ว่าด้วยการ “ขายชาติ” – เปลว สีเงิน

www.plewseengern.com

เปลว สีเงิน

ถ้าต้องการ “ชีวิตมงคล” ต้องเดินตามแนวทาง “พระพุทธองค์” ตรัสบอกไว้ ๓๘ ประการ
ไม่ตกต่ำ “มีแต่เจริญ” สถานเดียว
๒ ใน ๓๘ ประการ ที่ผมอยากบอกวันนี้ คือ
มงคลที่ ๑ “อะเสวะนา จะ พาลานัง” การไม่คบคนพาลจึงเป็นมงคล
มงคลที่ ๒ “ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา” คบบัณฑิตเป็นมงคล

ทั้ง ๒ ข้อนี้ ประยุกต์เข้ากับ “สุภาษิตไทย” ได้ว่า
“เป็นคนนั้นดีแล้ว อย่าลงไปฟัดกับหมา” หรือ
“จงอย่าเป็นชีวิตที่ปล่อยให้ควายนำ”!

เรื่องให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้ไม่เกิน ๑ ไร่ ที่ “แก๊งมุ่งล้มประยุทธ์” ปั่นเป็นประเด็น “รัฐบาลขายชาติ” ก็ประมาณนั้น
เขาขายกันมาเป็นร้อยปี “ตามกฎหมายที่ดิน” อันมีอยู่แล้ว ไม่เห็นมีใครออกมาว่า “ขายชาติ”

พอรัฐบาลลุงตู่ หยิบ “กฏกระทรวง” ที่ออกสมัยทักษิณ มาปรับปรุงให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน
เท่านั้นแหละ…..

“รัฐบาลประยุทธ์ขายชาติ”!

ปั่นวาทกรรม “ดักควาย” ด้วยกัน โดยไม่พูดถึงกรอบ “เงื่อนไข-กฎเกณฑ์” ที่จะซื้อได้ มีอย่างไรบ้าง?

พวก ๘ บรรทัด ก็พลอยตื่นฝูง
เป็นเหยื่อให้พวกสั่นกระดิ่ง-ถือธงแดง “ปล้นชาติ-ล้มสถาบัน” กลางวันแสกๆ ตัวจริง แต่ตะโกน… “ประยุทธ์ขายชาติ” ลากนำกระแสไป

อย่าไปตกหลุม “ดักควาย” กับพวกนี้เชียว ประเด็นแรกที่ควรเข้าใจ คือ

๑.เรื่องนี้ เป็น “กฎกระทรวง” ที่มีอยู่แล้ว แค่ปรับปรุงเนื้อหา “ครม.เห็นชอบ” ก็ใช้ได้ ไม่ใช่พระราชบัญญัติที่ต้องผ่านสภา

๒.ขณะนี้ ยังไม่ผ่านครม.ยังอยู่ในขั้นตอนกฤษฎีกาพิจารณา

๓.เรื่องต่างชาติถือครองที่ดินไม่ใช่เรื่องใหม่มี “กฎหมายที่ดิน” กำกับ เป็นกรอบครอบกฎกระทรวงมาแล้ว ร่วมร้อยปี

“กฎกระทรวง” ที่รัฐบาลทักษิณออกปี ๔๕ เรื่องให้ต่างชาติซื้อที่ดิน และ “รัฐบาลประยุทธ์” ปรับปรุงให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน เทียบให้เห็นคร่าวๆ ดังนี้

๑.กลุ่มต่างชาติที่จะซื้อได้ “ฉบับทักษิณ” มีเงื่อนไขว่า

  • เปิดกว้างให้คนต่างด้าว ซื้อที่ดินเป็นที่อยู่อาศัยได้

ฉบับ “รัฐบาลประยุทธ์” แก้ไข กำหนดวีซ่าประเภท Long-term resident visa :LTR แก่กลุ่มต่างชาติ ที่มีศักยภาพสูง ๔ กลุ่ม ไม่ใช่ใครก็ซื้อไดั เป็นดังนี้

