เปลว สีเงิน
เสาร์นี้ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นวันพระ
อยู่ในช่วงกฐิน
เห็นแต่ละถิ่น-ละที่ กระทั่งในต่างประเทศที่มีวัดไทย พี่น้องไทย-เทศ แต่งกายสวยงาม หน้าตาอิ่มเอิบ ด้วยศรัทธา-ปสาทะ ไปทอดกฐินกันคึกคัก
ผมก็เป็นปลื้ม ใครส่งรูปเข้าเฟซมา ก็อนุโมทนาสาธุด้วยทุกราย
การทอดกฐิน……..
นอกจากเป็นไปตามพุทธานุญาต ปีหนึ่ง ทอดได้ครั้งเดียว หลังออกพรรษา คือจาก แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ หมดเขต ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ “วันลอยกระทง” แล้ว
การที่คนไทยเคร่งครัด การทอดกฐินจึงเป็นวัฒนธรรม-ประเพณี “ไทยคู่พุทธ-พุทธคู่ไทย” ชนิดคนไทย “ศรัทธาไม่ตก”
ดำรง สืบต่อ จากรุ่น-สู่รุ่น เข้มแข็งยิ่ง เป็นนิมิตมงคลว่า คำว่า “ชาติ-พระศาสนา-พระมหากษัตริย์”
กับคนไทย…..
จะไม่มีใครสามารถแยกอย่างใด-อย่างหนึ่งในสามอย่างนี้ออกไปจากกันได้เลย!
แต่เห็นมีบางพรรค-บางคณะ เช่นคณะพรรคของ “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์” พยายามแยกอยู่
ก็อยากฝากข้อคิดกับพวกเขาไว้นิดว่า
“แผ่นดินไทย-ราชอาณาจักรไทย” พระมหากษัตริย์ไทยแต่ละพระองค์ทรงหลอมรวมกับแต่ละบรรพบุรุษไทย
ร่วมกันสร้างและรักษาไว้ให้ลูกหลานไทยได้มีแผ่นดิน-มีประเทศนี้อยู่ ตราบถึงวันนี้ เป็นปึกแผ่น เป็นราชอาณาจักรเดียว อันใครจะแบ่งแยกมิได้ ก็ร่วมพันปีแล้ว
แต่…เอ๊ะ
บรรพบุรุษของ “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์” เป็นผู้เข้ามาอาศัยอยู่แผ่นดินนี้ ดูเหมือนหอบเสื่อผืน-หมอนใบเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารภายหลัง
“บรรพบุรุษ” พวกคุณ ไม่เคยมีส่วนได้สละเลือดเนื้อร่วมก่อร่างสร้างราชอาณาจักรนี้เลยมิใช่หรือ?
แล้วใช้สิทธิอะไรจะมาแบ่งแยก?
เข้ามาอาศัยใบบุญแผ่นดินไทยทำมาหากินร่ำรวย แม้ธรกับคณะ จะไม่สำนึกในบุญคุณ
แต่ก็ไม่ควรเนรคุณนะ!
ในฐานะผู้อาศัยใบบุญ แทนที่จะเจียมกะลาหัว และสำนึกในคุณแผ่นดิน
กลับเหิมเกริม ทำตัวเป็นงูเห่าได้ไออุ่นแล้วฉกกัดคนอุ้มก่อการ “แยกชาติ-ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์”
ธรไม่เคยเตะแม่สมพร ลูกธรก็ไม่ถูกเสี้ยมสอนให้ตบกบาลพ่อ……
แต่ทำไมธรจึงเสี้ยมสอนคนอื่น ไม่ให้เคารพพ่อ-แม่ ไม่ต้องกราบไหว้ครู-อาจารย์ ไม่ต้องมีศาสนา
มันไปถึงขั้น “อนันตริยกรรม” เกินแก้แล้ว รู้ไว้ด้วย!
คนเนรคุณแผ่นดินน่ะ ไม่เจริญ และไปไม่รอดหรอก
ที่เหิมหาญจะแยกราชอาณาจักรไทยเป็นสาธารณรัฐ
จะล้มกษัตริย์….
