คลิกฟังบทความ..⬇️
เปลว สีเงิน
“ขึงขัง-จังจริง-ฉับไว”
ต้องยกให้ “เศรษฐา” นายกฯ “คิดใหญ่-ทำเป็น” ของพรรคเพื่อไทย หนึ่งเดียวคนนี้!
วานซืน บอกจะตั้ง
เมื่อวาน (๒๖ ก.ย.๖๖) ตั้งเสร็จสรรพ ปานกามนิตหนุ่ม
เปล่า..เปล่า…ไม่ใช่หรอก อย่าเข้าใจผิด
นายกฯเศรษฐาไม่ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบว่า “นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร”
“ป่วยจริง-มีตัวตนอยู่จริง” ที่ “รอยัล สวีท” ชั้น ๑๔ ของโรงพยาบาลตำรวจตามที่ประชาชนสงสัยและเรียกร้องให้ตรวจสอบและพิสูจน์แต่ประการใด?
หากแต่ เป็นการตั้ง “เปาบุ้นจิ้น” ให้ตรวจสอบ กรณีตำรวจไซเบอร์ “ปูพรม” จับตำรวจทีมงาน “บิ๊กโจ๊ก”
ข้อหาพัวพันแก๊งพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซนเตอร์ รวมทั้งการไปค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” ที่ถนนวิภาวดี นั่นตะหาก
คณะกรรมการ “เปาบุ้นจิ้น” ที่นายกฯเศรษฐาตั้ง ก็มี
-นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานคณะกรรมการฯ
-นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ และมี
-พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ เป็นกรรมการ เเละเลขานุการ
ให้ตรวจสอบ รายงานผลให้นายกฯทราบภายใน ๓๐ วัน!
ร้อง…ว้า กันละซี
ก็ร้องได้ แต่ห้ามร้อง “กล้วยน้ำว้าาา” เพราะทั้ง ๒ เรื่อง คือเรื่อง “นักโทษเทวดา” และเรื่อง “ส่วยตัดส่วย” ของคนกากีต่างแก๊ง
มันเรื่องกล้วยๆ ด้วยกันก็จริง….
แต่มันระดับ “กล้วยยักษ์ปาปัวนิวกินี” ลูกเดียวหนัก ๑ กก.แต่ละลูกยาวกว่า ๓๐ ซม.
เฉพาะใบ “ใบเดียว” มุงหลังคาบ้านให้นอนเฉพาะ “น้องมินนี่” ได้หนึ่งหลัง!
แต่ถ้าสำหรับ “กำนันนก”
ไซส์กำนัน ต้องใบครึ่ง ถึงจะคลุมได้มิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ขอสำรวจความคิดเห็นประชาชนตัดหน้ารัฐบาลที่จะทำแบบสำรวจเรื่องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ก่อนนะ
คือผมอยากรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ๒ เรื่อง
เรื่องแรก…….
ท่านต้องการให้รัฐบาลเศรษฐาตรวจสอบกรณีไหนก่อน?
ก.กรณี “นักโทษเทวดา” บนชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ
ข.กรณีบิ๊กโจ๊ก “ตำรวจค้นบ้านตำรวจ”
เรื่องที่สอง…..
กรณีบิ๊กโจ๊ก ท่านมีความเห็นว่ามีสาเหตุมาจากไหน?
ก.จากการชิงตำแหน่งผบ.ตร.
ข.การ “เอาคืน” ซึ่งกันและกันจากสาเหตุ “ส่วยตัดส่วย”
อยากเพิ่มอีกซักหัวข้อสำรวจ แต่อย่าเลย เกรงใจนายกฯดิจิทัลเขา
คืออยากสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วๆ ไปว่า
-รัฐบาลนี้ อยู่เหนือการครอบงำทักษิณหรือไม่?
-เศรษฐา เป็นนายกฯ เหนืออำนาจทักษิณหรือไม่?
ไม่ใช่อะไรหรอก …….
