ฟังบทความคลิก..⬇️
เปลว สีเงิน
เหมือน “ปั่นรูเล็ต”
ที่เห็น “กลิ้งไป-กลิ้งมา” ตรงหน้า ตราบใดที่ยังไม่นิ่ง ตราบนั้น ก็ยังมั่นใจไม่ได้ว่า มันจะออกหน้าไหน?
ที่ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” แถลงร่วมเมื่อคืน (๓ กค.๖๖) เหมือนกัน
ที่ว่าตกลงให้คนกลาง “นายวัน มูหะหมัด นอร์ มะทา” พรรคประชาชาติ เป็น “ประธานสภา” นั้น
นาทีนี้-ชั่วโมงนี้ จากมติ ๒ พรรค “ใช่”
แต่วันนี้ ๔ กค.จากมติที่ประชุมสภา ด้วย ๔๙๘ สส.ยังจะใช่หน้านายวันนอร์ หรือถึงนาทีนั้น-ชั่วโมงนั้น จะพลิกเป็นหน้าอื่น มันเป็นไปได้ทั้งนั้น
ฉะนั้น เอาที่แน่ๆ รอดูจากที่ประชุมวันนี้ ชัวร์สุด!
แต่ถ้าพูดตามหน้าเสื่อ
เมื่อ ๒ พรรค “ก้าวไกล-เพื่อไทย” ที่มีเสียงรวมกัน ๒๙๒ เสียง “ค่อนสภา” ตกลงกัน ถึงจะมีใครเสนอคนอื่นชิง มันก็ไร้ปัญหา
เว้นแต่มีรายการ “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” เกิดขึ้นเท่านั้น!
มองกันจริงๆ ผ่านเกมชิงประธานสภาถึงตอนนี้ ต้องบอกว่า
“ก้าวไกล” แพ้แล้ว!
การเสนอนายวันนอร์ มองเผินๆ ซึ่งเป็นพรรคที่ ๓ นับเป็นทางออกที่ดี ไม่เสียรังวัดด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ใช่…ไม่เสียรังวัดทั้ง ๒ ฝ่าย
แต่ “ก้าวไกล” เสียทั้งเชิง-เสียทั้งเก้าอี้ให้เพื่อไทยไปแล้ว!
เพราะจริงๆ แล้ว……….
“นายวันนอร์-ประชาชาติ” ใช่อื่นไกล ก็พรรคเพื่อไทย สาขา ๓ จังหวัดใต้ดีๆ นั่นเอง
ที่ดูเหมือน “เข้าขา” กับก้าวไกล ก็แค่นโยบาย “๓ จังหวัดใต้” ตรงกัน มันก็ตรงประโยชน์เฉพาะกิจร่วมกันเท่านั้น
ดังนั้น การที่นายวันนอร์เป็น “ประธานสภา”
เท่ากับว่าก้าวไกล “หลุดก้น” ไปแล้ว ๑ เก้าอี้!
ในขณะที่ “เพื่อไทย” ได้เก้าอี้ประธานสภามาแล้ว ๑ เก้าอี้
แม้วันนี้ เกิดรายการพลิกล็อก ประธานสภาจากวันนอร์กลายเป็นคนอื่น
“คนอื่น” นั้น ถ้าจะมี…….
ก็เป็นอื่นสำหรับก้าวไกล แต่จะ “ไม่ใช่ใครอื่น” สำหรับเพื่อไทย ๑,๐๐๐%!
กอน วิธ เดอะ วิน ไปแล้ว ๑
เหลือเก้าอี้นายกฯ คนที่ ๓๐ ให้ก้าวไกล “คว้าลม-ชมเงา” อีก ๑
ถ้าพลาดอีก ๑ ที่เหลือ
พรรคก้าวไกล ก็ควรอภิวัฒน์ประชาธิปไตยเป็นคณะนักร้องประสานเสียง
เริ่มจากเพลงที่ “รักษ์ รักษ์พงษ์” คือพ่อท่าน “โพธิรักษ์” ขณะนี้ เคยแต่งให้ “นริศ อารีย์” ร้อง ตรงท่อนที่ว่า
“ฉันทนทานใจกระไรเหลือข่ม
ยิ่งตรมระทมทวี ลี้หลบชะตาระอาอ่อนใจ
อยู่ก็อยู่อย่างผู้ปราชัย
ช้ำสุดช้ำในทรวงใน ทรงกายทรงใจอยู่เอย
แพ้จนรักสิ้นสลาย
ทำลายเราป่น สุดทนเปรียบเปรย
แพ้ไปทุกสิ่งอกเอ๋ย……..
ไม่เหลืออันใดเลย ชะตาเอ๋ยช่างเลวทราม”
ก็ประมาณนี้…….
และ ๙๙.๙๙% ก้าวไกลก็จะตกอยู่ในสภาพนี้ …แพ้ไปทุกสิ่งอกเอ๋ย ไม่เหลืออันใดเลย พิธาเอ๋ย…ช่างเลวทราม”!
เพราะเพื่อไทย ดีดยี่ต๊อกเสร็จสรรพแล้ว
ต่อให้โหวตเลือกพิธาร้อยครั้งในรัฐสภา พิธาก็จะไม่ได้ ๓๗๖ เสียงขึ้นไปทั้งร้อยครั้ง
ตำแหน่งนายกฯ ก็จะลงล็อก “ตาอิน-ตานา” แล้วไปเสร็จที่ “ตาอยู่” เหมือนรายการเก้าอี้ประธานสภานี้แหละ!
