ไทย “ใหม่แท้-ใหม่สถุล” – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ…?

เปลว สีเงิน

วาวว..วาววว…วาววว!
เบาได้ก็เบาก่อนนะพวก อย่าเพิ่งรีบ “แยกดินแดน” ๓ จังหวัดใต้กันแต่หัววันเลย
เห็นหัวกูบ้างเหอะ!
รอรัฐบาล ๘ พรรค “ฟักเป็นตัว” ซะก่อน ก็ยังไม่สาย

ถึงตอนนั้น….
ถ้าคิดว่า “ทำได้” ก็เชิญเลย!

นี่ยังไม่ทันไร ใช้ชื่อ “ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ” นำหน้า ดุนหลังด้วย ก้าวไกลบ้าง ประชาชาติบ้าง เป็นธรรมบ้าง

แถลงการณ์เสิบสาน จัดกิจกรรม “ลงประชามติ” แยก ๓ จังหวัดใต้เป็นเอกราช ที่ มอ.ปัตตานี เมื่อวาน (๘ มิย.๖๖)

“นายกัณวีร์ สืบแสง” เลขาฯพรรคเป็นธรรม นั่นน่ะ
ก็ “พอรู้-พอเข้าใจ” อยู่……

ว่าไม่ใช่วันนี้หรือเมื่อวานนี้หรอก หากแต่นายและขบวนการของนาย เคลื่อนไหวทุกรูปแบบ ทั้งในและนอกประเทศมานานขนาดไหนแล้ว

แต่ “ทนอีกนิดเถอะน่า” พวก อย่าเพิ่ง “ออกตัวแรง” นัก
เดี๋ยวเครื่องจะไหม้ซะก่อน!

สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามวิถีทางประชาธิปไตย นั่นน่ะ ย่อมทำได้ แต่มันต้อง “อยู่ในกรอบ”

คุณต้องเข้าใจด้วย ว่าสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกนั้น
มันคนละเรื่อง-คนละประเด็นกับการ “แบ่งแยกดินแดน”

บ้านเมือง “มีขื่อ-มีแป” ฉันใด
“ประเทศชาติ” ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็มี “รัฐธรรมนูญ” เป็นกฎหมายสูงสุดฉันนั้น

ดังนั้น………
ใช่ว่า ใครอยาก “แยกชาติ-แยกแผ่นดิน” ก็อ้างประชาชนอ้างเสรีภาพ อ้างประชาธิปไตย แล้วทำได้ตามใจชอบ

พวกคุณ คณะรัฐบาลทิพย์ ๘ พรรคน่ะ
ไม่รู้-ก็ควรต้องรู้ ว่า “รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑” ระบุชัด

“ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้”

แล้วนี่ เหิมเกริม ถึงขั้นให้ “ลงประชามติ” แยก ๓ จังหวัดใต้ “เป็นรัฐปาตานี” หรือเป็นประเทศแบบ “ติมอร์ เลสเต” กันแล้ว
มัน “ผิดกฎหมาย” ชัดๆ

แต่พวกคุณไม่แคร์ ประเมินว่า ฝ่ายบ้านเมืองไม่มีน้ำยา ไม่กล้าทำอะไรพวกคุณงั้นละซีท่า?
ถึงได้กร่างกันนัก ทำตัวเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ชนิดไม่แคร์หน้าอินทร์ หน้าพรหม

ก็รู้ ที่พวกคุณทำ ไม่ได้หวังผลวันนี้
เจตนาต้องการ “ปักธง” สร้างกระแสนำร่องให้เป็นข่าวโลก

ท่ามันจะไม่ไหวซะละมั้ง…….
กับไอ้รัฐบาล ๘ พรรคก้าวไกลนี่น่ะ ยังไม่ทันไร ก็ออกลายกันซะขนาดนี้

ถ้าได้เป็นรัฐบาลจริงๆ พิธา-ก้าวไกล เป็นนายกฯ
แผ่นดิน ๗๗ จังหวัด มิถูกจัดแบ่งเป็นรูปแบบสาธารณะรัฐ แล้วเลือกตั้ง “ผู้ว่าการรัฐ” มีประธานาธิบดีเป็นประมุขสูงสุด แทนระบบ “พระมหากษัตริย์” กันหรือนั่น?!