เพราะทั้งตอนหาเสียงและตอนได้เป็นนายกฯ เห็นนายกฯเศรษฐาพูดจาแต่ละครั้ง ดูขึงขัง แถมเสียงดัง-ฟังชัด ให้ภาพเป็นนายตัวเอง ไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติใคร
แต่แปลก โผงผาง สั่งการได้ทุกเรื่อง
เว้นเรื่องเดียว คือเรื่อง “นักโทษเทวดา”!?
เศรษฐาเงียบกริ๊บ
ถ้าพูดเรื่องนี้วันไหน สงสัย ถูกวิญญานสัมภเวสีบิดไส้ “ตกเก้าอี้” ตาย เป็นรายที่สอง ต่อจากอดีตนายกฯ สมัครแหง!
คนเป็นผู้นำบริหารประเทศ จะต้องมี ๒ สิ่ง คือ
“ความเชื่อถือ” และ “ความสง่างาม”
ทั้ง ๒ สิ่งมาจากไหน คำตอบ คือ
ความเชื่อถือ มาจาก สุจริต-โปร่งใส คำไหน เป็นคำนั้น
ความสง่างาม มาจากการรู้จักวางตนตามกาลและฐานะ
นายกฯ เศรษฐา …….
มีภาพให้ความน่าเชื่อถือหรือไม่, มีความสง่างามหรือไม่?
ถึงตอนนี้ “ตนประเมินตน” ก็พอจะให้คำตอบตนได้บ้างแล้ว
ตอนหาเสียง, ตอนก่อนเป็นนายกฯและตอนเป็นนายกฯ
ท่านลองนำที่พูดในเรื่องเดียวกันไว้ มาทบทวนตอนได้รับโอกาสให้ทำซิ
มันสุจริต-โปร่งใส-คำไหน คำนั้น สร้างความน่าเชื่อถือ เกิน ๕๐-๖๐% ขึ้นไปได้แล้วหรือไม่?
การประพฤติปฎิบัติ,การวางตน ในฐานะนายกรัฐมนตรี มันมีความสง่างามสะท้อนเป็นภาพให้ความรู้สึกกับผู้พบเห็น โดยเฉพาะความ “เป็นหน้า-เป็นตา” กับคนไทย มีมาก-น้อยขนาดไหน หรือไม่มีเลย ถึงขั้นติดลบหรือไม่?
ผลตอบรับ หนักไปทางไหน ท่านรับรู้ได้ด้วยตัวเองแล้วมิใช่หรือ?
โดยทั่วไป การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพง แบรนด์หรู วิ่งตามแฟชั่น แล้วปั้นหน้า จนเกินพอดี แทนที่จะดี
กลับให้ภาพว่า คนนั้น “กลวงโบ๋” นอกจากเงินแล้วบ่มิไก๊ต้องอาศัยแบรนด์เนม “สร้างค่า” เพราะตัวเอง “ไม่มีราคา” เลย
มีแต่ยี่ห้อ “ไฮโซ-โลว์คลาส” ประจานตน!
ส่วน “ความสง่างาม” นั้น ไม่ได้มาจากเสื้อผ้าอาภรณ์แพงหรือแบรนด์หรูแต่ประการใด
มาจากการมีรสนิยมในการแต่งกาย รู้จักกาลเทศะ รู้จักงานที่จะไป และรู้จักวางตนทางสังคม
การวางตนและกริยามรรยาททางสังคมนั้น ถึงหิ้วกะลาขัดเงาแทนกระเป๋าใบละเป็นล้าน ความสง่างามจากรสนิยมแต่งกายที่ถูกกาลเทศะนั้น
กลับเป็นตัวสร้างมูลค่าเพิ่มให้ “กะลาขัดเงา” จากใบละพันเป็นใบละเป็นหมื่นได้ นั่นคือความหมายของคำว่า “สง่างาม”
แล้วเศรษฐาลองดูข่าว-ดูคลิปวีดิโอเป็นภาพตัวท่านแต่งกายไปเก้งก้างที่ UN ตามถนนหน้า UN กระทั่งการนั่งเจรจากับผู้อื่น
เป็นหน้า-เป็นตา หรือ ขายหน้า-ขายตา ลองกระซิบถามพวกที่ไม่ขี้สอพลอท่านดูบ้างซิ?!
