บริการฝึกอบรมและที่ปรึกษาการขับขี่ของสแกนเนีย ช่วยให้นักขับดึงประสิทธิภาพสูงสุดของรถมาใช้ได้เต็มที่ ขับขี่สบายขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น คุ้มค่าและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างชัดเจน สนับสนุนผู้ประกอบการขนส่งขับเคลื่อนธุรกิจให้มีกำไรมากขึ้น แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โครงการทดสอบ พิสูจน์แล้วสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้ลูกค้าได้ถึง 36% หรือประมาณ 243,500 บาทต่อคัน ต่อปี
นายอำนาจ ทองทัย ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมพนักงานและที่ปรึกษาด้านการขับขี่ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยว่า ทางสแกนเนียให้ความสำคัญกับนักขับซึ่งเป็นหัวใจหลักของธุรกิจขนส่ง ซึ่งการใช้รถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถประหยัดน้ำมัน และมีความปลอดภัยมากขึ้น
โดยสำหรับผู้ที่ซื้อรถสแกนเนียทุกคนจะสามารถส่งคนขับเข้าฝึกอบรมเบื้องต้นได้ เป็นการสอนการใช้งานระบบต่างๆ ของรถ การดูแลบำรุงรักษารถประจำวัน รวมถึงทักษะการขับขี่ที่ปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ หากควบคู่กับข้อมูลการขับขี่จากระบบ Fleet Management System (FMS) ที่เชื่อมต่ออยู่ในตัวรถ จะสามารถช่วยวิเคราะห์การขับขี่เพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นได้
“สมัยก่อนผู้เชี่ยวชาญหรืออาจารย์ผู้ฝึกสอนอาจจะต้องไปนั่งกับคนขับเป็นวัน ๆ เพื่อดูว่าแต่ละคนขับรถเป็นอย่างไร และบางครั้งก็ไม่สามารถเห็นพฤติกรรมจริงของผู้ขับขี่ แต่ด้วยระบบ FMS ในตัวรถ ที่จะส่งข้อมูลของรถและการขับขี่ให้ทุกๆ วันจันทร์ ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นข้อมูล เช่น การเหยียบคันเร่งออกตัวแรงบ่อย การเบรกกระทันหัน ระยะเวลาติดเครื่องจอดพัก เป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อที่จะร่วมกันให้คำปรึกษาการขับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีลูกค้าที่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะการขับขี่ที่ถูกวิธีสามารถลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการค่อนข้างเยอะ”
นอกจากนั้นนายอำนาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อปี 2022 ทางสแกนเนียมีโครงการทดสอบที่ชื่อว่า Ecolution ขึ้นมา เพื่อมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจขนส่งที่สนใจในเรื่องของการขับขี่แบบประหยัดน้ำมันเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทผู้ให้บริการด้านการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูง เพื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพสูงสุด
“Ecolution ถือเป็นโครงการขับขี่ประหยัดน้ำมันเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยสิ่งสำคัญต้องใช้ระบบ FMS เต็มรูปแบบเพื่อนำข้อมูลเชิงลึกมาวิเคราะห์ร่วมกับที่ปรึกษาการขับขี่ของสแกนเนียอย่างใกล้ชิด ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีระยะเวลาประมาณ 6 เดือน
โดยเริ่มจากการเลือกโมเดลรถที่เหมาะสมกับรูปแบบการขนส่ง เราเลือกทดสอบกับรถสแกนเนีย 2 คัน นักขับ 4 ท่าน เพื่อให้ผลประเมินชัดเจน โดยก่อนโครงการตั้งเป้าหมายประหยัดน้ำมันดีขึ้นไว้ที่ 10% แต่หลังจบโครงการสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ถึง 36% หรือหากคำนวณเป็นเงินประมาณ 243,500 บาทต่อคัน ต่อปี
รวมทั้งลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ได้ถึง 19 ตัน ตลอดโครงการ ซึ่งด้านปรึกษาการขับขี่นั้น มีทั้งภาคทฤษฎี การประชุมเพื่อวิเคราะห์การขับขี่จากข้อมูลร่วมกันและภาคปฏิบัติที่ผู้เชี่ยวชาญของสแกนเนียขึ้นรถไปกับนักขับมืออาชีพของลูกค้าขนส่งจริงกับลูกค้า”
ด้านนายณรงค์ฤทธิ์ อิทธิสารรณชัย ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนการขาย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยว่า รถสแกนเนียขึ้นชื่อเรื่องประหยัดน้ำมันด้วยระบบขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยม ทนทาน พร้อมหัวเก๋งที่ออกแบบและทดสอบมาแล้วว่าลู่ลมที่สุด อีกทั้งมีความปลอดภัยสูง ผ่านมาตรฐานความแข็งแรงสูงสุดในยุโรป มาพร้อมกับระบบช่วยทรงตัวESP ควบคุมเบรคด้วยไฟฟ้าEBS ระบบป้องกันการลื่นไถล ที่ติดมากับตัวรถเป็นมาตรฐาน
นอกจากนี้ยังมีระบบเบรคเสริมรีทาร์เดอร์เอกสิทธิ์เฉพาะของสแกนเนีย สำหรับการขนส่งที่ต้องลงเขาลาดชัน นอกจากนั้นยังมีภายในที่หรูหรา สะดวกสบาย หน้าจอดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลชัดเจนครบถ้วน
“ในโมเดลปี 2023 จุดเด่นหลัก ๆ ที่พัฒนาขึ้นคือ เกียร์ลูกใหม่ ที่นอกจากจะน้ำหนักเบาลงถึง 75 กิโลกรัมแล้ว ยังเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวล ต่อเนื่อง ทำความเร็วได้มากขึ้นในรอบเครื่องต่ำด้วยเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ ประหยัดน้ำมันดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมเพิ่มแรงบิดฉุดลากขึ้นอีก 25%
นอกจากนั้นยังมีถังน้ำมันตัวใหม่ที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในถังได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้คุณไปได้ไกลกว่าที่เคย ไฟหน้า ไฟท้ายLED เต็มรูปแบบ เหมาะกับทุกการขนส่ง โดยเฉพาะการเข้าคลังหมวดขนส่งวัตถุอันตราย ระยะการมองเห็นดีขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่”
สนใจสอบถามรายละเอียดการทดสอบและรถสแกนเนียเพิ่มเติมได้ที่
https://www.scania.com/th/th/home/campaigns/scania-champion.html หรือโทรศัพท์ 0-2017-9200