เปลว สีเงิน
ช่วงนี้ ผมมีความบันเทิงม้ากกกก
กับการขึ้นภูดู “ตั้วเฮียฮุน” ตวัดหางฟาด “ตั้วเฮียชิน”
แต่น่าผิดหวัง
นึกว่า “ตั้วเฮียชิน” จะแน่ เพราะเห็นไล่เตะเด็กไปทั่ว กลับหนีมุดลงรู ปล่อยให้ “ตั้วเฮียฮุน” สะบัดหางป้าบๆ ตวัดลิ้นสองแฉกคุยโขมง ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
“ไทยไม่เคยกลัวกัมพูชาเท่ายุคที่มีฮุนเซน-ฮุนมาเนตนี้เลย เคี๊ยก..เคี๊ยก”!
“ตั้วเฮียฮุน” นี่ก็พูดเกินตัว
ไทยนี่น่ะนะ เคยกลัวเขมร พูดเหมือนสัตว์เนรคุณ เดี๋ยวปิดด่านซักปี ปล่อยให้อดตายซะนี่
อยากโม้ ก็โม้ให้มันตรงตัวไปซิว่า “ตั้วเฮียชิน” กับลูกสาว ที่ตั้วเฮียฮุน ประกาศตัดสวาทขาดสัมพันธ์ที่มีต่อกันมายาวนาน ๓๐ ปีไปเมื่อวาน นั่นน่ะกลัว
ไม่ใช่ประเทศไทยกลัว!
ตั้วเฮียฮุน จะพูดอะไร จะสาวไส้ “ตระกูลชิน” ก็ทำไป แต่อย่าเอาคำว่า “ประเทศไทย” เข้าไปเกี่ยว รู้เอาไว้
และบอกลูกชายด้วยว่า ในทางการทหาร “อย่าวัดรอยตีนกับไทย” ป็นอันขาด ถ้าต้องการให้ชาติเจริญไปด้วยกัน!
“ตั้วเฮียฮุน” มีความลับอะไรเกี่ยวกับ”ตั้วเฮียชิน” อยากแฉ ไม่ต้องเกรงใจคนไทย โพสต์มาได้เลย
ยิ่งแฉว่านักการเมืองคนไหนเอาเงินโกงมาฝากไว้ด้วยละก็ คนไทยทั้งประเทศจะช่วยทั้งแชร์-ทั้งแช่งให้รึ่มไปเลย
แต่อย่าล่วงล้ำย่ำเหยียบถึงความเป็นประเทศไทยก็แล้วกัน ขอย้ำ!
ดีๆ ชั่วๆ “ตัวลูก” ยังใจกล้า-หน้าทน “ไม่ออก…ใครจะทำไม” ผิดกับ “ตัวพ่อ” ที่เอาแต่หดหัว-หดหาง เพราะคงกลัว “ตั้วเฮียฮุน” ตะกุยกรงเล็บมหากาฬ “ลากไส้” ออกมาประจาน
แต่ไปไม่รอดหรอก “นายกฯ แพทองธาร” น่ะ!
ไม่ต้องพูดถึงที่ถูกด่าขรม เรื่องไปพูดว่า “แม่ทัพภาคที่ ๒ เป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา” นั่น
เอาเฉพาะที่เธอเป็นผู้นำประเทศไทย
แต่กลับไปอ้อนวอน-งอนง้อเขมรให้ช่วยต่างๆ นานา ซึ่งมันทำให้เราเสื่อมเสียเกียรติภูมิ แถมพูดเหมือนติดสินบน อยากได้อะไร..บอกมา จะจัดการให้
นี่ทำให้เชื่อว่า ต้องมีอีกหลายเรื่องที่นายกฯ ไทยเอา “กิจการภายใน” ของประเทศ ไปพูด ไปต่อรอง-แลกเปลี่ยน กับตั้วเฮียฮุน
ถ้าแฉออกมาอีกเมื่อไหร่ ว่า…..
“ทั้งพ่อ-ทั้งลูก” ไปพูดจา-ตกลงเรื่องผลประโยชน์ แต่ “ในนามประเทศ” ไว้กับเขาละก็
ตัดหัวด้วย “เครื่องประหารหัวสุนัข” ก็ยังไม่สาสม!
