“ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่เลือกคนรวย คนจน เด็กอนุบาล หรือผู้สูงอายุ เราจะไม่ปล่อยให้แก้ปัญหาแบบนี้อีกต่อไป พรรคเพื่อไทยมา PM2.5 ต้องหมดไป ต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและโดยแก้เริ่มจากได้การมีรัฐบาลใหม่ที่เอาจริงเรื่องนี้”
3 กุมภาพันธ์ 2566-นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า
ปัญหาค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานครติดอันดับโลกขณะนี้ และอยู่ในระดับเป็นอันตรายต่อสุขภาพจากสภาพอากาศปิด ขณะที่ในหลายจังหวัดประสบปัญหาจากการเผาป่า เผาไร่ ที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาเป็นแบบไฟไหม้ฟางและปลายเหตุมาตลอด
พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งระยะสั้น กลาง และระยะยาว หากได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาโดย
1. เข้มงวดห้ามเผาป่า เผาไร่เช่น อ้อย ข้าวโพด และของเหลือจากผลิตผลทางการเกษตรอย่างเคร่งครัด พร้อมกับดำเนินนโยบายปลูกป่าเศรษฐกิจขนานใหญ่ ได้ทั้งการแก้ปัญหาโลกร้อนและซับฝุ่น PM2.5
2.เร่งแก้ไขปัญหาฝุ่นไร้พรมแดนจากประเทศเพื่อนบ้านด้วยการเจรจากับมิตรประเทศ เพื่อร่วมมือกันกำจัดฝุ่นที่ต้นตอ ไม่ให้มีปัญหาเผาผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าวโพด อ้อย พร้อมกับถ่ายทอดเทคโนโลยีนำซากผลผลิตทางการเกษตรมาทำปุ๋ยหรือพลังงาน
3. เปลี่ยนรถโดยสารประจำทางเครื่องยนต์ดีเซลในกรุงเทพมหานครที่มีประมาณ 7,000-8,000 คัน เป็นรถไฟฟ้าEV ตั้งเป้าภายใน 4 ปี หากทำได้จะทำให้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เบาบางลงอย่างมาก รวมทั้งตรวจสอบการปล่อยมลพิษจากโรงงานในจังหวัดรายล้อมกรุงเทพฯอย่างเข้มงวด เข้มงวดหน่วยงานก่อสร้าง
4.สร้างรายได้จากอุตสาหกรรมใหม่ หรืออุตสาหกรรมสีเขียว โดยเร่งให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตรถไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ เช่น ผลิตชิ้นส่วน แบตเตอรี่ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงรถไฟฟ้าในราคาสมเหตุสมผล ลดการใช้รถสันดาปภายใน และจะแก้ไขปัญหาขีดความสามารถของประเทศ และยังช่วยลดแหล่งกำเนิด PM2.5 ได้อย่างเป็นระบบ
5.ผลักดันร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ทันทีที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เพื่อวางโครงสร้างทางกฎหมายเพื่ออากาศสะอาดของพี่น้องประชาชน เพราะอากาศสะอาดเป็นหนึ่งในสิทธิมนุษยชน