลวงพ่อทวด” หน้าตักกว้าง ๙ เมตร
ก่อนยกส่วนบนที่ “หลวงพ่อผัน” เจ้าอาวาสองค์ก่อน สร้างไว้ครึ่งองค์ มานานกว่า ๒๐ ปี ประกอบเข้าเป็น “หลวงพ่อทวด” เต็มองค์สมบูรณ์
“พระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์” บอก….
ราวๆ ๘ กุมภา.จะประกอบพิธีเททองหล่อแต่ละชิ้น
ก็รายงานให้ท่านที่ร่วมบริจาคเงินกว่า ๑๗ ล้านบาทเพื่อการนี้ได้ทราบ ผมลงไปดูพื้นที่กะตามาแล้ว
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านเจ้าอาวาสและคณะช่างบอกผม ศรัทธาท่านเสร็จสมบูรณ์และบริบูรณ์แน่
ลงไปปัตตานี-สงขลา นึกว่าจะเจอฝน กลับแห้งแกร๊ก ร้อนกบาลแตก
แต่พอกลับมา ปรากฎว่า ตั้งแต่วันอังคาร ฝนตกไม่หยุด
จนวานซืน “คุณพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ” นายกเทศมนตรีนครยะลา นัดล่วงหน้าจะเอาส้มจุก “ของดียะลา-เบตง” มาให้กิน
โทรบอก “มาไม่ได้แล้ว”!
ฝนตกไม่หยุด “น้ำท่วมบ้าน-ท่วมเมือง” ชนิดไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบ ๒๐ กว่าปี
ยะลามี ๘ อำเภอ ท่วม “มิดแข้ง-มิดหลังคา” ฉับพลัน ไม่ทันตั้งตัว เสมอหน้ากันหมดทั้ง ๘ อำเภอ!
ท่านเป็นนายกเทศมนตรีนคร ดูแลเขตเมืองก็จริง แต่ความรู้สึกชาวบ้าน คุณพงษ์ศักดิ์ คือ “นายกฯ จังหวัดยะลา”
เป็นความผูกพันทางใจระหว่างคุณพงษ์ศักดิ์กับพี่น้องยะลาโดยตรง มีทุกข์-มีภัยเกิดขึ้น ไม่ว่าตรงไหนของจังหวัดยะลา
“พงษ์ศักดิ์-นายกฯอ๋า” คือที่พึ่งของคนทั้งจังหวัด!
สรุปว่า ตอนนี้ “นราธิวาส-ยะลา” หนักสุดในขั้นสาหัส “ถูกตัดขาด” จากโลกภายนอกแท้จริง
คือท่วมหมดและท่วมมิด หนีกันไม่ทัน และไม่รู้จะหนีไปอยู่ที่ไหน เพราะที่ตรงไหนก็ท่วม
เพื่อนที่ยะลาโทรมาบอกบ่ายวาน……
ตอนนี้ ฝนยังตกไม่หยุด น้ำขุ่นข้น แดงคลั่ก ทะลัก-ทลายจากภูเขา น้ำทะเลข้างนอกก็หนุน ไม่รู้จะไปทางไหน
“เขื่อนบางลาง” ต้องระบาย ไม่งั้นเขื่อนแตก!
เรียกว่าคนยะลา สภาพไม่ต่าง “คนติดเกาะ” กระด๊อกกระแด๊ก น้ำดื่มไม่มี หยูกยา ข้าวปลาอาหารไม่มี
คนป่วย-โรงพยาบาลไม่ต้องพูดถึง แพทย์-พยาบาล-คนป่วย ตกอยู่ในภาวะเดียวกันหมด
นายกฯอ๋า ต้องพายเรือป่าวร้อง ใครพอมีข้าว อาหาร ให้เอาออกมาบริจาค เพื่อนำไปแจกจ่าย แบ่งปัน
เอาที่สำเร็จรูป “เปิดปุ๊บ-กินได้ปั๊บ” ต้องแบบนั้น เพราะจะให้ไปหุงต้มทำกินกัน มันไม่มีที่-ไม่มีน้ำ-ไม่มีไฟ ให้ทำได้ตอนนี้
ท่านรัฐมนตรีมหาดไทย “คุณอนุทิน ชาญวีรกูล” ช่วยสั่งอธิบดีกรมบรรเทาสาธารณภัย
ส่งเรือยาง เรือท้องแบน บรรทุกเครื่องบิน ไปหย่อนลงที่ยะลาให้นายกฯ พงษ์ศักดิ์ ใช้บรรทุกอาหาร-น้ำ ไปแจกจ่ายชาวบ้านด่วนด้วย
คนไม่ต้องลงไปมาก เปลืองเรือ เอาแต่อุปกรณ์และอาหารสำเร็จรูปทั้งฮาลาลและไม่มีฮาลาลและน้ำไปมากๆ
ทางยะลาบอกว่า ใช้รถบรรทุกไปก็เข้าไม่ได้ เพราะถนนถูกตัดขาด มีทางเดียว ต้องใช้ฮ.บรรทุก แล้วไปลงที่ “โรงเรียนตำรวจภูธร ๙” แถวๆ บ้านอาจารย์วันนอร์
กับอีกที่ คือที่ “ค่ายสิรินธร”
เพราะค่อนข้างสูง มีพื้นที่พ้นน้ำให้ฮ.ลงได้!
ผมถามเขา ถ้ามีคนอยากบริจาคอาหารสำเร็จรูปและน้ำดื่ม เครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่ม ส่งไปช่วยชาวยะลา-นราธิวาสจะส่งทางไหนสะดวก?
เขาบอกให้ส่งถึง “นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ” นายกเทศมนตรีนครยะลา ถนนสุขยางค์ เมือง ยะลา 95000
ถึงแน่ จะมีคนมารับลำเลียงเข้าไปแจกจ่าย ๑๐๐% ไม่ต้องห่วง
“ยะลา-นราธิวาส” กลายเป็นเกาะกลางน้ำมาเป็นสัปดาห์แล้ว สวนส้มโชกุน แช่น้ำ ๓ วัน ยืนต้นตายเรียบ
แต่ข่าว “อุทกภัย”คนจะอดตาย ไม่มีกระทั่งน้ำจะกิน
ไม่รู้ได้ยินถึงหูรัฐบาลแค่ไหน?
เพราะจนป่านนี้ มีแต่เขาช่วยกันเอง แต่ทางส่วนกลาง สนใจอยู่แต่ช่วยทักษิณ, แก้รัฐธรรมนูญกับ “ซอฟต์ พาวเวอร์” ๕ พันล้าน!
ตอนรัฐบาลประยุทธ์ ตะโกนกันจัง…ชาวบ้านจะอดตายกันหมดแล้ว
ตอนนี้ “รัฐบาลเศรษฐา ทักษิณานุปถัมภ์”
ไม่มีใครตะโกน
เพราะ “อดตายห่ะ” กันไปหมดแล้ว “ของจริง”!
เปลว สีเงิน
๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๖
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก เทศบาลนครยะลา Yalacity
