DITTO คว้า บิ๊กโปรเจ็กต์ ธ.ก.ส.มูลค่าแตะ 200 ล้านบาท พัฒนาระบบงานรองรับการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ ยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพและลดการสูญเสีย ตั้งเป้าลดหนี้เสียและจัดการลูกค้าผิดนัดชำระหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTOเปิดเผยว่า บริษัท DITTO ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านระบบจัดการเอกสารและข้อมูลเป็นระบบดิจิทัลแบบครบวงจร ได้รับสัญญาจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบงานรองรับการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ มูลค่าโครงการ 198.5 ล้านบาท
สำหรับโครงการพัฒนาระบบงานรองรับการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ ประกอบด้วย ระบบย่อยต่างๆ 4ระบบ ดังนี้ 1) ระบบวิเคราะห์หนี้ เพื่อตรวจสอบและแยกหนี้ดีและหนี้เสียออกจากกัน 2) ระบบติดตามและการแจ้งเตือน เพื่อใช้ในการติดตามและเร่งรัดหนี้ของทางธนาคาร 3) ระบบปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการหนี้ ทั้งในการเร่งรัดหนี้ หรือ การผ่อนชำระของลูกหนี้ ให้มีประสิทธิภาพและ 4) ระบบกฎหมาย เพื่อให้การดำเนินการทางกฎหมายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นายฐกร กล่าวอีกว่า สำหรับซอฟต์แวร์ ที่พัฒนาขึ้นมานั้นจะช่วยให้ ธนาคารสามารถนำข้อมูลพฤติกรรมการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้ามาจัดกลุ่มความเสี่ยงเพื่อกำหนดกลยุทธ์การจัดการลูกหนี้ได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้ธนาคารมีเครื่องมือคำนวณสัญญาณเตือนความเสี่ยงด้านเครดิตที่สามารถแสดงผลในเชิงพฤติกรรมและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ และการวิเคราะห์หามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ให้กับลูกหนี้ของธนาคารได้
นอกจากนี้ช่วยให้ธนาคารมีระบบในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้หลายรูปแบบตามศักยภาพในการชำหนี้ของลูกหนี้และให้ธนาคารมีระบบรองรับการบริหารจัดการหนี้มีมาตรฐาน สามารถเก็บข้อมูลการปฏิบัติงานของการติดตามหนี้เพื่อประเมิน KPI ของทีมติดตามหนี้ หรือสนับสนุนกลยุทธ์การติดตามหนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับธนาคาร โดยสามารถลดหนี้เสียและลดต้นทุนการติดตามหนี้
“โปรเจ็กต์นี้เป็นโปรเจกต์ใหญ่ของ ธ.ก.ส.ซึ่งถือเป็นการยกเครื่ององค์กรให้ทันสมัยและยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่อให้การบริหารจัดการลูกค้าที่ผิดนัดชำระหนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการเกิดหนี้เสียซึ่งมีผลต่อต้นทุนโดยตรงและต้นทุนด้านความเสี่ยงของธนาคาร และยังสามารถใช้ทรัพยากรและบุคคลากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าอีกด้วย” นายฐกร กล่าว
นายฐกร กล่าวอีกว่า ในส่วนงานบริหารจัดการเอกสารซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ DITTO นั้น หลังจากที่มี พ.ร.บ. การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ บังคับใช้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ปัจจุบันนอกจากงาน ธ.ก.ส.แล้ว ยังมีงานของศาลยุติธรรมที่ยังคงดำเนินการต่อเนื่องและงานของกรมทีดิน โครงการจ้างนำเข้าข้อมูลที่ดิน เพื่อจดทะเบียนออนไลน์ที่ดำเนินการต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งจะเริ่มประมูลในเฟสใหม่ในปลายปีนี้
“ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่งของ DITTO นั้น หลังจากที่ พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ประกาศใช้ก็มีความคืบหน้าไปมาก โดยแต่ละท้องถิ่นได้ให้ความสนใจและจัดสรรงบประมาณสำหรับระบบการบริหารจัดการเอกสารมากขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เรียบร้อยแล้ว รัฐบาลคงจะเร่งผลักดันนโยบายดิจิทัลมาใช้ในหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น” นายฐกร กล่าว