พิธาไม่ได้ เพื่อไทยก็ไม่ได้
พรรคที่ ๓ แต่สายสะดือเพื่อไทยได้ไป เป็นนายกฯ “คนกลาง”
จนกระทั่งความเป็นพรรคร่วม ก้าวไกลก็ต้อง “ชิดซ้าย” ตกขอบถนนไปเลย ในที่สุด!
เราเตือนคุณแล้ว……ก็ไม่เชื่อ
ว่าการประกาศยกเลิกมาตรา ๑๑๒, การเลือกตั้งผู้ว่าเป็นนายกฯ จังหวัด กระทั่งนโยบายว่าที่รัฐมนตรีศิริกัญญาคนสวย
เปิดแบงก์อีก ๒๐ แบงก์ แข่งโรงรับจำนำ
ตุ้งโบ๊ะ บอกว่าดอกเบี้ยจะได้ถูก คนจะได้กู้เอาไปกิน,ขี้,ปี้,เล่น นั้น แค่พูด ยังสร้างความโกลาหลอลหม่าน พอๆ กับค่าแรง ๔๕๐ บาท ที่ทำตลาดแตกขณะนี้
แล้วจะมีใคร-พรรคไหน ……..
อยากร่วมในการสร้างความฉิบหาย จนเป็นไฟเผาไหม้ตัวเอง ทั้งโคตรพงษ์วงศ์ตระกูล พลอยเป็นจุลตามไปด้วย?
เมื่อวาน ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” เสด็จฯ ไปทรงเปิดการประชุมรัฐสภา
มีสมาชิกและบุคคลสำคัญ เช่น …….
ประธานองคมนตรี คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ นายกรัฐมนตรี,คณะรัฐมนตรี,ประธานศาลฎีกา, ประธานองค์กรอิสระ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคต่างๆ ที่ได้รับการเลือกตั้ง และสมาชิกวุฒิสภา เข้าร่วมรัฐพิธี
ในการนี้ พระราชทานพระราชดำรัสเปิดการประชุม ความสำคัญว่า
“ บัดนี้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสร็จสิ้นลงและมีการเรียกประชุมรัฐสภา พุทธศักราช ๒๕๖๖ แล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมรัฐสภาตั้งแต่วาระนี้เป็นต้นไป
ขอให้ท่านทั้งหลายผู้เป็นสมาชิกของสภาแห่งนี้ได้ระลึกไว้เสมอว่า ท่านเป็นผู้ได้รับมอบหมายจากประชาชนให้มาเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศในการใช้อำนาจนิติบัญญัติ
เพื่อดำเนินการปกครองและพิจารณาออกกฎหมายต่างๆ ให้รัฐบาลถือเป็นหลักในการบริหารราชการแผ่นดิน
ดังนั้น ประเทศชาติจะมีความเจริญเพียงไรย่อมขึ้นอยู่กับสติปัญญาความสามารถ และความสุจริตบริสุทธิ์ของท่านที่จะปฏิบัติหน้าที่ทั้งปวง
โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุด
หากทุกท่านจะได้สำนึกตระหนักเช่นนี้อยู่เสมอ ก็จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วงเป็นประโยชน์เป็นความเจริญมั่นคงของอาณาประชาราษฎร์และชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง
ขออำนวยพรให้การดำเนินงานของรัฐสภาเป็นไปโดยเรียบร้อยสำเร็จผลที่พึงประสงค์ทุกประการ ทั้งขอให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญทุกเมื่อไป”
………………………………
การเสด็จฯ ไปทรงเปิดการประชุมรัฐสภาครั้งนี้ ได้รับความสนใจทั้งคนในประเทศและนอกประเทศมาก
เหตุผลหนึ่ง มาจากนโยบายพรรคที่ได้เสียงข้างมากจากเลือกตั้ง ซึ่งเนื้อหาเป็นปฎิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ดังนั้น จึงจับตากันมาก…..
ว่าพรรคที่มีนโยบายเป็นปฎิปักษ์ต่อสถาบัน จะมีปฎิกริยาเช่นใดต่อการเสด็จฯไปทรงเปิดการประชุมรัฐสภา
ตามโซเชียล มีเดีย จะมีผู้โพสต์ข้อความ ดังนี้ เช่น
……………………..
Annie Handicraft
วันนี้เสียงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
ดังกึกก้องมากๆในห้องโถงพระราชพิธีชั้น 11
ในหลวง และ พระราชินี เสด็จฯ มาทรงเปิดประชุมรัฐสภา ทรงยืนหน้าพระราชอาสน์
มีพระราชดำรัสเปิดประชุมรัฐสภา แก่สมาชิกรัฐสภาและผู้เข้าร่วมพิธี
ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร,สมาชิกวุฒิสภา, องคมนตรี, คณะทูตานุทูต, ประธานองค์กรอิสระ และคณะรัฐมนตรี รวมกว่า 1,000 คน
…………………………..
ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้โพสต์ข้อความนี้
………………………..
เพนกวิน – พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak
ว่าด้วยรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา
ไม่เคยมีธรรมเนียมว่าผู้แทนปวงชนจะต้องร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมสภามาก่อน
ทั้งยังเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะเป็นการ “ประจบเจ้า” ออกหน้าออกตาจนเกินงาม
ไม่มีความสง่าสมกับความเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจอธิปไตยฝ่ายนิติบัญญัติที่ประชาชนเลือกมา ….ฯลฯ….
…………………………………….
พิธาลองตอบซิ เมื่อก้าวไกลเป็นรัฐบาล
พิธา-ในฐานะนายกฯ
จะดำเนินการอย่างใดกับผู้โพสต์ข้อความนี้?
เปลว สีเงิน
๔ กรกฏาคม ๒๕๖๖
