เปลว สีเงิน
ถึงถูก “ตีตก” แต่ก็ “คุ้ม” เนอะ!
กับการที่ขบวนการสามนิ้ว “ปิยบุตร-ไอติม” และใครต่อใครอีก ๒-๓ คน
ได้เข้าไปกระเทียบ-กระแทกใส่รัฐบาล ใส่ศาลรัฐธรรมนูญ ใส่วุฒิสภา ใส่องค์กรอิสระ ถึงในรัฐสภา
“สะใจ-สะอารมณ์” ฟรีๆ ๑ วันเต็มๆ
แต่ดูคะแนนโหวตแล้ว ต้องบอกว่า “ไม่รับหลักการ” เททิ้งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับไอติม-ปิยบุตร ชนิดไม่มีราคาเลย!
ก็ดูตัวเลขซี……
ไม่รับหลักการ ๔๗๓ เสียง ต่อ ๒๐๖ เสียง งดออกเสียง ๖เสียง
แยกดูชัดๆ ดังนี้
ส.ส.ไม่รับหลักการ ๒๔๙ เสียง
ส.ว.ไม่รับหลักการ ๒๒๔ เสียง
……………..
ส.ส. รับหลักการ ๒๐๓ เสียง
ส.ว.รับหลักการ ๓ เสียง
…………………
งดออกเสียง ๖ เสียง แบ่งเป็น ส.ส.๓ เสียง ส.ว.๓ เสียง
สรุป เสียงสส.ฝ่ายรัฐบาลที่ “ไม่รับหลักการ” ยัง “ผนึกแน่นปึ๊ก” ๒๔๙ เสียง
ฝ่ายค้านที่ “รับหลักการ” ก็แน่นเอี๊ยดถึง ๒๐๓ เสียง
เพื่อไทย ถึงรู้ว่าร่างฯ นี้ ยังไงก็ไม่ผ่านตั้งแต่ในมุ้ง
แต่ในฐานะ “หุ้นส่วนสามนิ้ว” ก็ต้องกัดฟันหามศพแห่ ทั้งอภิปราย ทั้งโหวตรับหลักการ เป็น “ดอกไม้จันทน์” ประดับกันไป
ก็เป็นสปิริตอย่างหนึ่ง หัวหน้าฝ่ายค้านและหัวหน้าเพื่อไทยคนใหม่ “หมอชลน่าน” จำต้องหลังชนฝา เพื่อคะแนนเลือกตั้งจากรุ่นใหม่!
ถามว่า แล้ว “ขบวนการล้มเจ้า” เขาจะเอาไงต่อ?
โน่น ต้องไปถาม “ศาสดาปิยบุตร” เขาโน่น เรื่องจบน่ะ ยังไม่จบหรอก เพีงแต่ตัว “หัวโจก” ที่จะเชิดใช้ มันชักขาดตลาด
ก็ทั้งอานนท์, เพนกวิน, ไมค์, รุ้ง, เบญจา ไปแสดงนำอยู่ในมุ้งสายบัวหมด ครั้้นจะเล่นมุก “ม็อบไม่มีแกนนำ” ไปเรื่อยๆ ก็ชักชักเริ่มมีเสียง “อิหยังวะ” จากพวกกันเองแล้ว
และมีเสียงร้อง-เสียงเชียร์……
ให้อาเฮียธนาธร อาตี๋ปิยบุตร ออกนำเองบ้าง!
“เซ็งว่ะ หลอกพวกกูไปติดคุกข้างเดียวนี่หว่า”?
แก๊งแว้น แก๊งลั่กกั่ก ก็ชักเกี่ยง ……..
ถ้าจะใช้บริการให้เป็นแนวหน้าทะลวงแก๊ส “ล่อเป้า” ให้ตำรวจลงมือ เพื่อเอาไปเป็นเชื้อปั่นทวีต ปั่นแฮชแท็ก “รัฐบาลเผด็จการ” เหมือนเดิมละก็
อาเฮียทอน ไม่ก็อาตี๋บูด ลื้อต้องออกนำเองแล้ว ถึงจะโอเค!
ไม่ใช่อะไร แหยงว่ะ….
แหยงครุฑ ที่บินไปเกาะหน้าบ้าน ตอนนี้ ที่เคยซ่าหน้าม็อบ หำหดไปตามๆ กัน เดินขึ้นโรงพักรับทราบข้อหาบ้าง ขึ้นอัยการรอฟังคำสั่งบ้าง
จาก “สามนิ้ว” กลายเป็นหน้าเหลือ “สามนิ้ว” ไปแล้ว!
พรุ่งนี้ “ลอยกระทง” มิใช่หรือ?
