เปลว สีเงิน
แอมเนสตี้คือใคร?
คือคนกลุ่มหนึ่งประเภทตั้งตนเป็น “ขาใหญ่” มีเครือข่ายกระจายไปหลายประเทศในโลก
สถาปนาเป็น “ผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน”
“นักบุญเผือก” ภาคเอกชน ทำนองเดียวกับ NGO
ในไทย “แอมเนสตี้” จดทะเบียนเป็นสมาคม ตั้งเป็น “แอมเนสตี้” ประจำภูมิภาคอาเซียน
แล้วเอาเงิน-เอาทองที่ไหนมากินอยู่เลี้ยงดูกัน?
เห็นทำกิจกรรมยุแหย่แต่ละครั้งหรูแฟ่ ชักอิจฉา อาชีพปั่นสิทธิมนุษยชนนี่ รายได้มันดีเหลือเกิน?
เหมือนว่า แค่ใช้ภาพคำฝรั่งอยู่หลังม็อบ “เขียนป้าย ปั่นทวีต โพสต์โฟซ”แโจมตีรัฐบาลบ้าง สถาบันบ้าง ป้ายสีประเทศด้วยข้อมูลลวงโลกบ้าง เงินก็ไหลมา-เทมา อย่างนั้นแหละ!
แอมเนสตี้เป็น “องค์กร”………..
ถ้าเป็นคน การอยู่ในบ้านเขา แล้วชักใยทำลายบ้านที่เขาให้อยู่อาศัย แบบนี้เขาเรียก “ไอ้คนต่ำสัตว์”
เพราะสัตว์ มันรู้คุณคน แต่แอมเนสตี้ รู้แต่ “เนรคุณ”!
เห็นนางปิยนุช โคตรสาร ผอ.พรีเซนต์องค์กรว่า
“ในโลกที่เต็มไปด้วยการตักตวงผลประโยชน์ทางธุรกิจและการเมือง แอมเนสตี้ยึดมั่นในความเป็นกลาง อิสระ และโปร่งใส เรารับเงินบริจาคสำหรับการรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนจากคนธรรมดาๆ เช่นคุณเท่านั้น
เราปฏิเสธเงินสนับสนุน ทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพราะผลประโยชน์เดียวที่เรายึดถือ คือสิทธิมนุษยชนของคนทุกคน”
กูจะอ้วก ยี่เกฝรั่ง……
“เงินบริจาค” ที่มา ก็สไตล์เดียวกับสามนิ้ว “รุ้ง-เพนกวิน-อานนท์” และใครต่อใคร ที่แย่งกันเปิดรับจนตุ๊บตั๊บนั่นแหละ
ก่อม็อบ ละเลงสี เขียนป้าย “ปี๊ข้าจะให้ใครปั๊มก็ได้” ขึ้นเวทีหยาบช้าต่อสถาบัน หยามหยันตำรวจ ปาบึ้ม
แล้วก็ “เปิดบัญชี”!
ที่ว่า “ปฏิเสธเงินสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน” นั่นน่ะ จริงเร้อ…กล้าสาบานให้ตกคอห่านส้วมตายมั้ย?
ว่าไม่เคยรับเงิน “โซรอส”!
เห็นร้อนท้อง “ถามเอง-ตอบเอง” แก้เกี้ยว ชนิดถามวัวตอบควาย ไว้อย่างนี้
“คนพูดว่ารับเงินจอร์จ โซรอส แล้วมีที่มาแหล่งทุนจากไหน?”
เรื่องรับเงินจอร์จ โซรอส เป็นแพทเทิร์นที่โดนมาเรื่อยๆ ตามบทความต่างๆ
เราเป็นองค์กรอาสาสมัคร นอกจากมีสมัครสมาชิกรายปีแล้ว ยังมีผู้สนับสนุนรายย่อยให้เงินบริจาค เรารับเงินองค์กรเอกชนใหญ่ๆ ที่มีประวัติไม่ดีเรื่องสิทธิมนุษยชนไม่ได้ กว่าจะรับทุนที่ไหนต้องสืบประวัติเยอะมาก
ส่วนเงินจากภาครัฐจะรับได้เฉพาะงานสิทธิมนุษยชนศึกษาเท่านั้น……”
เขาถาม “แอมเนสตี้รับเงินโซรอสหรือเปล่า” รับ-ไม่รับ ตอบไปตรงๆ คำเดียวก็จบ
นี่กลับเฉไฉไถลเล่ห์ สมแล้วที่เขาเรียก “นางหน้ามึน”!
