ยุทธการอรุณรุ่งริ่ง

ผักกาดหอม

มันยกร่องจริงๆ
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านยุคนี้ มีทั้งนอก และในสภา
ใครฟังเพลินเอามันก็แล้วไป
แต่ฟังแล้วคิด มันมีประเด็นให้คิดเยอะทีเดียว

ประการแรก “ช่อ พรรณิการ์” เปิดหัวซักฟอก ล่วงหน้า ๑ วัน ว่าด้วย “คดี 1MDB”

มันอื้อฉาวที่มาเลเซีย นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นผู้ต้องหาตัวเป้ง เรื่องอื้อฉาวทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

“ช่อ” พูดราวกับว่า นายกฯ ประยุทธ์ ของไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงต้องร่วมรับผิดชอบด้วย

เท่าที่ฟังประเด็นคาบเกี่ยวกับประเทศไทยคือกรณีของ โลว เตียก โจว หรือ โจ โล คนสนิทของ นาจิบ ราซัค

“….รัฐบาลสิงคโปร์ขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดง ติดตามตัว โจ โล ตั้งแต่วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๙ แต่จากการตรวจสอบพบว่า โจ โล มีการเดินทางเข้าออกประเทศไทยถึง ๕ ครั้ง ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๕๙ – พฤษภาคม ๒๕๖๑ ผ่านเครื่องบินส่วนตัวทั้งในสนามบินกรุงเทพฯ และภูเก็ต

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

จนกระทั่งออกจากประเทศไทยครั้งสุดท้ายในวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นเพียง ๓ วัน หลังจากที่พรรคอัมโน ของ ‘นาจิบ’ แพ้การเลือกตั้งครั้งแรกในประวัติศาสตร์….”

นั่นคือคำอภิปรายนอกสภาของ “ช่อ”

ก่อนจะว่ากันต่อ ลองไปทำความรู้จักกับ “ช่อ พรรณิการ์” เพิ่มเติมอีกนิด โดยเฉพาะประวัติการทำงาน

ทำงานที่สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ของตระกูลชินวัตร ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔-๒๕๖๐ ตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออก

บรรณาธิการฝ่ายต่างประเทศ

เคยเป็นพิธีกรรายการสารคดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทยกับประเทศอาเซียน iASEAN

เคยเป็นพิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าวการเมืองและเศรษฐกิจ Tonight Thailand

เคยเป็นพิธีกรรายการข่าวต่างประเทศ Voice World Wide

จะเห็นว่าดีกรีไม่ธรรมดา จับงานข่าวต่างประเทศ โดยเฉพาะในอาเซียนชนิดหาตัวจับยาก

“ช่อ” จึงสามารถอธิบาย “คดี 1MDB” ได้เป็นฉากๆ

แต่น่าเสียดายใช้ความรู้ความสามารถในฐานะ “อดีตคนข่าว” ไปในทางที่ผิด
จับแพะชนแกะ และพูดไม่ครบ

“ช่อ” รู้แน่ๆ ว่า ไทย-สิงคโปร์ ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ระหว่างกัน
ถ้ามีป่านนี้ “ทักษิณ” ถูกลากคอเข้าคุกเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว

แล้วทำไม “ช่อ” ถึงพ่นไปเรื่อย

จำกรณี “ฮาคีม อัล-อาไรบี” ได้มั้ยครับ

นักฟุตบอลชาวบาห์เรนจะลี้ภัยทางการเมืองไปออสเตรเลีย แต่มีพรรคการเมืองในไทยฉวยจังหวะห้อยโหนกันระนาว

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

“ฮาคีม” ถูกตำรวจไทยจับตาม “หมายแดง” ที่โดยองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ “อินเตอร์โพล”

อินเตอร์โพลอ้างว่าเป็นคำร้องของ “หน่วยงานรัฐบาลออสเตรเลีย”