  • ผู้มีความมั่งคั่งสูง
  • ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ
  • ผู้ต้องการทำงานจากประเทศไทย
  • กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ

๒.เกณฑ์การลงทุน “ฉบับทักษิณ” มีเงื่อนไขว่า

  • ต้องลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า ๕ ปี
  • เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า ๔๐ ล้านบาท

ฉบับ “รัฐบาลประยุทธ์” ปรับปรุง เป็นว่า

  • ต้องลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า ๓ ปี
  • เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า ๔๐ ล้านบาท
  • ถ้าถอนก่อน ๓ ปี สิทธิ์การซื้อระงับไป

๓.กรอบของพื้น ที่ที่จะซื้อได้ “ฉบับรัฐบาลทักษิณ”

  • ไม่กำหนดกรอบของที่ดินที่จะซื้อได้

“ฉบับรัฐบาลประยุทธ์” แก้ไข-ปรับปรุง เป็นดังนี้

  • ภายในเขตกทม.,เขตเมืองพัทยา,เขตเทศบาล หรือภายในบริเวณกำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง เท่านั้น
  • ต้องไม่รุกล้ำพื้นที่เกษตรกรรม
  • กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซื้อได้เฉพาะในเขตจัดสรรเท่านั้น

ก็เทียบให้เห็นกันจะๆ อย่างนี้ ….
ใครจะยังยอมตก “หลุมดักควาย” ว่ารัฐบาลขายชาติอยู่อีก พอใจอย่างนั้น ก็เชิญ

กฎเกณฑ์นี้ มีผลใช้บังคับเพียงแค่ ๕ ปีเท่านั้นนะ ไม่ใช่ตลอดชาตินิรันดร์กาล
มีข้อแย้งว่า ซื้อแล้ว ต่อมาเอาไปขายทั้งหมดหรือแบ่งขายล่ะ จะทำไง?

ไม่ทำไงหรอก หลักเกณฑ์มีว่า ห้ามเอาไปซื้อขาย นอกจากตกทอดเป็นมรดกตระกูล ถ้าเอาไปซื้อขาย “อธิบดีกรมที่ดิน” มีอำนาจบังคับขายคืน

และคนที่ซื้อไว้แล้ว ๑ ไร่ แม้ลงทุนเพิ่ม ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์ซื้อเพิ่มได้อีก

ก็ยังมีตะแบงต่อว่า ถ้าต่างชาติหัวหมอ ซื้อคนละไร่ต่อๆ กัน สมมุติ ๑๐ คน ก็จะได้ที่ดินรวมผืนเดียวกัน ๑๐ ไร่, ๑๐๐ คน รวม ๑๐๐ ไร่, ล้านคน รวม ๑ ล้านไร่

แผ่นดิน “ประเทศไทย” มิกลายเป็น “ของต่างชาติ” หมดหรือ แบบนี้ “ขายชาติ” ชัดๆ นี่นา!?

ผมขอสาธุ…
ขอให้มันมีต่างชาติ ๔ กลุ่มนั้น เข้ามาลงทุนจริงๆ ซัก ๑ ล้านคนเถอะ เงินสดๆ จะเข้าประเทศทันที ๑,๐๐๐,๐๐๐ คน X ๔๐ ล้านบาท เป็นเงินเท่าไหร่ ช่วยคิดที

๔๐ ล้าน นั่นแค่เงินลงทุนนะ….
ถ้าจะซื้อที่ดิน ๑ ไร่ ในกทม.และในพัทยา เฉลี่ยถูกๆ ตารางวาละ ๑ แสนบาท ถ้ามีคนขาย ซื้อไปเลย ๑ ล้านไร่ ตกไร่ละ ๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท

๑,๐๐๐,๐๐๐ X ๔๐,๐๐๐,๐๐๐ มันเท่าไหร่กันอีกละเนี่ย หมาตาย-ควายร้อง คิดไม่ถูก!?