เฉไฉนั่นก็เท่ากับยอมรับอยู่ในตัว เขารู้กันทั้งโลก แอมเนสตี้ ก็ไม่ต่างเอ็นจีโอ
เงินก็จากโซรอส จาก NED จาก FGHR จาก AJWS ล้วนขบวนการ “สหรัฐ-ยุโรป” จ้างบ่อนทำลายไทยประเทศ
และขบวนการไหนบ้างล่ะ…
ในปฏิบัติการ “ล่มประเทศ-ล้มสถาบัน” ที่สันถวะนัวเนียอยู่กับแอมเนสตี้?
ก็ทั้ง “กองทุนราษฏรประสงค์” ที่ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์ และไอดา อรุณวงศ์ เปิดบัญชีรับเงินไปประกันตัวสามนิ้ว
ทั้ง “ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน” รับหน้าที่คอยดูแลด้านคดีความให้
เนี่ย ทั้งแอมเนสตี้ กองทุนราษฏร์ประสงค์ ศูนย์ทนายสิทธิฯ และขบวนการสามนิ้ว+พวกจานข้าวหมา
เข้าขากัน ในงาน “ล้มเจ้า-ล้มประเทศ” รวมทั้ง ล้มรัฐบาลประยุทธ์
ธนาธร ปิยบุตร พรรคก้าวไกล ขาคงไม่ได้เข้ากะเขาด้วยนะ?
ผมพูดนี่ ประมวลจากพฤติกรรม ฟัง “ปากคำ” คนเคยสัมผัสโดยตรงกับสถุลนอกชาติบ้างก็ได้ ถือเป็น “ประจักษ์พยาน” ได้เลย
“นายอานนท์ แสนน่าน” อดีต “ประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย” ที่ตอนนี้ กลับเข้าในร่มเงาไตรรงค์แล้ว
กำลังเดินตามศาสตร์พระราชา “โคก-หนอง-นาโมเดล” อยู่ที่อุดรธานี
ตอนนี้ กำลังรวบรวม ๑ ล้านรายชื่อ GET OUT แอมเนสตี้ ตามแคมเปญ “ดร.เสกสกล” หรือแรมโบ้
เขาเปิดเผยพฤติกรรมแอมเนสตี้และพวกทูตสันดานเถื่อนไว้ แพร่หลายในเฟซ ผมจะยกมาให้ดูอีกรอบ ดังนี้
……………………………..
นายอานนท์ แสนน่าน
วันนี้พวกเราชาวอดีตหมู่บ้านทั่วทั้งประเทศ ขานรับแคมเปญของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ
ที่ต้องการจะนำรายชื่อประชาชนจำนวน ๑ ล้านชื่อ ลงชื่อกัน เพื่อขับไล่กลุ่ม “แอมเนสตี้ อินเตอร์ เนชั่นแนล” ออกจากประเทศไทย
เพราะกลุ่มนี้ มักชอบอ้างว่าเป็น “กลุ่ม NGO” ระหว่างประเทศ ออกช่วยเหลือปกป้องสิทธิมนุษย์ทั่วโลก
ในอดีตที่ผ่าน…..
พวกผมเองก็เจอกับกลุ่ม NGO ในหลายๆ กลุ่ม ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๖
ช่วงนั้น หมู่บ้านเสื้อแดง มีมวลชนจำนวนมากทั่วประเทศไทย ไม่ขึ้นตรงกับทาง นปช.