แล้วตั้งตัวเป็นประธานาธิบดี นั้น
แม่สมพรแนะนำส่งเสริม หรือธรคิดเอง หรือปิยบุตรยุ หรือไปเชื่อพวกไอ้เจียมที่ไม่เจียมเหล่านั้น?
หรือรับจ้างต่างชาติ?
เห็นถลำลึกมิดหัว ก็เป็นห่วง แต่ธรคงไม่มองด้านเจตนาดีของผมหรอก ต้องมองเป็นไอ้พวกหัวเก่า-คร่ำครึ เป็นสลิ่มอิ่มกะทิ อุดตันเส้นทางการเป็นประธานาธิบดีของคุณ
หรือจะบอกว่า “ไม่ใช่เพื่อผมเป็น” แต่เพื่อให้ทักษิณกลับมาเป็น (ก่อน)?
มันก็ครือกันแหละ
เมื่อสืบสายรากในปฏิบัติการ ก็เป็นที่เข้าใจได้ ระบอบทักษิณใช้คำ “แดงทั้งแผ่นดินทักษิณสถาปนา”
ทั้งเตรียมธง เตรียมชื่อประเทศใหม่ ประกาศไปทั่ว
แต่ธรใช้คำว่า “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” โดยใช้แง่กฎหมายหุ้มคำ แต่การกระทำ ทั้งตัวเองและสมุนเครือข่ายบริวาร ทั้งพูด-ทั้งทำ
ล้มสถาบันกษัตริย์ เปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐ ตั้งตนเป็นประธานาธิบดี ทุกคนรู้-โลกรู้ ว่าธรกับคณะ กำลังทำสิ่งนี้ เพื่อการนี้!
มันก็ยุทธศาสตร์เดิมและยุทธศาสตร์เดียวที่ระบอบทักษิณทำนั่นแหละ
เป้าหมาย “เอาทักษิณกลับบ้านอย่างเท่ๆ”
ไม่ต้องรับโทษ ไม่มีคดี แล้วใช้พรรคเป็นตัวนำร่องประชาธิปไตย กลับสู่อำนาจบริหารประเทศ
เมื่อได้อำนาจคุมประเทศ……..
ก็ “แดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา” ตรงตัว คือล้มระบบกษัตริย์ สถาปนาระบบประธานาธิบดีขึ้นแทน!
แต่ยุทธศาสตร์เดิม “ผิดแผน” ตอนลักหลับกฎหมายนิรโทษสุดซอย ตอนตี ๔ ในสภายุคยิ่งลักษณ์นั่นแหละ
เดินผิดตาเดียว เลยแพ้ทั้งกระดาน ตอนนั้น
ตอนนี้ มันก็เป้าหมายเดิม-ยุทธศาสตร์เดิม เพียงเปลี่ยนหมากยุทธวิธีใหม่ หมากเพื่อไทย เดินแพ้ซ้ำซาก ทั้งคนจับไต๋ได้แล้ว
ธนาธรที่เคยร่วมเมื่อครั้งเผาบ้าน-เผาเมือง ปี ๕๓ มาแล้ว จึงถูกวางตำแหน่งเป็น “หมากรุ่นใหม่”
ไม่ใช้สูตร “แดงทั้งแผ่นดิน” เดินแต้ม
เปลี่ยนเป็นสูตร “ปฏิวัติฝรั่งเศส”
ฉบับ “ปิยบุตร อ็องตวน เดอ แซ็ง-ฌุสต์”
“เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ” ประยุกต์
“แซ็ง-ฌุชต์” จบด้วยถูกกิโยตินบั่นหัว
แล้วธรล่ะ…….
จะเอากิโยติน หรือตีนคนไทย ที่ยึดมั่นใน “ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์”?
ชาวบ้านเขาจับทางได้แล้ว นอกสภา ใช้แต้ม “รุ่นใหม่ล้มเจ้า” ในสภาใช้แต้ม แก้รัฐธรรมนูญ ตั้งสสร.เขียนใหม่ทั้งฉบับ
ก็หวังเขียนเปิดทาง นำไปสู่การร่างกฎหมายลูก “ปลดล็อค” ให้ทักษิณและพวกหนีคดีกลับเข้ามาแบบเท่ๆ
ทั้งเปิดทางสดวกในระบบเลือกตั้ง….