ก็ไม่ต้องมโนเรื่องล้านคนขึ้นมาหวังใช้ด่า “รัฐบาลขายชาติ” หรอก เอาจริงๆ ขอแค่ ๑,๐๐๐ คน ก็พอ
ถ้าเข้ามาลงทุนตามเงื่อนไขนี้ได้ ๑ พันคนจริงๆ

“สัตว์ประเภท ๓ กีบ” เอาไปเลย ผมจะต้อนมาถวายแก้บน!

เพราะอะไรล่ะ…ก็เพราะตั้งแต่ปี ๔๕ ที่ทักษิณออกกฎกระทรวงนี้มา จนถึงวันนี้ ๒๐ ปี
มีต่างชาติเข้ามาลงทุนแค่ ๘ รายเท่านั้นเอง!

ผมถึงว่า รัฐบาลนี้ “คนนำ”
อย่าไปให้ค่าวาทกรรม “ขายชาติ” จนลังเลเลย

ถ้าใครอยากยกเลิกกฎกระทรวงนี้หรือกฎหมายที่ดิน
ก็รอให้รัฐบาลที่จะมี “ฝูงหมานำ” ในอนาคตเขาเข้า “มาแก้-มายกเลิก” กันเองก็แล้วกัน

พูดกันตรงๆ ที่ตีปี๊บเป็นเรื่องใหญ่โตหวังทำลายนายกฯ ในทางการเมืองนั้น สมมติ รัฐบาลรำคาญหมาเห่า บอก…ไม่เอาแล้ว หยุดแก้ไข-ปรับปรุงกฎกระทรวงนั้นแล้ว

ผลคืออะไร?
ก็คือ “กฎกระทรวง” ฉบับปี ๔๕ ที่ทักษิณออก ก็ยังคงอยู่และใช้ได้อย่างที่ใช้มาตลอด ๒๐ ปี ทั้งรัฐบาลสมัคร สมชาย และรัฐบาลยิ่งลักษณ์!

มันเป็นเหมือน “หมาป่ากับลูกแกะ” ชัดๆ ไม่มีเหตุ-มีผลในการคัดค้าน ก็พยายามสมมติประเด็นขึ้นมา

รู้มั้ย “ประเทศไทย” มีพื้นที่ทั้งหมดกี่ไร่ กทม.มีกี่ไร่ และพัทยามีกี่ไร่?
จะบอกให้ ประเทศไทย มีพื้นที่ ๓๒๐,๗๐๐,๐๐๐ ไร่
กทม.มีพื้นที่ ๙๘๐,๐๐๐ ไร่ และพัทยา ๓๓,๓๗๕ ไร่

แล้วมันเป็นไปได้มั้ย ต่อให้คน ๔ กลุ่มนั้น มีเป็นล้านคนมาซื้อ เอาแค่ซื้อต่อๆ กันราชประสงค์ทั้งย่าน เยาวราชทั้งย่าน
มีใครเขายอมขายมั้ย ในความเป็นจริง ?

ที่สำคัญ มีปัญญาซื้อ “ตารางวาละล้าน” ขึ้น เป็น ๑๐ ไร่ ๑๐๐ ไร่มั้ย
แล้วทุกวันนี้ มันมีที่ดินเป็นไร่ๆ ในกทม.แบกะดินรอขายให้ซื้อไปปลูกบ้านอีกมั้ยล่ะ?

ที่ดินกองทุนฟื้นฟู “ของหลวง” ย่านรัชดา ๓๓ ไร่ ๗๘ ตารางวา ก่อนปี ๒๕๓๘ ราคาร่วม ๓,๐๐๐ ล้านบาท
พอปี ๒๕๔๖ “ผัวเป็นนายกฯ”

สั่งเปิดประมูลโดยไม่กำหนดราคาขั้นต่ำ เพื่อให้ “เมียนายกฯ” ส่งทนายไปประมูลได้มา ราคาถูกๆ แค่ ๗๗๒ ล้าน
แถมผัวสั่ง ๓๑ ธันวา.ให้เป็นวัน “เปิดราชการ”
เพื่อให้เมียโอนที่ดินในอัตราภาษีต่ำ ก่อนประกาศอัตราภาษีใหม่ที่สูงขึ้น ที่จะเริ่มตั้งแต่ ๑ มกรา.๔๗

เนี่ย…ที่ดิน “ผัวขาย-เมียซื้อ” ในราคาถูกๆ ในกรุงเทพฯที่จะมีเหลือให้ต่างชาติซื้อ มันก็ไม่มีแล้ว
ฉะนั้น ต้องไปห่วงตะหวัก-ตะบวยอะไรที่ไหน?