แค่ “ยุโรป-สหรัฐฯ” หนุนหลัง………
ก็อย่านึกว่าจะกร่างได้ อยู่เหนือกฎหมายได้

เหยียบหัวข้าราชการ เหยียบหัวทหาร เหยียบหัวรัฐบาลบ้านเมือง ด้วยกำแหง พวกกูชนะเลือกตั้ง พวกกูจะได้ครองเมือง

ตั้งแต่ก้าวไกลชนะเลือกตั้งนี่……
“เจ้า ๒ แสบโลก” กระดี๊-กระด๊า ออกหน้าออกตา พล่านเหนือ-พล่านใต้-พล่านอีสาน ชนิดเหยียบหัวกบาลคนไทย ไม่เกรงอก-เกรงใจใครเลย

ไอ้พวกทาส ที่อาศัยแผ่นดินเกิด มันคงนึกว่า “ส้ม-แดง” ๘ พรรค ได้เป็นรัฐบาลแล้ว พวกกูจะพลอยได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินตามไปด้วย

ทำตัวเป็น “นายตรวจประเทศ” เที่ยวออกตะกุย-ตะกายเปรอะไปหมด

กฎหมายเขาให้อำนาจกกต.ทำงาน ๒ เดือน ตรวจสอบความถูกต้องการเลือกตั้งได้ ๙๕%แล้ว ให้ประกาศรับรองผลไปก่อน เพื่อเปิดประชุมสภา

นี่ผลเลือกตั้งยังไม่สะเด็ดน้ำเลย ก็ส่งพวกออกมาตะกายตึก เหยียดหยาม ด่าทอ กดดันกตต.ให้รีบประกาศ ก้าวไกลจะได้เข้าไปทำหน้าที่รัฐบาลเร็วๆ

เห็นแล้วก็อนาถ……..

ประเทศไทยพศ.นี้ ทำไมถึงเรี่ยราดด้วย “สัตว์โลกทิพย์” พูดจาภาษาคนไม่รู้เรื่องยั้วเยี้ยขนาดนี้?

ผมเคยอ่านตำรา ครูบาอาจารย์ท่านเขียนบอก เคยคุยไปแล้วหลายๆ ปีก่อนด้วยซ้ำ ว่าเมื่อ “ยมทูตใต้พิภพ” เวียนถึง
ในวงรอบ ๓๐ ปี
ไทยจะเข้าสู่ยุค “สังคมประเทศลอกคราบ”

ก็น่าจะจริงแฮะ!!!

นี่ก็ผ่านมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว ประเทศไทย ลอกคราบทั้งด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ไปไกลถึงขนาดมีคนขะมักเขม้น “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน”

ไปถึงขั้น จะแยกประเทศ จากราชอาณาจักรไทย อันใครจะแบ่งแยกมิได้ มันก็เหิมเกริม จะแยกแผ่นดินเป็นสาธารณรัฐ

แต่ไม่หรอก เพราะการ “ลอกคราบ” ตามนัยครูบาอาจารย์บอก ไม่ใช่การ “แบ่งแผ่นดิน-แยกประเทศ”

แต่หมายถึง ด้วยระบอบการปกครองในพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข ประเทศไทยจะพัฒนาก้าวหน้า “ทุกมิติ” สู่ความเป็นประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งในภูมิภาค

ผมคำนวณแล้ว วงรอบภายใน ๒๐ ปีนี้ ประเทศไทยเรา ลอกคราบไปสู่จุดนั้น แน่นอน!

ไม่ต้องดูอื่นไกล ด้วยพระบารมี “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”

เมื่อปี ๒๕๖๑ “สถาบันพลาสมาฟิสิกส์” ประเทศจีน
มอบ “ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์” ไทยโทคาแมค ๑ หรือ Thai Tokamak-1 (TT-1)ให้ไทย นำไปเป็นต้นแบบ

ในโลกตอนนี้ มีดวงอาทิตย์ประดิษฐ์ไม่กี่ประเทศ ในอาเซียน ก็มีที่ไทยนี่แหละ “แห่งเดียว”

นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรไทยไปรับการถ่ายทอดวิทยายุทธ “นิวเคลียร์ฟิวชั่น” จากจีน ทั้งศึกษาร่วมฝึกสร้าง ที่เมืองเหอเป่ย ก่อนถอดเป็นชิ้นส่วนกลับมาประกอบที่ไทย

และเมื่อกี่วันมานี้ ……..
ชิ้นส่วนหลัก ๔๖๒ ชิ้น น้ำหนักกว่า ๘๔ ตัน บรรจุด้วยตู้คอนเทนเนอร์ ๖ ตู้ จากจีน มาถึงท่าเรือแหลมฉบัง

นำไปติดตั้งที่อาคารปฏิบัติการเครื่องโทคาแมค “สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ” อำเภอองครักษ์ นครนายกแล้ว!

“ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์” หรือ “เครื่องโทคาแมก” คืออะไร?

เอาคร่าวๆ ก่อนละกัน วันหลังจะเล่ารายละเอียดให้ฟัง

“โทคาแมค” คือเครื่องควบคุมการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากปฏิกิริยาฟิวชัน เลียนแบบการทำงานของดวงอาทิตย์

สิ่งควรเข้าใจก่อนคือ….
“เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น” จะเหมือนพลังงานจากดวงอาทิตย์จริงๆ เมื่อรั่วไหล ไม่มีอันตราย ไม่ก่อมลพิษภาวะต่อโลก ต่อคน และสัตว์

ต่างกับ “เตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่น” ที่เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งก่อให้เกิดสารกัมมันตรังสี อันตรายต่อโลก ต่อมนุษย์-พืช-สัตว์

แถมจะอยู่แพร่กัมมันตรังสีเป็นพันๆ ปี ไม่ยอมสลาย!
คนละเรื่องกับ “โทคาแมก” นี้เลย

โทคาแมก จะกักเก็บ “พลาสมา” พลังงานสูง โดยใช้สนามแม่เหล็ก ซึ่งปลอดภัยกับโลก
เป็นแหล่งสร้าง “พลังงานสะอาด” แทนน้ำมัน แทนก๊าซที่กำลังจะหมดในอนาคต

ขั้นนี้ อยู่ในขั้นตอนศึกษาเพื่อไปสู่ศักยภาพสูงสุด ไทยเป็นมหาอำนาจพลังงานสะอาดป้อนอาเซียน โดยไม่ต้องใช้น้ำมันหรือก๊าซ

เป็น “พลังงานนิวเคลียร์ฟิวชัน” เป็นมิตรกับโลก
ไม่ใช่ “พลังงานนิวเคลียร์ฟิชชัน” ที่ทำลายล้างโลก

ขั้นตอนระยะแรกนี้ คาดการพัฒนาอุณหภูมิของพลาสมาจะอยู่ที่ ๑ แสนองศาเซลเซียส
ทางสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ไทยเรา มีแผนพัฒนาระบบเพิ่มความร้อนพลาสมาให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อเพิ่มอุณหภูมิพลาสมาเป็น ๑ ล้านองศาเซลเซียส

ภายใน ๑๐ ปี นับจากปีนี้
นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรไทยจะสร้างเครื่องโทคาแมคเครื่องใหม่ด้วยฝีมือไทย โดยใช้เทคโนโลยี Superconducting magnet

บนเป้าหมาย จะสร้างพลาสมาที่มีอุณหภูมิสูงประมาณ ๑๐ ล้านองศาเซลเซียส

และภายใน ๓๐ ปี…….
ไทยจะมี “โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน” พลังงานจากดวงอาทิตย์ประดิษฐ์ ประสิทธิภาพ,ประสิทธิผล อภิมหายิ่งใหญ่
สิ้นสุดการ “ลอกคราบสู่อนาคตใหม่ของไทย” ที่สมบูรณ์ เป็น “ไทยประเทศ” ที่ยิ่งใหญ่ไพศาล สุดๆ ในอุษาคเนย์!

นี่แหละเว้ย…เฮ้ย
เส้นทางสู่อนาคตราชอาณาจักรไทยในศตวรรษที่ ๒๑ ที่เริ่มแล้วและจับต้องได้แล้ว

ไทยรุ่นใหม่ “ของแท้” เขาพัฒนาชาติไปถึงขั้น สร้าง “ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์” กันแล้ว

แต่รุ่น “สามสัสแท้” กลับก้มหน้า-ก้มตา ตะกุย
“ขุดรู” วางไข่ ตะพึด!

เปลว สีเงิน
๙ มิถุนายน ๒๕๖๖

Written By
More from plew
เขาเอากันแน่แล้ว – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว….? เรามัวแต่ “จิกตีกันเอง” อยู่ในเข่ง ไม่เงยหน้ามองดู “ชาวเมือง-ชาวโลก” เขาบ้าง เดี๋ยวก็กลายเป็น “ไก่ตรุษจีน” ชนิดไม่รู้ตัวกันหมดหรอก!
Read More
0 replies on “ไทย “ใหม่แท้-ใหม่สถุล” – เปลว สีเงิน”