ขับเคลื่อนกันเองโดยภาคประชาชน
NGO ก็ลงไปหาบ่อยมาก พร้อมกับทูตประเทศต่างๆทางยุโรปและตะวันตก ส่วนใหญ่จะสอบถามว่า
“รักเจ้ามั๊ย?” หรือ…
“มีกองกำลังมั๊ย?”
“จะสู้กับเจ้าอย่างไร?”
“จะให้พวกเราสนับสนุนอะไรบ้าง?”
ต่างๆ นานา บางเรื่องก็พูดไม่ได้ เพราะเป็นคำสั่ง
พวกผมปฏิเสธ ……
ออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย “อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” อย่างต่อเนื่อง
จนหลังการรัฐประหาร ปี พ.ศ.๒๕๕๗ พวกผมพาชาวหมู่บ้านเสื้อแดงเพาะเห็ดขายภายใต้ชื่อ “หมู่บ้านเห็ด” สร้างฐานมวลชนขึ้นมาอีก
เหมือนเดิม…….
ทางกลุ่ม NGO และทูตประเทศต่าง ๆ กว่า ๒๐ กลุ่ม ก็ยังลงพื้นที่ มาพบพวกผม ที่จะสอบถามว่า
“จะสู้อย่างไรต่อ จะเอาเจ้ามั๊ย?”
และ “มีกองกำลังมั๊ย ถ้าจะสู้ต่อก็บอก จะช่วยเหลือสนับสนุน”
พวกผมก็ไม่ได้สนใจ นำมวลชนสร้างเป็น “กลุ่มวิสาหกิจชุมชน” ประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้ประชาชนจนถึงปัจจุบัน
แต่เมื่อมาถึงวันนี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า
องค์กรแห่งนี้ “เคลื่อนไหวเป็นอันตรายต่อประเทศชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์” มาโดยตลอด
คอยให้การสนับสนุนกลุ่มที่สร้างความรุนแรง แม้กลุ่มม็อบ ๓ กีบ จะใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังออกมาเรียกร้องให้ตำรวจยุติการใช้ความรุนแรง
ซี่งสวนทางกับความจริงมาโดยตลอด!
“พวกผมจึงขานรับแคมเปญ (ไล่แอมเนสตี้) ส่งสัญญาณไปตามอดีตหมู่บ้านเสื้อแดง ทั้ง ๖ ภาค ให้ตั้งโต๊ะลงรายชื่อประชาชน ขับไล่องค์กรแห่งนี้ พ้นผืนแผ่นดินไทย เหมือนหลายๆ ประเทศ
อย่าให้พวกเขาเคลื่อนไหวในประเทศอีกต่อไป เพราะการเคลื่อนไหวนั้น เป็นการทำลายประเทศอย่างต่อเนื่อง
คนที่ออกมาพูดก็ไม่ใช่คนไทย เขาไม่เข้าใจวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
อ้างแต่เรื่องสิทธิมนุษยชน แต่ทำไมยอมให้คนกลุ่มหนึ่งก้าวล่วงและละเมิด “สถาบันพระมหากษัตริย์” ได้
ซึ่งนั่นก็เป็นการ “ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรง” ยิ่งกว่า แต่องค์กรแห่งนี้ กลับทำไม่รู้ไม่เห็น
เชื่อได้ว่า การเคลื่อนไหวของ “แอมเนสตี้” มีวัตถุประสงค์และเงื่อนไข ทำลายประเทศไทยโดยแท้จริง
พวกเราผู้จงรักภักดีต่อ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” จะไม่ยอมให้ “พวกจ้องล้มล้างสถาบัน”
เอาชาวต่างชาติมาใช้ประชาชนคนไทยเป็นเครื่องมือ ดำเนินการเหมือนในอดีตที่ผ่านมาอย่างเด็ดขาด
เพราะถือเป็นการเหยียดหยามหัวใจประชาชนคนไทยที่มี “พระมหากษัตริย์” ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งประเทศ”
———————————
อยากได้ยินพวกขี้ทูตและแอมเนสตี้ออกมาบอกว่าที่ “อานนท์ แสนน่าน” พูดนี่
“ไม่จริ๊ง…ไม่จริง” ซะจริงๆ!