แต่สุดท้ายโยนขี้ให้ไทย และนักการเมืองห้อยโหนในไทยก็พากันถล่มว่ารัฐบาลไทยละเมิดสิทธิมนุษยชน

“ช่อ” ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ทีนี้ลองไปดูข้อความที่ “Voice” ที่ทำงานเก่าของ “ช่อ” แปลไว้กันหน่อย

“เอฟพีรายงานอ้างอิงข้อมูลในเว็บไซต์ของอินเตอร์โพล ระบุว่า ‘หมายแดง’ ไม่ใช่หมายจับนานาชาติ แต่เป็นหมายที่ใช้สำหรับแจ้งเตือนสำนักงานตำรวจของแต่ละประเทศสมาชิกอินเตอร์โพลให้ได้รับทราบว่า บุคคลที่มีชื่ออยู่ในหมายแดง ‘เป็นที่ต้องการตัว’ ของประเทศต้นทางที่มีการออกหมายจับตามกระบวนการในชั้นศาล
แต่อินเตอร์โพลไม่มีอำนาจบังคับให้ประเทศสมาชิกอื่นๆ ดำเนินการจับกุมหรือส่งตัวผู้ถูกออกหมายจับ ยกเว้นในกรณีที่สองประเทศที่เกี่ยวข้องมีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนร่วมกัน
ส่วนหน้าที่ของอินเตอร์โพลคือการสืบสวนสอบสวน รวบรวมข้อมูล และแจ้งเบาะแสของบุคคลที่ถูกออกหมายจับให้แก่ประเทศต้นทางรับทราบ”

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

ครับ…ไทย ออสเตรเลีย และบาห์เรน ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน

จะมาบังคับให้ไทยส่งตัวไปโน่นไปนี่ไม่ได้

แต่หากรัฐบาลมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็จะพูดคุยกันง่ายขึ้น

ฉะนั้นตามกฎ….หมายแดง มีความเกี่ยวพันกับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนโดยตรง

และอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่แรก ไทย-สิงคโปร์ ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน

“ช่อ” ไปผูกโยงว่า ประเทศไทยกำลังโกง ถูกโกง?

“รัฐบาลกำลังปิดข้อเท็จจริง อาชญากรรมทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อต้องการรักษาความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีการรับเงิน รับทองหรือไม่ ของแบบนี้มักไม่มีใบเสร็จ”
พูดแบบนี้จึงดูเลยคำว่าจินตนาการไปไกล

กลายเป็นการโกหก สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้คนในสังคม

ลองดูในกรณีเดียวกัน “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” มีหมายแดงติดหน้าผากมาตั้งนานแล้ว
สิงคโปร์ไม่เคยจับส่งตัวกลับไทย

“ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ก่อความผิดในไทย
ศาลไทยตัดสินติดคุก

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

ประชาชนคนไทยเสียประโยชน์จากการทุจริตของ สองพี่น้องตระกูลชินวัตร แล้วอดีตลูกจ้างบริษัทชินวัตรเคยพูดถึงบ้างหรือเปล่า

ประเด็นถัดมา…ถามไปยัง ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ดังๆ รู้สึกอย่างไรกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา
รับได้หรือไม่….แทนที่ “ช่อ” จะถ่ายโอนข้อมูลให้ ส.ส.คนอื่นนำไปอภิปรายในสภา แต่กลับอภิปรายสร้างราคาให้ตัวเองนอกสภาแทน

หรือ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ เป็นเพียงหัวหลักหัวตอ
อยากจะข้ามเมื่อไหร่ก็ข้าม
หรือชั้นวรรณะใน อนาคตใหม่ เป็นเรื่องจริง! ถ้าจริงก็ก้มหัวกันต่อไป

ประเด็นสุดท้าย การอภิปรายของ “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ช่วงหลังได้ข่าวว่าเป็นน้องเลิฟของ “พี่เหลิม”
คงเพราะลักษณะนิสัยส่วนตัวตรงกัน…ก็ว่ากันไป

