“พีระพันธุ์” นำทีม กก.บห.พรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงกรณี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจแจ้งความชัดเจนเตรียมสมัครสมาชิกพรรค มั่นใจ “นายกฯ ตู่” นำประเทศเดินหน้าได้ ระบุเวลาไม่สำคัญ เชื่อแม้ 2 ปี ก็สามารถร่วมกันสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ได้
23 ธันวาคม 2565 เวลา 15.00 น.ที่พรรคทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ ซ.อารีย์ 5 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ รศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองหัวหน้าพรรค นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เหรัญญิกพรรค เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลประกาศจุดยืนทางการเมืองชัดเจนว่าจะสมัครเป็นสมาชิกและเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนที่เดินทางมาร่วมติดตามข่าวจำนวนมาก
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ตนได้มีโอกาสคุยกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ได้ทราบการตัดสินใจของท่าน ดังนั้นจึงได้เรียนกับนายกฯ ว่าจะกลับมาแจ้งเพื่อให้กับคณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนทราบ ทุกคนรู้สึกดีใจกับข่าวดังกล่าว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าของประเทศ ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองมาตลอด และการทำงานรูปแบบนี้ก็เป็นแนวทางเดียวของพรรคอยู่ โดยเฉพาะการมุ่งมั่นรักษาสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และมั่นใจนายกรัฐมนตรีจะสามารถนำประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้อนาคต
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกำหนดการว่านายกฯ จะมาสมัครสมาชิกพรรคเมื่อไหร่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ เพราะนายกฯ เองก็มีภารกิจที่จะต้องทำ ซึ่งทุกอย่างก็จะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบของพรรค ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องรายละเอียด
“ตอนนี้ยังไม่ได้คิดรายละเอียด เพราะผมได้หารือกับ นายกฯ เมื่อเช้าและท่านได้ตัดสินใจ ผมก็ได้เรียนกับท่านว่าจะมาแจ้งให้กรรมการบริหารพรรคทราบ ผมก็ไม่ทราบว่าท่านได้แจ้งกับสื่อไปแล้ว ส่วนการแจ้ง กรรมการบริหารพรรคก็ก็ต้องทำตามขั้นตอนปฏิบัติที่ต้องแจ้งให้ทุกคนทราบอยู่แล้ว” นายพีระพันธุ์ กล่าว
เมื่อถามว่าหมายความนายกฯ ตัดสินใจที่จะเป็นนายกฯ ต่อไปอีก 2 ปีและมีนายกสำรองไว้หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า นั่นเป็นเพียงข้อบังคับของกฎหมาย แต่ส่วนตัวคิดว่าการอยู่กี่ปีก็ไม่สำคัญ คนดีๆ อย่างนายกฯ รัฐมนตรี 1 วันก็อยู่ได้ และที่สำคัญการที่อยู่ 2 ปี ถ้าได้รับเลือกจากพี่น้องประชาชนให้เป็นนายกฯ ต่อไป ก็จะสามารถใช้เวลานี้ในการสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ขึ้นมาได้ ไม่ได้อยู่แค่เป็น ส.ส. หรือนายหรือเป็นอะไร ท่านจะสามารถใช้เวลาสองปี ต่อไปช่วยกันสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่
ส่วนเรื่องของรายชื่อนายกสำรอง ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยในที่ประชุมพรรค แต่ทั้งหมดจะเป็นไปตามข้อกำหนด และข้อบังคับพรรค ตามกฎหมายกำหนดอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น และหากมีอะไรจะต้องผ่านที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคก่อนก็ต้องเป็นไปตามนั้น ซึ่งในการบริหารจัดการพรรคได้คุยกับทุกคนว่าจะต้องดำเนินไปตามข้อบังคับเสมอ โดยจะไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองไปสั่งการไม่อย่างนั้นจะบริหารพรรคไม่ได้ ทุกอย่างต้องกติกาที่ชัดเจน
เมื่อถามว่าในการลงพื้นที่หาเสียงจะต้องแยกให้ชัดหรือไม่ระหว่างการทำงานของรัฐบาลกับพรรคการเมือง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่าจะต้องแยกอยู่แล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วในรัฐบาลก็มีคนที่ทำงานมาจากหลายพรรค แต่ละคนก็มีตำแหน่งทั้งในพรรคของตัวเอง และส่วนของรัฐบาลและแยกงานกันอยู่แล้ว ไม่เป็นปัญหาอะไรทั้งสิ้น ในอดีตก็เป็นแบบนั้นมา และทำงานแยกกันออกอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะแยกกันไม่ได้ นายกฯ รู้บทบาทหน้าที่ในแต่ละสถานะที่ทำงานอยู่แล้ว
นายพีระพันธุ์กล่าวต่อว่า ตอนนี้นายกฯ แจ้งว่าให้ทำตามข้อบังคับพรรคไปก่อน เพราะพรรคนี้ทำงานกันอย่างสบายๆ ตำแหน่งเป็นแค่หัวโขนเพราะที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง แต่อยู่ที่ทำงานด้วยกันได้ไหม และตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวมหรือเปล่า ถ้าตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม ที่แท้จริงก็ไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้หมด
“ผมคิดว่าการทำงานการเมืองเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเราไม่รวมมือกัน หรือไม่สามัคคีกันพรรคไปไม่ได้ บ้านเมืองก็ไปไม่ได้ ถ้าเรายังทำพรรคการเมืองไม่ได้จะไปทำให้บ้านเมืองเดินหน้าได้อย่างไร เพราะฉะนั้นความสามัคคีปรองดองกัน ความเข้าอกเข้าใจกัน การให้เกียรติซึ่งกันและกันคือจุดเริ่มต้นของการดูแลชาติบ้านเมืองที่ดี เราต้องทำให้พรรคเราให้ได้ก่อน” นายพีระพันธุ์กล่าว