เพราะอย่างนี้กระมัง
“ตั้วเฮียฮุน” ถึงกล้าพูดเต็มปากว่า “ไทยไม่เคยกลัวกัมพูชาเท่ายุคที่มี “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” นี้เลย”!?
ผมเพ่งมองไปข้างหน้าแล้วก็ “สงสาร” อุ๊งอิ๊ง” นะ เธอเป็นอย่างที่พ่อเธอเคยพูด “คนตาบอดไม่กลัวเสือ”
เธอเหมือน “คนตาบอด” ไม่รู้ว่าคนทั้งประเทศเขาจะเอาตาย เชื่อแต่พวกสอพลอบ้านพิษฯ บ้าง พวกห้อมล้อมรอบชายกระโปรงบ้าง จึงไม่รู้พิษสงเสือ
เขาด่ากันทั้งประเทศ “นายกฯไทย-ใจเขมร”
ออกไป…ออกไป!
หาสำนึกไม่ ยังมั่นหน้าว่าไม่มีอะไร ยิ่งฟังหลี่กงกงตัวพ่อ “นายภูมิธรรม” บอก นอกจากภูมิใจไทย นอกนั้น ไม่มีใครออก รัฐบาลอยู่ครบ ๔ ปีแน่
เธอก็เชื่อ !?
นอกจากตาบอดแล้ว หูยังหนวกอีกด้วย หนวกจนไม่ได้ยินเสียง “ปัญญาชนพลเมือง” เช่น…….
“เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, แก้วสรร อติโพธิ, ขวัญสรวง อติโพธิ, ปรีดา เตียสุวรรณ์, สมชาย แสวงการ, ประสาร มฤคพิทักษ์,จเด็จ อินสว่าง, ประพันธ์ คูณมี
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์, พล.ต.นพ. เหรียญทอง แน่นหนา, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, ถวิล เปลี่ยนศรี
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, รสนา โตสิตระกูล, ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์, คมสัน โพธิ์คง นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์,เจษฎ์ โทณะวณิก, นันทิวัฒน์ สามารถ
วีระ สมความคิด,แซมดิน เลิศบุศย์,สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, อัญชะลี ไพรีรัก,หฤทัย ม่วงบุญศรี (อุ๊หฤทัย), สาวิทย์ แก้วหวาน, มานพ เกื้อรัตน์
คมสันต์ ทองศิริ, ณีรนุช จิตต์สม, เสน่ห์ หงษ์ทอง, จตุพร พรหมพันธ์, นิติธร ล้ำเหลือ, พิชิต ไชยมงคล, นัสเซอร์ ยีหมะ,ใจเพชร กล้าจน (พร้อมผู้ชุมนุมกลุ่มคปท. และกองทัพธรรม)
ที่ออกมารวมตัวเป็น “กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน”
แล้วประกาศขับไล่รัฐบาล “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร”!
ยื่นคำขาดถึงรัฐบาลเพื่อไทย ๒ ข้อ
๑.ให้นายกรัฐมนตรีลาออกทันที
๒.พรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัวออกทันที
และอีก ๑ ข้อ เป็นคำเชิญชวน คือ
๓.เรียนเชิญพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า-ทุกสีเสื้อ ออกมาร่วมกันสำแดงพลัง “ปกป้องอธิปไตย” ของประเทศไทย
“ร่วมกัน-สามัคคีกัน” รักษาเกียรติภูมิของแผ่นดิน
กลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน” ประกาศว่า “ขอเวลาแค่ ๕ ชั่วโมง” เท่านั้น
วันเสาร์ ที่ ๒๘ มิ.ย.๖๘ จาก ๑๖.๐๐-๒๑.๐๐ น.
มารวมพลังในการรักชาติพร้อมเพรียงกัน ด้วยการแสดงธงชาติไทย ไม่ว่าจะเป็น “เสื้อ” หรือ “ธงชาติไทย” สำแดงพลัง เป็นการทวงคืน ที่กัมพูชาเคยรุกล้ำให้เป็นของประเทศไทยทั้งหมด.