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

เสียดายเวลาและโอกาสแทนฝ่ายค้านจริงๆ
เพราะดูเหมือนครูจะให้การบ้าน “ยุทธพงศ์” ผิด

จากยุทธการอรุณรุ่ง
จึงกลายเป็นยุทธการอรุณรุ่งริ่ง
ไม่สมราคาคุย

ข้อมูลตัดแปะ จับแพะชนแกะ ไม่น่าจะเกิดกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในยุคนี้อีกแล้ว

แต่มันก็ยังเกิดขึ้น
เทียบกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้น คุณวรงค์ เดชกิจวิกรม สร้างมาตรฐานเอาไว้สูงมาก
เพราะมันจบลงด้วยการตรวจสอบรัฐบาลจริงๆ

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เจอคุก ๕ ปีคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว

“บุญทรง เตริยาภิรมย์” เจอคุก ๕๘ ปี คดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี

“ภูมิ สาระผล” คุก ๓๖ ปี คดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี

อ้อ….มีข้อมูลแถมอีกหน่อย! เมื่อปี ๒๕๕๔ โรงสีข้าวธุรกิจของครอบครัว “จรัสเสถียร” มีรายได้รวม ๒๑๘ ล้านบาท

วันนั้น “ยุทธพงศ์” เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

นั่นคือมาตรฐานการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แต่ศิษย์รักของดอกเตอร์เหลิม ออกทะเลมุ่งตรงกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ลอยเคว้งไม่รู้จะไปไหนต่อ

ก็เพิ่งรู้ว่า “ลุงตู่” วางแผนทำรัฐประหารตั้งแต่ก่อนพ่อขายที่ดิน
ถ้าเอาตามที่ “ยุทธพงศ์” อภิปรายมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ผูกโยงเงื่อนเวลามั่วไปหมด

และประเด็นที่ไม่น่าให้อภัยเลยคือ ชักศึกเข้าบ้าน
ไม่รู้ว่า “ยุทธพงศ์” ต้องการอะไรกับการขุด เหตุฆ่าลูกเรือจีน ๑๓ ศพในแม่น้ำโขงเมื่อปี ๒๕๕๔ ยุคที่มีรองนายกฯ ชื่อเฉลิม อยู่บำรุง ขึ้นมาโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทั้งที่คดีมันจบไปแล้ว

ช่วงแรกๆ หลังเกิดเหตุ ทหารไทย ๙ นาย จากกองกำลังผาเมือง ตกเป็นผู้ต้องหา

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});

สุดท้ายผู้ร้ายตัวจริงโผล่
ทางการลาวจับกุม “หน่อคำ” สมุน “ขุนส่า” ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ ก่อนถูกส่งตัวไปมณฑลหยุนหนาน ประเทศจีน

“หน่อคำ” กับสมุนอีก ๖ คน ถูกตัดสินว่าฆาตกรรมโดยเจตนา ค้ายาเสพติด ลักพาตัว และปล้นเรือจีน
ในวันนั้น หน่อคำให้ปากคำ สารภาพเป็นภาษาไทใหญ่ว่า

“ผมชื่อหน่อคำจากประเทศพม่า อายุ ๔๔ ปี ถูกจับกุม เพราะผมวางแผนและฆ่าลูกเรือจีน ๑๓ คน ในแม่น้ำโขงเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔”

ส่วนทหารไทย ๙ นายพ้นข้อหา
การอภิปรายของ ส.ส.คนอื่นเป็นไงบ้าง

ผิดหวังเล็กๆ กับดาวรุ่ง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เพราะฟังไปมันคือกระทู้ถามเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ มากกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

สรุปโดยรวมมาตรฐานการซักฟอกรัฐบาลวันแรก ต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น

เป็นได้แค่ยุทธการอรุณรุ่งริ่ง

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});