เมื่อ “ยื้อยุด-ประยุทธ์” – เปลว สีเงิน

www.plewseengern.com

เปลว สีเงิน

“พลพรรคนักชิงเมือง” รู้สึกอย่างไร?
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญให้ “นายกฯ ประยุทธ์” หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
คำตอบคือ…..
ไม่ต่างหมา-แมวเห็นปลาเค็มแขวนบนขื่อ ส่งกลิ่นโชยเตะครึ่งปาก-ครึ่งจมูก
แหงนคอเคล็ด น้ำลายไหลยืด
แต่งับไม่ถึง

จึงได้แต่พลุ่งพล่าน งุ่นง่าน แล้วเห่า….นายกเถื่อน…นายกฯเถื่อน!

ก็สมแล้ว ที่รองโฆษกฯ แกะกล่อง “ทิพานัน ศิริชนะ” ตบปากด้วยประโยคสั้นๆ แต่เพียบพูนด้วยตำแย และแสนสะใจ
“นายกฯ เถื่อนหนีไปอยู่ดูไบแล้ว”!

จบเลย…
ด้วยประโยคนี้ประโยคเดียวแท้ๆ “ทิพานัน” โป้งป้างดังเปรี้ยง แจ้งเกิดทางการเมืองทันที!

ที่ผมไม่คุยอะไรเกี่ยวกับเรื่องศาลฯ ให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ในช่วงวัน-สองวันที่ผ่าน ก็ด้วย ๒ เหตุผล

๑.ต้องการดูปฏิกริยาสังคมประเทศ
๒.ต้องการดูตลาดเงิน-ตลาดทุน และท่าที่ต่างประเทศอันมีผลต่อทิศทางการลงทุนและความเชื่อมั่นประชาธิปไตยไทย

๒ วันผ่านไป ผลที่ปรากฎออกมา…….
ทุกอย่าง “ปึ๊ก…เหมือนเดิม”

ทั้งในและนอกประเทศ ยังคงเชื่อมั่นเสถียรภาพรัฐบาลและประเทศที่มี พลเอกประวิตร “รักษาการนายกฯ” ชั่วคราว
“ตลาดหุ้น” ตกใจแว๊บ ชั่ว “ช้างกระดิกหู-งูแลบลิ้น” ก็เข้าสภาพปกติ นักลงทุนต่างชาติยังถาโถมทุ่มซื้อไม่หยุดจนผมหมั่นไส้

การประชุม APEC ระดับรัฐมนตรี ระดับปฏิบัติการเจ้าหน้าที่อาวุโส ๒๑ เขตเศรษฐกิจ ในด้านต่างๆ ประชุมกันคร่ำเคร่ง-คึกคักตามปกติ

ก่อนถึงวันระดับผู้นำสูงสุดทั้ง ๒๑ เขตเศรษฐกิจ จะมาพบกันที่กรุงเทพฯ ระหว่าง ๑๔-๑๙ พฤศจิกา.

ส่วนท่าทีต่างประเทศ ทั้งด้านการเมืองและการลงทุน สดับตรับฟังแล้ว “ชีพจรคงที่” ไม่มีปฏิริยาใดๆส่อไปทางด้านลบ

ก็พอสรุปได้ว่า……
สังคมโลก-สังคมไทยขณะนี้ มีความมั่นใจว่า

๑.แม้พลเอกประยุทธ์ “หยุดปฎิบัติหน้าที่” แต่รัฐบาลที่พลเอกประวิตรรักษาการ ยังมีความเหนี่ยวแน่น และเดินตามแผนงานของนายกฯประยุทธ์

๒.เชื่อมั่นว่า สุดท้ายแล้ว พลเอกประยุทธ์ จะกลับมาปฎิบัติหน้าที่เหมือนเดิม หลังจากศึกษาข้อกฎหมายจนตกผลึกแล้ว

๓.มั่นใจว่า ขบวนการ “ชังชาติ-ล้มสถาบัน” แค่แมลงหวี่ตอมติ่งช้าง ช้างเอาหางปัดที แมลงหวี่ก็บี้คาโคนหาง
ในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ ยึดมั่นใน “ชาติ-ศาสน์-สถาบันกษัตริย์” หยั่งรากลึก ยากโยกคลอน

๔.มั่นใจว่า กองทัพไม่ทำรัฐประหารแน่ ไม่มีเหตุอันใดที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ-สถาบัน และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ,สังคม

๕.มั่นใจว่า การยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ไม่เกิดแน่ จนกว่าการประชุม APEC กลางเดือนพฤศจิกา.ผ่านไปแล้ว

๖.ทั้งห้าข้อนั้น อยู่บนฐานความเชื่อมั่นรัฐบาล “ประยุทธ์บริหาร” และวันงาน APEC จะได้เห็น พลเอกประยุทธ์ อยู่ในฐานะ “นายกรัฐมนตรี” เหมือนเดิม

และข้อสุดท้าย สำคัญมาก……..

