คลิกฟังบทความ..⬇️
เปลว สีเงิน
วันนี้ ขออนุญาต…..
รายงานสรุปเรื่องสร้างองค์ “หลวงพ่อทวด” ที่วัดทรายขาว สงขลา ให้ทุกท่านได้ทราบความคืบหน้านะครับ
สรุปยอดเงินโอนเข้าบัญชีวัด
“พระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ จิตตปาโล” รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดทรายขาว แจ้งมา ดังนี้
ณ เวลา ๒๓.๔๖ น.วันที่ ๒๔ ตค. ยอดเงินบริจาค ตั้งแต่ ๑๖-๒๔ ตุลา.รวม ๑๔,๕๘๐,๓๔๔.๗๘ บาท
มีผู้มาบริจาคผ่านผมที่สำนักงานไทยโพสต์ เมื่อวันไทยโพสต์ครอบรอบ ๒๗ ปี และยังไม่ได้นำส่งมอบวัดอีก จำนวน ๖๒,๕๙๐ บาท
มีแผ่นทองของคุณสุชาดี มณีวงศ์ จากรายการ “กระจกหกด้าน” ทางโทรทัศน์ ช่อง ๗ สี อีก ๒ แผ่น
ก่อนอื่น ผมกราบอนุโมทนาและขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมบริจาค ซึ่งผมก็ไม่คาดคิด ท่านจะบริจาคกันมากมายขนาดนี้
ก็เพราะด้วยบารมี “หลวงพ่อทวด” โดยแท้
ณ ครั้งนี้ ด้วยจิตตั้งของผม…..
บุญทานอันท่านทั้งหลายทำดีแล้วนั้น ขอบุญทานจากการสร้างองค์หลวงพ่อทวดที่ค้างคามา ๒๐ กว่าปี ให้สำเร็จเป็นองค์สมบูรณ์ในครั้งนี้
จงมีผลานิสงส์กับทุกท่าน สิ่งใดชอบกอปรด้วยธรรม
ขอสิ่งนั้น ตามที่ท่านทั้งหลายปรารถนา
ขอจงสำเร็จ จงสำเร็จ จงสำเร็จ และจงสมบูรณ์ ด้วยบารมีหลวงพ่อทวดประทานกับทุกท่าน
ผมได้โทรศัพท์สนทนากับพระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ เมื่อเช้าวันที่ ๒๕ ตุลา.สอบถามถึงว่า จะดำเนินการต่อไปอย่างไร?
เพราะตามที่ส่งคนมาขอความอนุเคราะห์ให้ผมช่วยเผยแพร่ข่าว บอกว่าช่างหล่อประเมินราคาก่อสร้างองค์หลวงพ่อทวด ไม่เกิน ๖ ล้านบาท
ตอนนี้ก็มีผู้บริจาคแล้วร่วมๆ ๑๕ ล้านบาท ซึ่งเกินจำนวนค่าหล่อหลวงพ่อไปกว่าครึ่งด้วยซ้ำ
ก็มีประเด็นอยากเล่าให้ท่านทั้งหลายฟัง พระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ บอกผม ตอนนี้ท่านทำอะไรไม่ถูก และเครียดมาก
ผมถามว่าเครียดเรื่องอะไรหรือท่าน?
พระท่านก็บอกว่า ตกใจ…วัดทรายขาว เป็นวัดเล็กๆ ท่านก็เป็นพระเล็กๆ มารักษาการเจ้าอาวาส
คิดว่า “มีผู้บริจาคซักล้านก็มากแล้ว”
แต่พอเห็นยอดเงินโอน แค่วันแรกก็ล้านกว่า คุณบัณฑูร ล่ำซำ นำแคชเชียร์เช็คไปถวายอีก ๒ ล้าน
รวมแล้ว “วันเดียว” มีผู้ทำบุญสร้างองค์หลวงพ่อทวดกว่า ๓ ล้านบาท
ท่านก็ ช็อก…ประมาณนั้น!
และท่านว่า เงินบริจาคร่วม ๑๕ ล้านบาท วัดไม่เคยมีเงินมากมายขนาดนี้มาก่อน จึงเครียด กับการบริหาร-จัดการเงินก้อนนี้
ผมเสนอว่า “ปิดบัญชีรับบริจาค” ไปก่อนดีไหม เพราะเงินสร้างองค์หลวงพ่อทวดก็ได้ครบตามเจตนาแล้ว?
พระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ ก็บอก “เห็นด้วย”
ให้ปิดรับการโอนเงินเข้าบัญชีวัดทรายขาว สร้างอค์หลวงพ่อทวดไว้ก่อน
ฉะนั้น ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบตรงนี้เลยนะครับว่า ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ตุลา.นี้เป็นต้นไป
ผมขอ “ปิดการโอนเงินเข้าบัญชีวัดทรายขาว” สงขลา ทั้งนี้ หมายเฉพาะรายการของผมนะครับ
ส่วนท่านที่ต้องการใบอนุโมทนาบัตร ผมรวบรวมรายชื่อให้ทางวัดจัดการแล้ว
แต่ทั้งนี้ ท่านใดมีกุศลเจตนาจะโอนเพื่อร่วมสร้างองค์หลวงพ่อทวดอีก ก็โอนได้ตามปกติ ปิดบัญชีเฉพาะรายการผม
คือพระท่านเครียดกับเงินมากๆ น่ะ พูดอีกที ในความคิดผม “ท่านเป็นพระพอเพียง” ก็น่าศรัทธานะ
อีกอย่าง พระท่านว่า ท่านเป็นคนเกรงใจคน เมื่อวัดมีเงิน เดี๋ยวจะมีคนมาขอทำโน่น-นี่ให้วัด แล้วขอเบิกเงิน
“มันไม่ค่อยเหมาะสม อาตมาก็รู้ แต่จะขัดเขา ก็กรงใจเขา อาตมาได้มารักษาการแทนเจ้าอาวาสไม่กี่ปี ฉะนั้น ปิดบัญชีไปก่อนดีกว่า”
ผมก็นมัสการท่านว่า ถ้ามีการจ่ายเงินในส่วนนี้ ขอแจ้งให้ผมช่วยพิจารณาร่วมด้วยละกัน ท่านก็ตกลงตามนั้น
ทีนี้ เข้าเรื่องขั้นตอนการดำเนินงานสร้าง
จากการพูดคุยกับพระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์และคุณชาตรี ผู้ดำเนินการออกแบบและการหล่อองค์หลวงพ่อทวด
ตามโครงการของวัด….
นอกจากหล่อหลวงพ่อทวดให้ครบองค์สมบูรณ์ ขนาดหน้าตัก ๙ เมตร ซึ่งมโหฬารมาก ยกขึ้นตั้งบนแท่นแล้ว
ก็สร้างวิหารประดิษฐานสรีระ “พระเทพญาณโมลี” (ผัน ปสันโน) อดีตเจ้าอาวาส ผู้สร้างหลวงพ่อทวดองค์นี้ครึ่งองค์ทิ้งไว้ให้พวกเราได้เสริมเติมจนสมบูรณ์ “เต็มองค์” นี่แหละ อีกหนึ่งหลัง
ค่าใช้จ่ายประเมิน หล่อองค์หลวงพ่อทวด ไม่เกิน ๖ ล้านบาท
ค่าสร้างศาลาประดิษฐานสรีระ “พระเทพญาณโมลี” (ผัน ปสันโน) ๓๐-๔๐ ล้านบาท
พระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ บอกแผนการดำเนินงานว่า เมื่อมีเงินจำนวนร่วม ๑๕ ล้านนี้แล้ว
ก็จะเริ่มลงมือหล่อหลวงพ่อทวด “ส่วนล่าง” เข้าประกอบกับ “ส่วนบน” ให้เป็น “องค์หลวงพ่อทวดสมบูรณ์”
คุณชาตรีบอก เดือนพฤศจิกา.นี้แหละ จะเริ่มดำเนินการพร้อมไปทั้ง ๒ ส่วน คือ ส่วนหล่อองค์หลวงพ่อทวด และส่วนการสร้างวิหาร
“ในส่วนหลวงพ่อทวด ตั้งใจให้เสร็จภายในกุมภา.๖๗ และประกอบพิธียกองค์หลวงพ่อทวดที่สมบูรณ์แล้ว ขึ้นตั้งบนฐาน
ส่วนวิหาร ก็ใช้เงินส่วนเหลือจากหล่อองค์หลวพ่อทวดค่อยสร้าง-ค่อยไปเรื่อยๆ เมื่อสร้างองค์หลวงพ่อทวดเสร็จ ญาติโยมมาเห็น มีศรัทธา ก็จะช่วยกันสร้างวิหารต่อๆกันไป”
นี่…ที่พระครูสังฆรักษ์พิเชษฐ์ บอกผมทางโทรศัพท์
หลวงพ่อผัน “พระเทพญาณโมลี” นั้น…..
