นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากช่วงที่ผ่านมาสังคมได้นึกถึงผลงานในรอบ 7 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจากการรัฐประหารปล้นอำนาจประชาชนสู่นายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ จนเฟซบุ๊กศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี-PMOC ต้องโพสต์แคมเปญ “ลุงตู่ 7 ปี แล้วไง” เพื่อตอบโต้กระแสสังคมดังกล่าว เรื่องนี้ส่วนตัวมองว่าหากพลเอกประยุทธ์ที่อยู่มาถึง 7 ปี ทำได้แค่เท่าที่โพสต์ก็ควรลาออกไป
เพราะประชาชนรู้ความจริงว่าผลของการกระทำใน 7 ปีของพลเอกประยุทธ์ คนไทยได้อะไรบ้าง ทั้งเรือดำน้ำ เรือเหาะ รถถัง และหนี้มหาศาล
ทั้งหนี้จากการกู้เพื่อชดเชยงบขาดดุลรวม 3.9 ล้านล้านบาท หนี้จากการออกกฎหมายพิเศษ 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งการกู้ที่มากขึ้นกลับทำให้จีดีพีต่ำลงทุกปีนับตั้งแต่รัฐประหาร จีดีพีบางปีโตได้แค่ 1% ขณะที่ธนาคารโลกคาดว่าคนจนของไทยในปี 2563 จะเพิ่มขึ้น 8.8% มาอยู่ที่ 5.2 ล้านคน จากปีก่อนหน้าที่คนจนอยู่ที่ 3.7 ล้านคน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมการระบาดของโควิด-19 ในระลอกที่ 3 ซึ่งอาจทำให้คนตกงานเกือบ 10 ล้านคน ส่งผลให้คนไทยกลายเป็นคนจนโดยจำใจ
นอกจากนี้ที่ผ่านมานับตั้งแต่พลเอกประยุทธ์เข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่ปี 2558 – 2561 ไทยยังเป็นเพียงประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีคนจนเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน จนขณะนี้จำนวนคนจนของไทยแซงหน้าเวียดนามไปเรียบร้อยแล้ว
“พลเอกประยุทธ์ยิ่งอยู่ คนไทยยิ่งจน กู้เยอะ กู้เก่ง แต่เงินในกระเป๋าคนไทยไม่เพิ่มขึ้น คำถามที่ว่า ‘ลุงตู่ 7 ปี แล้วไง’ ดิฉันจะตอบให้ว่า ท่านเป็นนายกฯที่สร้างหนี้มากสุด คนจนมากสุด คนอยากย้ายประเทศมากที่สุด จัดการวัคซีนได้มั่วที่สุด และสุดท้ายหลอกตัวเองมากที่สุด” นางสาวอรุณีกล่าว