๗.การปฏิบัติตามคำสั่งศาลฯ ด้วยเคารพ เคร่งครัด-ปฎิบัติตาม โดยไม่แสดงปฎิกริยาโต้แย้ง หรือพูดจาใดๆ ในทางเสื่อมเสียต่อศาล

เหมือนบางคนที่อ้างประชาธิปไตย แต่กลับทำต่ำช้า-จัญไรในทุกครั้ง ที่ศาลตัดสินไม่เป็นดังใจ

ตรงข้ามกับ “นายกฯประยุทธ์” ที่ฝ่ายหนึ่งประณามว่าเป็นเผด็จการ
แต่ศาลว่าอย่างไร พลเอกประยุทธ์ ก็น้อมรับและปฏิบัติตามนั้น ทำให้ทุกคน ทั้งในประเทศ-นอกประเทศ เห็นชัดทางเปรียบเทียบ ว่า

ไหน…คือ “สุภาพบุรุษประชาธิปไตย”
และไหนคือ “โจรอ้างประชาธิปไตย”?!

ตรงนี้แหละ………
ตอกย้ำให้ “ต่างชาติ” มองความเป็นประชาธิปไตยของไทยผ่าน “สุภาพบุรุษ” ชื่อประยุทธ์
ว่าเดินถึงจุด “ประชาธิปไตย” แท้จริงได้สมบูรณ์ ทั้งรูปแบบและเนื้อหาเชื่อถือได้

ถ้าพลเอกประยุทธ์ มีเผด็จการอยู่ในหัวใจละก็
ด้วย powerful ขณะนี้………..
จะยอมเสียหน้า-เสียศักดิ์ศรี ให้ฝ่ายตรงข้ามหยามเย้ยกับการถูกสั่งให้ “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ชั่วคราวหรือ?

จะไม่ปลุกปั่น ยุยง สร้างขบวนการออกมาต่อต้าน เขียนป้าย ชุมนุมหน้าศาล จลาจลเมือง อย่างที่ “นายกฯ เถื่อน” ที่หนีไปอยู่ดูไบเคยทำหรือ?!

แต่เพราะ พลเอกประยุทธ์ เป็นผู้มีประชาธิปไตยในหัวใจแท้จริง นั่นแหละ
ทั้งที่มีอำนาจเหลือเฟือ……
แต่ไม่ทำอะไรนอกลู่ประชาธิปไตย และในทางไม่เคารพกฎกติกาบ้านเมือง
ทั้งไม่ปลุกปั่นประชาชนมาใช้เป็นเครื่องมือไปทำในทางที่ชั่วร้ายต่อบ้านเมือง เพื่อตัวเอง

มีแต่บอกให้ประชาชนรักกัน สามัคคีกัน ให้ยึดมั่นในศาล เคารพศาล ศาลท่านว่าอย่างไร ต้องเป็นไปตามนั้น

พลเอกประยุทธ์ แม้เป็นนายกฯ
แต่ “สร้างแบบอย่าง” ในฐานะประชาชนที่ “เท่าเทียมกันทางกฎหมาย” ให้ทุกคนเห็น ให้โลกเห็น

สรุปแล้ว การหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวของนายกฯ ในทางมุมกลับ ผลดีเกิดขึ้นมหาศาล
เท่ากับ “ส้นตีนสุภาพบุรุษเหยียบหน้าโมฆะบุรุษ” พลิกภาพจริงให้เห็นทางมุมกลับ ระหว่างประยุทธ์กับทักษิณ

ใครคือ “เผด็จการจอมโกง” ตัวจริง
และ “ใครคือสุภาพบุรุษประชาธิปไตย” ตัวจริง ระหว่าง ๒ คนนี้!

