‘สุชาติ’ ปลื้ม!! กองเชียร์‘ลุงตู่’ พรึ่บจนล้นศาลากลาง เปิดใจชาวชลบุรีรักลุงตู่ เพราะไม่โกงประเทศชาติบ้านเมือง

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 เวลา 18.00 น. ที่หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ขึ้นปราศรัยพบปะกับพี่น้องชาวจังหวัดชลบุรีเพื่อกล่าวถึงผลงานและนโยบายของพรรคที่ทำเพื่อพี่น้องประชาชน

ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของพรรค โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีกองเชียร์พรรค รทสช. ต่างส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจท่ามกลางประชาชนพร้อมใจกันสวมเสื้อเหลืองมาฟังกว่า 30,000 คน จนล้นทะลักพื้นที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี

โดยในช่วงแรก นายสุชาติ ได้กล่าวถึงสิ่งที่พี่น้องชาวจังหวัดชลบุรีแสดงออกถึงความรักที่มีให้ลูงตู่ว่าขณะที่ลุงตู่ลงพื้นที่ตลาดหนองมน มีคนมารอขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมากจนต้องใช้เวลาเดินนานกว่าสองชั่วโมง และที่หน้าศาลากลางก็มีประชาชนมารอฟังปราศรัยใหญ่แน่นจนล้นพื้นที่จนต้องเสริมเก้าอี้

โดยนายสุชาติ ยังเปิดใจถึงสิ่งที่หลายคนสงสัยว่าทำไมตนถึงตัดสินใจเลือกที่จะมาอยู่กับพรรคลุงตู่ ด้วยเหตุผลว่า คนชลบุรีรักลุงตู่ เพราะลุงตู่ไม่โกงประเทศชาติบ้านเมือง เป็นผู้นำที่ตัดสินใจเด็ดขาด ฉับพลัน โดยเฉพาะช่วงโควิดได้รับการชื่นชมจากองค์การอนามัยโลกที่สามารถนำพาประเทศก้าวข้ามวิกฤตมาได้

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงเหตุผลที่ตนตัดสินใจลงปาร์ตี้ลิสเพราะต้องการเป็นผู้แทนของคนชลบุรีทั้งจังหวัด ถ้าลงเขตจะเป็น ส.ส.ในเขตเลือกตั้งเดียว และได้เน้นย้ำขอให้เลือกตนไปเป็นคนรับใช้ประชาชนชาวชลบุรี ไม่ใช่เลือกไปเป็นเจ้านายประชาชน เหตุผลที่ตนไปปราศรัยมีแต่คนชลบุรีพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลือง เพราะชลบุรีเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อเหลือง” นายสุชาติ กล่าวท้ายสุด

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงนโยบายของพรรคเพื่อพี่น้องผู้ใช้แรงงานเมื่อกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง อาทิเช่น เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผลักดัน พ.ร.บ.ประกันสังคม 3 ขอ คืนเงินชราภาพผู้ประกันตน 30 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มเงินชราภาพ อายุ 55 ปี เป็น 10,000 บาท เพิ่มเงินเลี้ยงดูแลบุตร สร้างโรงพยาบาลประกันสังคม ออกกฎหมาย พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ เป็นต้น

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และแคนคิเดตนายกรัฐมนตรี ได้นำทีมขุนพลคู่ใจนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรคบุกหาเสียงในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยได้กล่าวทักทายกับพี่น้องชาวชลบุรีว่า จังหวัดชลบุรีถือเป็นแหล่งบ่มเพาะความแข็งแกร่ง เพราะว่าตนได้เริ่มชีวิตรับราชการทหารยศร้อยตรีครั้งแรกที่นี่ และบอกถึงเหตุจำเป็นที่ต้องมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะว่าต้องการสร้างความสงบสุข สามัคคี และสร้างสิ่งดีๆ ให้กับประเทศไทย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังพูดถึงนโยบายของพรรค รทสช.ว่า คนไทยทุกคนต้องได้รับการดูแลจากพรรคถ้าพรรคได้เป็นรัฐบาล ตนมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติเพราะต้องการสร้างความสงบสุข เพราะประเทศไทยต้องยึดมั่นใน 3 เสาหลัก คือ ชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์ เป็นที่พึ่งและยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย ในส่วนของที่จังหวัดชลบุรี

ตนได้พัฒนาโครงการต่างๆ มากมายทั้งสนามบิน ถนน ท่าเรือ และโครงการอีอีซี โดยในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวอีกว่า ใครจะเรียกตนว่าอะไรก็ได้ทั้งลุงตู่ พี่ตู่ หรือ น้องตู่ เพราะตนยังแข็งแรงอยู่เสมอมีเลือดนักสู้อยู่ในกายทุกหยด โดยได้อ้อนคะแนนเสียงขอชาวชลบุรีให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค ส.ส.รทสช.ในชลบุรีมี 10 เขตต้องได้ทั้งจังหวัด และครบทั้งประเทศ ตนพร้อมจะดูแลคนทั้งประเทศ รวมทั้งเยาวชนให้เติบโตขึ้นมา เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์

ส่วนครอบครัวใหญ่ คือ ประเทศไทย ตนจะเข้ามาปกป้องแผ่นดินไทย เป็นแผ่นดินทองให้ได้ ต้องหาเงินหารายได้เข้าประเทศให้ได้ 4 ล้านล้านบาท และนำนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา ไม่ใช่ใช้จ่ายจนเงินหมด เพื่อให้ประเทศชาติมีรายได้ ประชาชนมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ทั้งนี้ บรรยากาศหน้าเวทีปราศรัยมีประชาชนต่างส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ และต้องการให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยชาวบ้านได้มาจับจองพื้นที่กันตั้งแต่ช่วงบ่าย จนเก้าอี้ที่เตรียมไว้กว่า 30,000 ตัวไม่เพียงพอ บางคนจึงต้องนำเสื่อจากบ้านมาปูกับพื้นเพื่อนั่งฟังการปราศรัยด้วย

Written By
More from pp
Trash to Treasure Art & Design Contest ครั้งที่ 5 “ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity)” สีสันจากวัสดุเหลือใช้ สู่งานศิลปะรักษ์โลก
เมื่อวัสดุเหลือใช้ล้นโลก การเปลี่ยนให้กลายเป็นงานอาร์ตหรือของใช้สุดสร้างสรรค์จึงเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง โครงการประกวดเพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและการออกแบบ (Trash to Treasure Art & Design Contest) ชิงรางวัลรวมมูลค่าทั้งสิ้น 112,000...
Read More
0 replies on “‘สุชาติ’ ปลื้ม!! กองเชียร์‘ลุงตู่’ พรึ่บจนล้นศาลากลาง เปิดใจชาวชลบุรีรักลุงตู่ เพราะไม่โกงประเทศชาติบ้านเมือง”