“ข่าวต่างประเทศ” เป็นทางการ ว่าท่านจับมือกับไบเดน ก็ไม่เห็นมี
แต่ไหงสื่อไทยขาประจำบางสำนัก กลับมีภาพเศรษฐาจับมือไบเดนเผยแพร่?
เขามีหุ่นไบเดนตั้งให้คนทั่วไปจับเพื่อถ่ายรูป หรือท่านได้เขย่ามือกับไบเดนตัวเป็นๆ
ปกติท่านชอบคุยนะ แต่ไม่ยักได้ยินท่านคุยเรื่องจับมือกะไบเดนให้เป็นข่าว เป็นหน้า-เป็นตา รัฐบาลเพื่อไทยบ้างเลย
ผมเห็นทีมงานเพื่อไทย เผยแพร่ผลงานผ่านเฟซ ๑ เดือน ทั้งทำแล้ว ทำอยู่ และกำลังทำ ยาวเหยียด
-แจกเงินดิจอทัล ๑ หมื่น รอแป๊บ
-เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ กำลังเดินหน้า
แต่ที่เพื่อไทย ด่ารัฐบาลประยุทธ์มา ๙ ปี ว่าเผด็จการ ๒ มาตรฐาน เพื่อการสืบต่ออำนาจ
แต่พอมาเป็นรัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย”…
ใช่…เศรษฐา-เพื่อไทย “มาตรฐานเดียว”
แต่มาตรฐานเดียวนั้น คือ “มาตรฐานนักโทษเทวดา” พ่อทุกสถาบันอำนาจประเทศไทย
ทั้งสถาบันบริหาร-คือรัฐบาล ทั้งสถาบันนิติบัญญัติ-คือรัฐสภา และทั้งสถาบันตุลาการ-คือกระบวนการยุติธรรมไทย!
แล้วแบบนี้…….
มันน่าเชื่อถือและมีความสง่างามมั้ย…เศรษฐา?
คนในประเทศ คือคนไทย ยังรู้สึกได้
แล้วคนนอกประเทศ คือคนนานาชาติ เขาจะรู้สึกและมีทัศนคติต่อรัฐบาลที่โพนทนาตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยอย่างไร?
เพื่อไทย ด่ารัฐบาลประยุทธ์ว่า เผด็จการ ทำประเทศล้าหลัง ล้มเหลวมา ๙ ปี
ว่าประชาชนกำลังจะอดตายกันหมด เพราะประยุทธ์โง่ บริหารไม่เป็นมา ๙ ปี
แล้วฟังเสียงประชาชนผ่านสื่อสารโซเชียลวันนี้ ซี
คิดถึงลุงตู่…อยากให้ลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯ…ลุงตู่ไม่กลับมา ทั้งเงินทอง ทั้งทุกสิ่งที่ลุงพัฒนาจนประเทศก้าวหน้าฉิบหายหมดแน่
บ้างก็โอดครวญ ลุงตู่ไม่อยู่ “แอปเป๋าตัง” กูหาย คนเฒ่า-คนแก่ จะอดตายกันหมดแล้ว
ซ้ำร้ายกว่านั้น ไป UN มาวัน
กลับมาเคลมโขมงโฉงเฉง กล่อมบริษัทโน้น-นี้มาลงทุนในไทย….
เฮ้อ…ท่านไม่อาย แต่ผมอาย
ก็เขาตกลง “ถมดิน-ถมทราย” กันไว้แล้วแต่สมัยลุงตู่
ไปตู่เรื่องอื่นที่ชาวบ้านยังไม่รู้ดีกว่า พอจะได้หน้ามั่งนะ…พี่นิด!
เปลว สีเงิน
๒๗ กันยายน ๒๕๖๖