จากกรณีนี้………
เป็นบทศึกษาให้ประชาชนได้เรียนรู้จากความเป็นจริงว่าแบบไหนโจร แบบไหนสุภาพบุรุษ
เพื่อการตัดสินใจเลือกพรรค-เลือกสส.ในปีหน้า ถึงจะมีพลเอกประยุทธ์อยู่ หรือไม่มีก็ตาม

แต่ด้วยรากฐานประชาธิปไตยแท้จริงที่พลเอกประยุทธ์ถากถางนำทางมาถึงจุดนี้ แต่ละท่านน่าจะพอ “สำนึกได้” และเลือกพรรค-เลือกคนคุณภาพจริงๆ เข้าสภา

เพราะผมมองว่า เลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยแลนด์สไลด์ ไม่ว่าพรรคไหน-ต่อพรรคไหน ต้องสู้กันสุดใจขาดดิ้น

และนั่นคือ การเมืองหมุนกลับสู่จุด “กึ่งพุทธกาล” สมัยจอมพลป.พิบูลสงคราม ในการเลือกตั้ง ปี ๒๕๐๐ อีกครั้ง

การเลือกตั้งครั้งนั้น……..
เป็นเลือกตั้ง “ปิดฉาก” คณะราษฏร ๒๔๗๕ ที่ยึดอำนาจพระมหากษัตริย์ไปแย่งชิงกันเองในหมู่แกนนำคณะราษฎร
ซึ่ง “จอมพลป.พิบูลสงคราม” เป็นผู้สืบต่ออำนาจเป็นคนสุดท้าย ด้วยเลือกตั้งที่ “แพ้ไม่ได้” ต้องแลนด์สไลด์ หวังสืบต่ออำนาจคณะราษฏรสถานเดียว

เลือกตั้ง ปี ๒๕๐๐ จึงถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์เลือกตั้งที่สกปรกเลวร้ายที่สุด มีทั้งพลร่ม ไพ่ไฟ นักเลง-อันธพาล นับๆ ไฟดับ ยกหีบหายทั้งใบ……

เปิดมาอีกที มีแต่บัตรกาผู้สมัครพรรคเสรีมนังคศิลา ที่จอมพล ป.เป็นหัวหน้า พลตำรวจเอกเผ่า เป็นเลขาฯ พรรค

และนั่น จุดจบของฝ่ายประชาธิปไตย “แพ้ไม่ได้” ตามสโลแกนจอมพลป.ก็มาถึง ด้วยนักศึกษา-ประชาชน สนับสนุนให้จอมพลสฤษดิ์ “ยึดอำนาจ”!

“แพ้ไม่ได้” เมื่อปี ๒๕๐๐ ของจอมพลป……….
ดูท่า “แลนด์สไลด์” ปี ๒๕๖๖ ของฝ่ายประชาธิปไตย คณะราษฎรแดงส้มสามนิ้ว จะเจริญรอยตามซะละมั้ง?

พลร่ม ไพ่ไฟ จะมาปรากฏในรูปธนบัตร เงินจะสะพัดท่วมทุกจังหวัด นักเลง อันธพาล ทั้ง ๓ นิ้ว ๕ นิ้ว จะกระจายเป็นหัวคะแนน คุกคามไปทั่ว

นี่แหละ ประยุทธ์ “อยู่-ไม่อยู่” ผมไม่กลัว
แต่ผมกลัวตรง “แพ้ไม่ได้” ที่แปลกลับเป็นภาษาต่างด้าวว่า “แลนด์สไลด์” นั่นแหละ

เลือกตั้ง ปี ๖๖…….
จะทำให้บ้านเมืองกลับสู่สถานการณ์ “ผกผัน” เหนือคาดหมาย ไปสู่อีกมิติหนึ่งเลยก็ได้!?

ที่เรียก “อิทัปปัจจยตา” ควรศึกษา “เพื่อปลง” กันเนิ่นๆ

เพราะมีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงมี-จึงเกิด มันเป็นผลที่มาจากเหตุ ด้วยตัวอวิชชา โง่เขลา ลุ่มหลงนี้แหละ หมุนกงล้อแห่งกรรมสัมภเวสี

จากตัวคนเดียว “เหนี่ยวนำ” ทั้งคอก-ทั้งโคตร “คืนนรก” เป็นการ”ปิดฉาก”!

เปลว สีเงิน
๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๕


Written By
More from plew
นายกฯ “ยิ่งถูกด่า-ยิ่งเด่น”-เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน นี่… แสดงว่า “หมดท่า” กันแล้วจริงๆ โดยเฉพาะการเมืองฝ่ายค้าน สารพัดวิชามารที่มี ทั้งในระบบ-นอกระบบ งัดมาใช้จนหมดเกลี้ยง แต่ก็ล้มประยุทธ์ไม่ลงซักที!
Read More
0 replies on “เมื่อ “ยื้อยุด-ประยุทธ์” – เปลว สีเงิน”