เปลว สีเงิน
“การเมือง” ไม่เคยสร้าง “เงื่อนไข”
ตัณหา-โมหะ-ตะกละแดก ของ “นักการเมือง” นั่นตะหาก ที่สร้างเงื่อนไขในการเมือง
อย่างกรณีทักษิณ
จากนักโทษ “พักโทษ” คดีโกงบ้าน-กินเมือง ต้องวนกลับไปเป็น “ว่าที่จำเลย” อีกครั้ง ในคดี ๑๑๒ ว่าด้วยการก้าวล่วงสถาบัน
ถ้าเดินไปตามครรลอง ก็ no problem
๑๘ มิย.อัยการนัดนำตัวไปส่งฟ้องศาล ก็ไปตามนัด
เรื่อง “เข้าคุก-ออกคุก” ยังไม่มีหรอก นัดแรก แค่นำตัวไปส่งฟ้องเท่านั้น ทนายเขายื่นประกันตามขั้นตอนไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว
คดีนี้ เป็น “คดีเก่า”
เกิดก่อนเป็นนักโทษในช่วง “พักโทษ” จึงอยู่นอกเงื่อนไข ของกรมคุมประพฤติ
ฉะนั้น ไม่มีเหตุที่จะไม่ได้ประกันตัว
เมื่อศาลรับฟ้อง ก็จะนัดพร้อม “โจทก์-จำเลย”
แต่ละฝ่ายจะขอสืบกี่ปากก็ว่ากันไป ศาลก็จะให้วันนัดสืบพยานแต่ละปากจนครบ
นั่นคือ ตัดสินจะ “ช้าหรือเร็ว” ขึ้นอยู่กับจำนวนพยาน ถ้ามาก ก็นานหน่อย ถ้าน้อย ก็จะเร็ว
ทักษิณ ในฐานะจำเลย ไปขึ้นศาล ๒ วันเท่านั้น คือวันนัดพร้อม กับวันนัดฟังคำตัดสิน
ช่วงสืบพยาน ทนายจะขอสืบพยานลับหลัง คือจำเลยไม่ต้องไปก็ได้ ทนายทั้งสองฝ่าย เขาจะพะบู๊กันเอง
ฉะนั้น ที่เกรงกันว่า ทักษิณจะหนี นั้น ไม่ต้องเกรงตอนนี้ ไว้อีกซักปี-สองปี ตอนศาลนัดฟังคำตัดสิน ค่อยเกรงก็ยังทัน
คือ ชั่งน้ำหนักการสืบพยานแล้ว เห็นว่า “น่าจะรอด” ก็ไม่ต้อง “ลอด” แต่ถ้าชั่งแล้ว หนักเกินแบก
ค่อย “ลอด” ตอนนั้น ก็ยังทันถมเถ
ดูอย่าง “ปู-รอแป๊บ” นั่นปะไร จนนาทีสุดท้าย ให้บุญทรงไปเข้าฉากติดคุก เพื่อหลอกทุกฝ่ายให้ตายใจ
แล้วตัวเองก็ “ฉากแวบ” ออกช่องหมาลอด!
ใครพาไป?
ไม่น่าถามเลย เรื่องเหยียบหน้ากฎหมายอย่างนี้ ชาวบ้านที่ไหนจะกล้า มีแต่ท”ตำรวจ”ทเท่านั้น ที่กล้า
หมาไม่กินเนื้อหมา ฉันใด ตำรวจก็ฉันนั้น เห็นมาหลายรายแล้ว ผิดวินัยร้ายแรง ทำขึงขังให้ออกจากราชการไว้ก่อน
แล้วไง…ไอ้ที่ผิดร้ายแรง นั่นน่ะ
พอสังคมเผลอ ก็ช่วยกันแปลงความชั่วเป็นความดี-ความชอบ ที่ให้ออกไว้ก่อน ก็ให้กลับเข้ามา
แถมมีราคา เป็นหมาต๋า มีปลอกคอเพ็ทดีกรี
ไม่โตพรวดพราดฟาดนายพลตำรวจกันไปแล้วรึนั่น!? นี่คือประเทศไทย ตำรวจไทย ทำดี-ซื่อตรง เกษียณแค่นายพันก็บุญแล้ว
ต้องทำเลวเพื่อนาย จะเจริญลาภ เจริญยศ เจริญตำแหน่ง ยิ่งยุคนายใหญ่เถลิงศกด้วยแล้ว มึงเอ้ยยย…
นายพลตำรวจเอกเป็นที่หวังได้ จ่อเก้าอี้ผบ.ตร.เสี้ยมก้นรอไว้เลย!