ไม่เพียง “กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน”
เมื่อวานเช่นกัน “นายมงคล สุระสัจจะ” ประธานวุฒิสภา ได้นำหนังสือที่คณะวุฒิสภาส่วนหนึ่งเข้าชื่อกล่าวหานายกฯ แพทองธาร ส่งถึงป.ป.ช.ไต่ส่วน
ว่าทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายและฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ ยังทำหนังสือถึง “ศาลรัฐธรรมนูญ”
ขอให้วินิฉฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๗๐ วรรค ๓ ประกอบมาตรา ๘๒ ว่า
“ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง (๔) ประกอบมาตรา ๑๖๐(๔) และ (๕) หรือไม่?
นี่…ถูกทั้งพลังสังคมกระตุ้นต่อมจริยธรรมสำนึกให้ลาออก ถูกทั้งยื่นให้ป.ป.ช.ไต่สวน และถูกทั้งยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน
ไม่แค่นั้น ยังเจอ “คดีอาญา” อีกตะหาก คือก่อนหน้านี้ นายสมชาย แสวงการ, นายนิติธร ล้ำเหลือ และ นายคมสัน โพธิคง
แจ้งความดำเนินคดีกับ “นายกฯอุ๊งอิ๊ง” ต่อพนักงานสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา๑๑๙, ๑๒๐, ๑๒๒, ๑๒๘ และ ๑๒๙ จากกรณีคลิปเสียงเจรจาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา กับสมเด็จฮุนเซน!
ยังไม่หมดแค่นี้ เมื่อต้นเดือนมิย.
ป.ป.ช.มีมติรับเรื่องที่ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์, นายสมชาย แสวงการ, นายเจษฎ์ โทณะวณิก, นายนิติธร ล้ำเหลือ
ยื่นคำร้องว่าด้วยครม.และกมธ.งบประมาณของสส.-สว.ทำความผิดในรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔
ซึ่งต้องห้ามไม่ให้ “ตัดงบประมาณ” เกี่ยวกับเรื่องของการให้เงินกู้ที่กฎหมายมีการบังคับเอาไว้
ประเด็นแรก พบว่าได้ผ่านวาระ ๑ เข้าไปแล้ว แต่ครม.ได้มีมติตัดงบประมาณ ๓๕,๐๐๐ ล้านบาท ที่มีการให้ไปกู้ตามมาตรา ๒๘ ซึ่งเอามาใช้ในกิจกรรม และต้องชดใช้ดอกเบี้ยพร้อมเงินกู้
ซึ่งตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า “ห้ามมิให้แตะต้องเงินงบประมาณดังกล่าว”!
เนี่ย…ป.ป.ช.รับเรื่องไปแล้ว
ถ้าชี้ว่ามีมูลละก็ ทั้งรัฐบาล ทั้ง สส. ทั้งสว.เรียกว่า “เกือบหมด” ทั้งสภา ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ และป.ป.ช.จะต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยทันทีภายใน ๑๕ วัน
ถ้าผิด “พ้นจากตำแหน่ง” ทั้งหมด เรียกว่า ล้างทั้งทำเนียบ ล้างทั้งรัฐสภาไปเลย!
เห็นมั้ย….อุ๊งอิ๊ง!
รู้ตัวหรือยังว่า ในทางเดินนายกฯของเธอ มี “หลุมนรก” รออยู่ทุกตารางนิ้ว เธอจะลาออกซะตอนนี้ ซึ่งเจ็บปวดน้อยกว่า หรือจะดันทุรังอยู่ เพื่อจะเจ็บปวดและทุรน-ทุราย แสนสาหัสข้างหน้า
ก็คิดเอา เธอ “นิสิตรัฐศาสตร์” จุฬาฯ มิใช่หรือ?
ทั้งหมดที่เราคุยกันนี้ จะเห็นว่า “อนาคตอุ๊งอิ๊ง” อยู่ในเส้นทางกฎหมายทั้งสิ้น มีตั้งแต่ถูกถอดถอน จนถึงโทษประหาร!
กรกฎา.-สิงหา.เป็น อย่างช้า มีคำตอบ
นั่น “ในเส้นทางกฎหมาย”
แต่อีกตั้ง ๒ เดือนกว่า พวกวัยรุ่นใจร้อน เขาบอกว่า “ช้าจัง” ถ้างั้น…เอางี้
วันนี้ “วันเสาร์” นับไปอีก ๔ วัน “มหัศจรรย์เหตุ” เปรี้ยงเลย!
เปลว สีเงิน
๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๘