ก็คอยดูแคมเปญใหม่ของสามนิ้วค่ายมหา’ลัยเขาก็แล้วกัน ได้ยิน’จานสุรชาติ กูรูรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แย้มชวนสยิวไว้วันก่อนว่า พวกนิสิต-นักศึกษา เขาจะมีอะไรให้เซอรไพรส์คืนนั้น
พักยกเรื่อง “การเมือง” ไว้ก่อน
มาคุยเรื่อง “การมุ้ง” บ้าง เห็นข่าวแต่วานซืน ว่าจะคุย แต่ติดคิวฟังประชุมรัฐสภา มาว่ากันวันนี้ซะเลย
คือวันประชุมรัฐสภานั่นแหละ “ลูกนัท” ไฮไซ ที่ไปม็อบดินแดง ถูกลูกหลงพวกเดียวกันจนเลือดโชกตา
บอดไม่บอดเรื่องของเขา
แต่เห็นแปลงบอดเป็นเท่ด้วยแฟชั่น “โมเช่” ปิดตาข้างเดียว วานซืน เปลี่ยนบทจากแกนนำ “ม็อบสามนิ้ว” ล้มเจ้า
ไปเป็นแกนนำ “ริเริ่ม” เสนอร่างแก้กฎหมายอาญา ไปยื่นประธานรัฐสภา ที่ไปกัน นอกจากลูกนัทแล้ว
ก็มีนายอรรถพล ไข่ทอง หรือเบลขอบสนาม มีไข่เน่า onlyfans และอีก ๒-๓ คน
ประสงค์เขาก็คือ ต้องการแก้กฎหมายว่าด้วยสื่อลามากอนาจาร ให้การทำหนังโป๊ เป็นเรื่องถูกต้องกฎหมาย
เป็นโลกทัศน์ของคนรุ่นใหม่เขา
ผมว่า “ก็ดีแล้ว”
ที่ต้องการอะไร-แบบไหน ก็เดินตามครรลองช่องประตูที่มีให้เดิน ไม่ใช่เอะอะก็พากันลงถนน อย่างที่ทำกัน
เมื่ออยากแก้กฎหมาย ก็ไปยื่นที่รัฐสภา เดินตามช่องทางนิติบัญญัติ สวยงามแล้ว ส่วนได้-ไม่ได้ขนาดไหน ก็ว่ากันไป
แบบนี้แหละ คือการใช้ “สิทธิ-เสรีภาพ” และการแสดงความคิดเห็นตามหลักประชาธิปไตย เป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งคนรุ่นใหม่-รุ่นเก่า ต้องดูไว้
แต่ผมมีประเด็นอยากพูดในเชิงติติงด้วยปรารถนาดีเรื่องหนึ่ง
ไม่เกี่ยวกับเรื่องสิทธิในร่ายกาย หญิง-ชาย จะทำอะไรกันก็ได้ตามใจชอบ แล้วถ่ายหนัง-ถ่ายคลิป เป็นธุรกิจ อย่างที่
พวกคุณฉายไอเดีย
ที่ผมไม่เห็นด้วย และต้องนำมาพูด คือ ที่คุณตั้งชื่อกลุ่มว่า
“กลุ่มเจริญ Porn”!
มีเท่านี้แหละ เราเป็นคนไทยด้วยกัน เกิดในแผ่นดินไทย มีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
ถึงบางคนบอกไม่นับถือศาสนาอะไร หรือนับถือศาสนาโน่น-นี่ ก็เป็นสิทธิในการนับถือศาสนา-ลัทธิ ไม่มีใครว่าได้
แต่กับทุกศาสนา…..
ในความเป็นอารยชน เราต้องไม่ทำอะไรส่อไปในทาง “ลบหลู่-ดูหมิ่น” หรือล้อเลียนใดๆ ต่อศาสนานั้นๆ
ผมก็เข้าใจ พวกคุณตั้งชื่อกลุ่ม เจตนาสื่อให้รู้ว่ากำลังเคลื่อนไหวเรื่องหนังโป๊ เรื่องโสเภณี เรื่องเพศ จึงนำคำว่า “Porn” เป็นตัวนำ
ก็ไม่เป็นไร……..
แต่ที่มันเป็น ก็ตรงพวกคุณเอาคำว่า “เจริญ” ไปต่อกับคำว่า “Porn” ออกมาเป็นชื่อ “กลุ่มเจริญ Porn”
ตรงนี้แหละ ขอบอกว่า”ไม่สมควร”อย่างยิ่ง!
