เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ข่าวพาดถึงพรรคเพื่อไทย ทำนองว่าคนเป็นผู้นำไม่ใช่แค่หาเงินเป็นอย่างเดียว แต่ต้องรักษาเงินเป็นและต้องไม่โกงว่า
หาก น.ส.ทิพานัน ทำหน้าที่ทีมโฆษกรัฐบาลได้ดีไม่บกพร่อง เหมือนกับโฆษกคนอื่นๆ แถลงข่าวที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน คงจะดีและคุ้มค่ากับภาษีของพี่น้องประชาชนมากกว่านี้
แต่ประโยคที่ น.ส.ทิพานันพยายามจะสื่อเพื่อเอาใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะกลายเป็นภาพที่จำติดตาว่า การทำหน้าที่รองโฆษกรัฐบาลครั้งสุดท้าย ผลงานที่เห็นเป็นประจักษ์ คือ การสรรเสริญเยินยอ พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้นใช่หรือไม่
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อไปว่า น.ส.ทิพานัน อย่าพยายามกล่าวหาผู้อื่นว่าโกง เพราะการโกงที่แย่ที่สุด คือ การโกงอำนาจจากประชาชนใช่หรือไม่ การที่พลเอกประยุทธ์ทำรัฐประหาร น.ส.ทิพานัน คิดว่าเป็นการปล้นอำนาจ หรือไม่
การรัฐประหารมีความผิดฐานกบฎ มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต หากไม่มีความผิดจะเขียนนิรโทษกรรมทำไม ซึ่งการรัฐประหารคือต้นเหตุของความขัดแย้งในหลายปีที่ผ่านมา
น.ส.ตรีชฎา กล่าวทิ้งท้ายว่า น.ส.ทิพานัน ยังพาดพิงไปถึง ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ว้าเหว่ โดดเดี่ยว ขาดความอบอุ่น การกล่าวเช่นนี้นึกถึงสำนวนไทย สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล หากเป็นคนว้าเหว่โดดเดี่ยวจริง เหตุใดยังมีประชาชนรักและคิดถึงจนถึงทุกวันนี้
ขณะที่คนที่อยู่ในประเทศมา 8 ปี จนสื่อตั้งฉายา 8 ปีที่แปดเปื้อน คนกลับเอือมระอา น.ส. ทิพานัน ไม่ต้องห่วง ดร.ทักษิณ ไปห่วง พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อพ้นตำแหน่งดีกว่า เกรงว่าจะเดินบนถนนเหมือนปกติชนได้หรือไม่
“ที่มีการหาเสียงใส่ร้ายว่าพรรคเพื่อไทยจะยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น พรรคเพื่อไทยไม่เคยบอกว่าจะยกเลิก แต่จะทำได้ดีกว่า ด้วยการสร้างรายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่า เงินเดือนปริญญาตรี ข้าราชการ เพิ่มขึ้นเป็น 25,000 บาทต่อเดือนภายใน 4 ปี
ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 600 บาทต่อวันภายใน 4 ปี พักหนี้ พักต้น พักดอก ทันที รวมถึงนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง จะทำให้คนไทยยืนบนลำแข้งตัวเองได้ และลืมบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปเลย” นางสาวตรีชฎากล่าว