เรื่องคุก-ตะรางน่ะ เป็นเรื่องธรรมชาติ ใครก็ติดได้ ถ้าทำผิดกฎหมาย
แต่การทำผิดแล้วไม่ยอมติด ถึงติด ก็ทำตัวเป็นเทวดาเหนือคุก เหนือกฎหมายบ้านเมือง
นี่คือการ “สร้างเงื่อนไข”
และพลันที่ทักษิณตกเป็นจำเลย เพื่อไทย-แกนรัฐบาล ก็แบะท่า
อัยการสั่งฟ้องทักษิณ ในข้อหามาตรา ๑๑๒ มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง เป็นผลพวงจากรัฐประหาร
ฉะนั้น “เข้าข่ายได้รับนิรโทษกรรม”
ฟังแล้วจี๊ดเลย ถ้ายังอยู่ มันรวมกันเอาแน่ “พรบ.นิโทษกรรม” ทั้งเพื่อไทย-แกนนำรัฐบาล ทั้งก้าวไกล-ผู้นำฝ่ายค้าน กำลังทำท้อง-ทำคลอดกันเหยงๆ
“คนทำผิด มาตรา ๑๑๒ ต้องนิรโทษกรรม” ด้วย!?
นี่…เท่ากับ เพื่อไทย “สร้างเงื่อนไข” เป็นวิบากในการเมือง รอน “อายุรัฐบาล” ให้สั้นเอง
ยังไม่นับเรื่อง “เลือกสว.ชุดใหม่” ดูจากสืบสายพันธุ์ หน่อแนวส่อว่า เมื่อคลอดออกมา หน้าตาจะเป็น “สฮ.-สมาชิกสภาฮั้ว” มากกว่า “สว.-สมาชิกวุฒิสภา”
มันก็เป็นอีกเงื่อนไขในการเมือง นำไปสู่ปัญหาวุ่นวายในอนาคตที่เริ่มมองเห็น
สภาสูง มี “สฮ.-สมาชิกสภาฮั้ว”
สภาล่าง มี “สค.-สมาชิกสภาคอก”
นี่ไม่เพียงทำให้รัฐบาลอายุสั้น เผลอๆ จะลามทำให้สภาต้องสั้นไปด้วย
อย่าลืม หลักการประชาธิปไตยมีว่า “โดยประชาชน ของประชาชน เพื่อประชาชน”
ถ้าเจ้าของประชาธิปไตยเขาไม่พอใจ ทนลีลาศรีธนญชัย ที่ทำกันในระบบเลือกสว.ไม่ไหว
ลุกฮือขึ้นมาทวงประชาธิปไตยคืน แล้วอย่ามาแหกปากร้องว่า เผด็จการ..เผด็จการ เชียวนะ
ชาวบ้านส่วนใหญ่ เดี๋ยวนี้ตาสว่าง รู้ตามคุณภาพสังคมแล้วว่า
“ประชาธิปไตย” นั้น ชาติตะวันตกเขาออกแบบเพื่อใช้กับคนของเขา ตามคุณภาพสังคมประเทศเขา
เรียกว่า “ตัดเกือกพอดีตีน” จึงเดินสบาย ไปได้สมูธ
ส่วนตะวันออก ประกอบด้วยประเทศด้อยพัฒนาบ้าง กำลังพัฒนาบ้าง พัฒนาแล้วบ้าง สังคม “ต่างระดับ” กันไป
อย่างสิงคโปร์ ยอมรับกันว่า “พัฒนาแล้ว” เป็นหนึ่งในอาเซียน
แล้วรู้มั้ย เขาปกครองด้วยระบอบอะไร?
“ประชาธิปไตยเลือกตั้ง” …ใช่ ถูกต้อง แต่แค่ผิวหน้า
เมื่อดูเนื้อหาทางปฎิบัติ ต้องชมว่า สิงคโปร์ฉลาด ที่ใช้กุศโลบาย แปะ “ฉลากข้างกล่อง” ว่า “ประชาธิปไตย”
แต่เนื้อใน ประชาธิปไตย “ซ่อนรูปเผด็จการ” ล้วนๆ!