ประกันความชัวร์ว่าคณะพรรคล้มเจ้า-ล้มประเทศ ต้องเฮละโรเข้ามาทั้งสองสภา ได้เป็น “รัฐสภาเบ็ดเสร็จ”
ถ้าเป็นไปตามแผน ทุกอย่างก็ “เสร็จ”!
ระบอบทักษิณในคราบรุ่นใหม่ธนาธร จะเหมือน “ม้าอารีย์” ในนิทานอีสป เสือกหัวเข้าไปได้ก่อนแล้ว
ก็จะเบียดเข้าไปทั้งตัว…..
อำนาจคุมประเทศอยู่ในมือ รัฐสภาทั้งสส.-ทั้งสว.ก็เบ็ดเสร็จอยู่ในกำมือ แล้วประเทศไทยจะไปไหนเสีย!
จะล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ง่ายนิดเดียว จะทำวันไหนก็ได้ เมื่อทั้งอำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติ อยู่ในมือ
จะเปลี่ยนราชอาณาจักรไทย เป็นระบบสาธารณรัฐ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีวันไหน ก็ทำได้
หรือซอยแยกภาค-แยกจังหวัดเป็นรัฐๆ แล้วปูนบำเหน็จแบ่งกันไปตั้งตัวเป็น “เจ้านครรัฐ” อิสระ ทางเหนือ-ทางใต้-ทางอีสาน พวกมันก็ทำได้
“จักรวรรดินิยมตะวันตก” เป็น “อำนาจนอกชาติ” พร้อมหนุน และ “หนุน” อยู่แล้วด้วยซ้ำ
มันจ้องแบ่งแแยกทุกเวลา-นาทีอยู่แล้ว ยุโรป-อเมริกา กระทั่งจีน ต้องการเข้ามาแสวงผลประโยชน์ในประเทศ
เพราะไทยเรา มากด้วยทรัพยากร ทั้งเป็นพวก “เห่อฝรั่ง”
ทั้งพื้นที่ตั้ง เป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์ ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางทะเล ถ้าได้ไทยเป็นฐาน เท่ากับได้ครองภูมิภาคอุษาคเนย์
ตะวันตก “ยุโรป” กินสมบัติที่พวกมันเข้ามาปล้นจากประเทศในภูมิภาคนี้ไป สมัยล่าอาณานิคม หมดแล้ว!
มันกำลังทำสงคราม “ล่าอาณานิคม” รูปแบบใหม่ สอดไส้เข้ามาเอาอย่างเดียว ไม่ต้องการเข้ามาปกครองโดยตรงแบบยุคก่อน
เรียกว่าเป็น “กระสือสูบเลือด” จะไม่เป็นเม็ดเลือดให้ แต่พวกรุ่นใหม่สามสัสไม่สนใจ
มันจะสนใจทำไม…..
ในเมื่อโคตรเหง้าซมซานมาอาศัยแผ่นดินอยู่ บุญคุ้มหัวขนาดนั้น มันยังไม่สำนึก แล้วจะสำนึกเรื่องที่มันจะต้องเป็นขี้ข้าให้ต่างชาติอีกต่อได้อย่างไร?
เหล่านี้ เป็นเรื่องลูกหลานบรรพบุรุษไทยและคนที่สำนึกในบุญคุณแผ่นดินไทยต้องคิด ต้องตระหนัก
เมื่อมีคน-มีคณะ อาศัยช่องว่าง “รอยต่อรัชกาล” กำเริบเสิบสาน ก่อการบัดซบ “สถุลชาติ-สถุลคน” เป็นที่ประจักษ์เช่นนี้
เราจะดูเฉย-อยู่เฉยไม่ได้ ก็รู้อยู่ว่ามันไม่สำเร็จ ยังไงก็ไปไม่รอด
แต่ควรทำให้โลกรู้……..
ว่าไทยจะไม่ยอมให้การ “ล่าอาณานิคม” เกิดขึ้นกับไทยอีกครั้ง และไอ้ขบวนการขายตัวให้ต่างชาติ “ทำลายชาติ”
มันต้องได้รับบทเรียนที่ “คิดไม่ถึง”!
เพิ่มช่องทางรับข่าวสารได้ที่ LineID:plewseengern.com หรือสแกนQR Code 