เพราะถ้าตามกฎกระทรวงที่แก้ไขนี้ บอกว่า “ขายชาติ”
ชาติมันถูกขายหมดเกลี้ยงไปแล้ว ตั้งแต่สมัย ผัวเอาที่กองทุนฟื้นฟูมาขายให้เมียซื้อถูกๆ จนศาลสั่งจำคุก ๒ ปี หนีไปเป็น “หัวหน้าคอกหมา” อยู่ดูไบโน่นแล้ว จริงมั้ย!

พื้นที่ EEC ๓ จังหวัด ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง มีพื้นที่ ตั้ง ๑๓,๒๖๖ ตร.กม.เท่ากับ ๘,๒๙๑,๒๕๐ ไร่

นั่น…เขาสร้างเมืองให้ต่างชาติผู้ลงทุนซื้ออยู่อาศัยเลย ยกกันมาซักล้านคน ก็ยังเหลือเบะ มีมาน่ะไม่กลัวหรอก กลัวไม่มีมาซื้อมากกว่า!

และถ้าซื้อแล้ว แซะที่ดิน “แบกกลับไป” ต่างประเทศได้ด้วย อย่างนั้น ค่อยน่ากลัวหน่อย

ฉะนั้น อย่าดัดจริตปั้นประเด็นโหมกันให้มากนัก รวมทั้งพวกนักเลีย “จอมเสี้ยม” หน้าจอ บางรายการด้วย
ปั่นกันนัก เดี๋ยว ฮ่องกง อังกฤษ ดูไบ รวมทั้ง มอนเตเนโกร และเซอร์เบีย กลัวถูกกล่าวหาว่า “ขายชาติ”

“ริบบ้าน-ที่ดิน” คืน สัมภเวสี ๒ พี่น้อง มิต้องเป็น “กระสือลอยไส้” ในอากาศหรือ เพราะหาที่สิงสถิตไม่ได้
แล้วจะโทษใคร?
โทษ “ประยุทธ์” อีกละซี!?

โยนเศษเงินให้พวก “รับจ้างเห่า” ปั้นประเด็นให้ก็ได้
เดี๋ยวสื่อ “สายหลัก-สายรอง” เขาก็จะ “รับลูก” ไปใช้วิชาชีพ “ประยุทธ์ขายชาติ” ต่อให้เอง!

สรุป………
ตามนัยยะประยุทธ์ ไม่ใช่การ “ขายชาติ”
การมุ่ง “แก้รัฐธรรมนูญ”
ล้ม “ราชอาณาจักร” เป็น “สาธารณรัฐ” แก้มาตรา ๑๑๒ มุ่งล้มสถาบัน ใช้ระบบ “ประธานาธิบดี” แทน “สถาบันพระมหากษัตริย์” อย่างที่ทำกันทั้งในสภา-นอกสภา นั่นแหละ
ไอ้สัส…
พวกมึง”ขายชาติ”ตัวจริง!

เปลว สีเงิน

๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

Written By
More from plew
กสม.หรือ “กำไลอีเอ็ม?” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน กสม.เขาหายกันไปไหนหมด? เห็นออกมาสังเกตการณ์ม็อบ “สามนิ้วกวนเมือง” อยู่วัน แถ-ลงแล้ว ก็หายจ้อย ไม่สนใจบ้างเรอะ ว่าม็อบสามนิ้วเป็นคนกลุ่มไหน วัยไหน ออกมาชุมนุมสันติ...
Read More
0 replies on “ว่าด้วยการ “ขายชาติ” – เปลว สีเงิน”