ตอนท่านมีชีวิตอยู่ ลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธาท่านมีมาก ทั้งในเมืองไทย และจากสิงคโปร์ มาเลย์ฯ อินโดฯ เมื่อทราบข่าวก่อสร้าง เขาก็จะได้ช่วยกันด้วย ท่านพูดเสริม
“หลวงพ่อผัน” หรือพระเทพญาณโมลี เจ้าอาวาสองค์ก่อน ผมมาทราบทีหลังว่า ท่านเป็นพระทั้งทางปฎิบัติและทางปริยัติ
เป็นศิษย์รับการถ่ายทอดวิชาจาก “หลวงพ่อภัทร” วัดโคกสูง หาดใหญ่, หลวงพ่อหมุ่น วัดเขาแดงตะวันออก พัทลุง
และเจ้าคุณเนื่อง “พระภัทรกรโกวิท” วัดนาประดู่ โคกโพธิ์ ปัตตานี พระอาจารย์ของ “หลวงปู่ทิม” วัดช้างให้ และ “พ่อท่านนอง” วัดทรายขาว ปัตตานี
สรุป คือ “หลวงพ่อผัน” ท่านเป็นพระทรงคุณชื่อดังในภาคใต้และไปถึงต่างประเทศ จนมีชาวต่างประทศเดินทาง มาปฎิบัติธรรมกับท่านมากมาย
ท่านมรณภาพเมื่อปี ๒๕๖๑ ด้วยอายุ ๘๕ ปี สรีระท่านยังเก็บไว้ที่วัดจนถึงเดี๋ยวนี้
จึงเป็นที่มาของการสร้างวิหาร เพื่อนำสรีระท่านไปประดิษฐานไว้ที่นั้น พูดง่ายๆ “ศพท่าน” ไม่เผา นั่นเอง!
สรุป………
พอแล้วครับ กับเงินต้นร่วม ๑๕ ล้านบาทนี้ ที่ท่านทั้งหลายโอนเข้าวัด ด้วยมุ่งเจตนาสร้างหลวงพ่อทวดที่ค้างคามา ๒๐ กว่าปีให้เป็น “องค์สมบูรณ์”
แถมยังเหลือ ได้ดำเนินการวางรากฐานสร้างวิหารประดิษฐานสรีระหลวงพ่อผันอีกหนึ่งหลัง
หลวงพ่อทวด “สมบูรณ์องค์” แล้ว …..
เราทั้งหลาย ชีวิตก็สมบูรณ์ ด้วยบารมีหลวงพ่อทวดประทาน!
ต่อจากนี้ ก็ “เปิดทางบุญ” ให้คนอื่นเขาได้มีส่วนมาร่วมสร้างวิหารกันบ้าง
ยิ่งหลังจากประกาศข่าวสร้างหลวงพ่อทวดออกไป พระท่านบอก วัดทรายขาว มีคนรู้จักมากขึ้น และเดินทางไปที่วัดกันมากยิ่งขึ้น
ก็เป็นอันว่า การโอนเงินเข้าบัญชีวัดทรายขาว เพื่อสร้างหลวงพ่อทวด ในส่วนผมบอกกล่าวนี้
ปิดบัญชี ตั้งแต่ ๒๖ ตุลา.เป็นต้นไป
ส่วนการก่อสร้างคืบหน้าไปถึงไหน ผมจะรายงานเป็นระยะ ตั้งใจจะลงไปดูที่วัดด้วย ว่าเงินที่ท่านบริจาคนั้น เป็นไปตามเจตนาถูกต้อง-ครบถ้วนแน่
งานนี้ ผมถือว่าด้วยคลองจักษุแห่งญานของ “หลวงพ่อทวด” เห็นแล้ว จึงเจาะจงมายังเราทั้งหลาย
นั่นคือ เราทั้งหลาย ล้วนอยู่ในคลองจักษุหลวงพ่อทวดว่า เป็นผู้มีบุญวาสนาถึงร่วมกัน
และบัดนี้ ด้วย “ใจร่วม” กันนั้น
พลันสำเร็จดังประสงค์แห่งองค์ “หลวงพ่อทวด” และทั้งประสงค์นั้น “สมบูรณ์พร้อม” กับเราทั้งหลาย ครบทุกประการแล้ว
กราบทุกท่านที่เชื่อใจในสัตย์สุจริตของผมครับ
เปลว สีเงิน
๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๖