การเล่นลีลาภาษา ด้วยการเอา “ศัพท์พ้องเสียง” คือ Porn ในภาษาอังกฤษ หมายถึงเรื่องลามก เป็นตัวตั้ง
แล้วเอาคำว่า “เจริญ” ในภาษาไทย หมายถึงความเป็นมงคลไปต่อข้างหน้า ออกมาเป็น “เจริญ Porn”
พวกคุณรู้และเข้าใจใช่ไหม ว่า….
คำว่า “เจริญพร” นั้น มีความหมายว่าอะไร และเป็นคำใช้เฉพาะสำหรับใคร?
อย่าตลกแบบนี้เลย หรือบอกว่าเลียนลีลา “ไพรวัลย์-สมปอง” ที่นำคำว่า “พส.” มานำหน้าชื่อ แทนคำว่า “พระภิกษุ” เป็น พส.สมปอง พส.ไพรวัลย์ ว่ามันเท่ดี
แต่อยากบอกให้รู้……..
“พระพุทธองค์” ทรงใช้ “ภิกขุ” เป็นคำเรียกพระสงฆ์ นับแต่พุทธกาลถึงปัจจุบัน ก็มีแค่ ๒ โล้นนี้เท่านั้น แผลงในทางวิบัติ บัญญัติคำว่า พส.ใช้แทนคำว่าพระภิกษุกับตัวเอง
ก็แถว่า พส.ย่อจาก “พระสงฆ์”
ชาวบ้านไม่รู้หรอก แต่วงการสงฆ์รู้ดี ว่าลึกในเจตนา ๒ โล้นนี้ ล้อเลียน “สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ” ที่มีอักษรย่อว่า “พศ.”
ลึกในลึกกว่านั้น หวังฟาดหางไปถึง “มหาเถรสมาคม” ที่มีอักษรย่อว่า “มส.”!
จะแยกตั้งลัทธิ-นิกายใหม่ สำหรับคนรุ่นใหม่สามนิ้ว มีพส.สมปอง พส.ไพรวัลย์ เป็นเจ้าลัทธิแครอท แทนเป็น “สงฆ์สาวก” ในพุทธศาสนาหรืออย่างไร ผมก็เดาใจไม่ถูก?
หรือคณะลูกนัท ชินกับลีลาขบวนการสามนิ้ว ที่ตั้งชื่อล้อเลียนสถาบันในการปลุกระดมแต่ละครั้ง
เมื่อจะรณรงค์แก้กฎหมาย จึงนำ Porn มาสร้างกลุ่มคำ เป็น เจริญ Porn
หวังให้ตรงเสียงว่า “เจริญพร”
“พร” ในภาษาไทย เป็นคำแสดงความปรารถนาให้ประสบสิ่งที่เป็นสิริมงคล ตรงกับคำว่า bless ในภาษาอังกฤษ
“เจริญพร” จึงเป็นคำสูง คำมงคล เป็นคำเฉพาะสำหรับพระภิกษุ-สามเณร ใช้พูดกับคนทั่วไป และเป็นคำรับ อย่างที่ได้ยินกันเสมอ เช่นว่า “เจริญพร คุณโยม…” เป็นต้น
หรือเวลาลงท้ายคำ อย่างเราจะใช้ ครับ…ค่ะ แต่พระจะใช้คำว่า “เจริญพร”
“เจริญพร” น่าจะกระชับมาใช้จากคำว่า “เจริญพระพุทธมนต์” ผิด-ถูก ผู้รู้ช่วยบอกด้วยละกัน
แล้วสมควรหรือ ที่จะตั้งชื่อกลุ่มว่า “เจริญ Porn” เพื่อให้ตรงเสียง “เจริญพร”?
ต่อไป ก็จะถูกนำไปใช้ทาง “ตลก-ล้อเลียน” เจริญพร..เจริญ Porn จนคำว่าเจริญพร กลายเป็น “ศัพท์แสลง” ไป
แล้วตรองดูซิ เวลาพระภิกษุ-สามเณร พูดกับญาติโยมว่า “เจริญพร” จะสร้างความรู้สึกลำบากใจให้ทั้งพระทั้งญาติโยมขนาดไหน?
ในเมื่อพวกคุณ “รุ่นใหม่” กำลังเดินถูกครรลอง ก็อย่าให้มีตำหนิด้วยเรื่องนี้เลย จะตั้งชื่อกลุ่มอะไรก็ตั้งไป
แต่อย่าตั้ง แบบใช้สิทธิ-เสรีภาพตัวเอง ไปทำลายสิทธิ-เสรีภาพผู้อื่นแบบนี้
เมื่อมาตรงแล้ว ก็อย่าคดเลย บอกด้วยหวังดีนะ