เพราะ “หัว-คือผู้นำ” ของเขา ไม่ส่าย
ใช้ “ธรรม” ใน “เผด็จการ” คือความเด็ดขาดที่มีเหตุ-มีผลร้อยรัดสังคม ขับเคลื่อนชาติ-ประชาชน
ด้วย “เครื่องยนต์เผด็จการ” แบรนด์ “ประชาธิปไตย”
แค่ ๖๕ ปี จากเกาะเล็กที่สุดในอาเซียน มันไร้ค่า ถึงขั้นถูกมาเลย์ฯ เฉดหัว จำต้องไปตั้งเป็นประเทศตะหาก
แต่ที่สิงคโปร์รอดและเจริญล้ำอาเซียน
เพราะ “นายลี กวน ยู” รู้ว่า ประชาธิปไตยล้วนๆ “กินไม่ได้” แต่เอามาใช้เป็น “แบรนด์” ขายได้
นายลี กวน ยู จึงใช้ประชาธิปไตย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เผด็จการ “ไม่โกง-ไม่กิน-ไม่สิ้นชาติ” ควบคุมกลไกบริหาร
ใช้เวลา ๒๕ ปี ในตำแหน่งนายกฯ
ประเทศสิงคโปร์ “เกาะยาจก” กระจิริด เล็กกว่าเกาะภูเก็ต เมื่อ ๖๕ ปีที่แล้ว
วันนี้….พูดกันแบบไม่ดัดจริตหยิ่ง
ไทย-โดย “คณะราษฎร” ปล้นพระราชอำนาจ พระมหากษัตริย์ไปเมื่อปี ๒๔๗๕ แล้วลอกกากประชาธิปไตยฝรั่งทั้งดุ้น มาใช้ปกครองประเทศ
เกือบ ๑๐๐ ปี แล้วพวกประชาธิปไตยลาบูบู้ ลักษณะเป็นหมา หน้าตาเป็นปิศาจ ลองบอกซิ ๙๒ ปีประชาธิปไตยลอกกากของไทย
กับฉลากประชาธิปไตยแต่เนื้อในเผด็จการ ๖๕ ปี ของสิงคโปร์ ทำให้ไทยเหนือกว่าสิงคโปร์ หรือสิงคโปร์เหนือกว่า
ในด้านพัฒนาศักยภาพประเทศและคุณภาพประชาชน?
มีด้านเดียวเท่านั้น ที่ไทยเหนือกว่าสิงคโปร์ตลอดกาล คือความเบ่งบานระบบ “คอร์รัปชันนิยม”!
เห็นมั้ย อำนาจเผด็จการ กับการสืบต่อ กับการสร้างประเทศเสถียร กับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา-วิถีชีวิตประชาชนยั่งยืน
จะสรุปด้วยลีลาวาทกรรมว่า “สืบต่ออำนาจเผด็จการ” ในความหมาย “อำนาจผูกขาด” เพื่อกินบ้าน-กินเมือง โดยไม่แยกแยะเนื้อหา มันไม่ได้และไม่ใช่ทั้งหมด
เรานั่นแหละที่จะตกเป็นเหยื่อให้พวก “ประชาธิปไตยกินเมือง” กินแล้วและมันกำลังจะกินต่ออีก
ที่พูดว่า ต้องให้ระบบเหนือคน อย่าให้คนเหนือระบบ นั่นพูดแบบ “หยิบปลายมาเป็นโคน”
มันต้องมีคนก่อน ระบบถึงจะตามมา คนนั่นแหละ เป็นผู้สร้างระบบ
นั่นคือ “ตัวผู้นำ” เป็นผู้ “ควบคุมระบบ” ว่าจะ “คอร์รัปชันนิยม” หรือ “เผด็จการประชาธิปไตยนิยม”!
สรุปสั้นๆ ประชาธิปไตยหรือเผด็จการ มันแค่ชื่อ
เผด็จการซ่อนรูปในประชาธิปไตยของสิงคโปร์ นั่นคือการ “ตัดเกือกให้พอดีตีน”
แค่ ๑๐-๒๐ ปี สิงคโปร์จึงแซงหน้าไทยที่เดินล่วงหน้าตั้ง ๕๐-๖๐ ปี
ประชาธิปไตยที่คณะราษฎรลอกกากมาหลอกแดกชาวบ้านทั้งดุ้น นี่คือการ “ตัดตีนเอาไปใส่เกือก”
เกือกประชาธิปไตยจึงกัดกินตีนชาวบ้าน สังคมชาติ จึงกะโผลก-กะเผลก พิกล-พิการ ตราบถึงทุกวันนี้
เดินก็ไม่ได้ ถัดไปก็ล้มลุก คลานก็หงายท้อง ต้องคอยให้เขาเอาเงินมาล่อ แล้วยื่นจมูกให้เขาสนตะพาย เพื่อลากไป-ลากมา เป็นวัว-ควายประชาธิปไตย
“ปิดสวิตช์ ๓ ป.คนไทยมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกิน มีใช้ ไปพร้อมๆ กันค่าาาาา”
นี่คือ “ประชาธิปไตยกินได้” คนไทยชอบ!
การเมืองบริหารภายใต้ “เศรษฐา-เพื่อไทย” บริหาร แค่ ๑๐ เดือน ตกอยู่ในภาวะ “ยักตื้นติดกึก-ยักลึกติดกัก”
เพราะอะไร เพราะส่วนหนึ่ง “ล้มละลายทางความเชื่อถือ” ทำอะไร แม้ใช่ ก็กลายเป็นไม่ใช่
ที่ไม่ใช่ ก็ไปถึงขั้น…ถูกสาปแช่ง!
“กระจกวิเศษ จงบอกข้าด้วยเถิด จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในอีก ๑ เดือน นับจากวันนี้?”
อยากรู้ ให้จุดธูปถามสโนไวท์
อยากแบกแอกไถ ให้ไปถามลาบูบู้!
เปลว สีเงิน
๑ มิถุนายน ๒๕๖๗