“บิ๊กเซอร์ไพรส์เบิ้มๆ” ของทาส

“ไมค์ ขยะศาสตร์”

วันนี้….
ขึ้นระดับผู้ “ทรงอิทธิพลทางความคิด” โดยมีคณาจารย์ธรรมศาสตร์และนักศึกษาเป็นสาวก
“สยบยอม” ทั้งกายและใจถึงขั้นยอมให้เข้าไปใช้ตึกโดมธรรมศาสตร์ ชูธงนำหน้านักศึกษาใต้ปลอกคอไอ้กัน ปลุกระดมชุมนุม ๑๙ กันยา.!

๑๙ กันยา.ที่เพนกวิน ระดับ “เพ็ดดีกรีไอ้กัน” ขึ้นประกาศเมื่อวาน (๙ กย.) ว่า

“วันที่ ๑๙ กันยา.จะเป็นวันประวัติศาสตร์ ยกระดับการต่อสู้ สร้างแผลให้เผด็จการอย่างไม่รู้ลืม อย่างที่นายอานนท์ นำภา พูดว่ามีบิ๊กเซอร์ไพรส์เบิ้มๆ

ผมขอใช้เครดิตการต่อสู้ที่ผ่านมา พี่น้องจะไม่กลับมือเปล่าแน่นอน จะประกาศชัยชนะ ถ้ามากันมากชัยชนะจะยิ่งใหญ่”

บิ๊กเซอร์ไพรส์เบิ้มๆ ของเพนกวินคืออะไร?
นอกจากที่บอก จะปักหลักค้างคืนในธรรมศาสตร์ บุกยึดสนามหลวง บุกทำเนียบ

แล้ว ๑๐ ข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสถาบัน นักข่าวเขาถามว่ายังจะยืนยันเป็นไฮไลท์อยู่มั้ย?

เพนกวินกระชากโซ่ตอบ……
“ธรรมศาสตร์เราชัดเจนเรื่องเสรีภาพ เราพูดทุกเรื่อง เรื่องสถาบันจะถูกพูดถึงแบบเบิ้มๆ
เราทำลายเพดานวันที่ ๑๐ สิงหา.เปิดฟ้ากว้างแล้ว ไม่ยอมให้ใครเอามาปิด ๑๐ ข้อเสนอ
ไม่ใช่ของใหม่ พูดวนมาเป็น ๑๐ ปี เชื่อว่าพี่น้องประชาชนเห็นเหมือนเรา มวลชนชี้ขาดชัยชนะครั้งนี้ได้”

อื้อฮือ…
“สถาบันจะถูกพูดถึงแบบเบิ้มๆ” นี่คือเสรีภาพของธรรมศาสตร์ ในยุคฮองเฮาเกศินี เจ้าสำนัก!
ตื่นเต้นดีจัง

เบิ้มๆ ก็ระวังบึ๊มๆ ที่อาจตามมาจากพวกกันเองด้วยนะ ดูรูปแบบงาน การปลุกเร้าแล้ว บึ๊มๆ น่าจะเป็นเป้าหมายที่เขาต้องการให้เกิด
เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขอ้างอิงสู่สเต็ป “อำนาจครองเมือง” นั่นแหละ!

ไอ้กันเรียกการปลุกปั่นคนในชาติให้แตกแยก ห้ำหั่นกันเองเป็นจลาจลเมือง เพื่อเข้าครอบครองแบบนี้ว่า สปริง…สปริง อะไรทำนองนี้

อย่างที่ทำให้เกิด ในฮ่องกง ในซีเรีย ในยูเครน ในตูนีเซีย คาตาอยู่

ที่เอาเด็กไปล้างสมองในสถานทูต และซึมแทรกตามสถาบันศึกษา ตามชุมชน ก็แผนใช้เด็ก, นักวิชาการ, เอ็นจีโอ, กลุ่มการเมือง เป็นเครื่องมือสร้าง “ไทยสปริง”

ปลุกปั่นให้ประเทศแตกแยก…….
แล้วใช้องค์กรสากลต่างๆ บังหน้าเข้ามาเชิดหุ่น “การเมืองขายชาติ” ขึ้นบริหารประเทศ

ส่วนตัวไอ้กัน กระตุกโซ่อยู่ข้างหลัง!

ไทยนั้น ทั้งมีบทเรียน ทั้งเห็นตัวอย่าง ทั้งรู้เช่นเห็นสันดานไอ้กัน จริงใจไม่มี มีแต่หลอกใช้เอาผลประโยชน์

สงครามเวียดนามเป็นไง?
หลอกใช้ไทยเป็นฐาน พอหมดประโยชน์ ก็เปิดแน่บ ไม่เคยอินังขังขอบในคำว่ามหามิตรเลย

ต้มยำกุ้งเป็นไง?
หลอกให้ไทยติดกับดักในสงครามค่าเงินบาท พอไทยเจ๊งหมดตูด ไปขอความช่วยเหลือ
คลินตันเอาตีนยันหน้าหงายกลับมา บอกไทยอยู่ไกล ไม่มีความหมายต้องช่วย

ไม่ช่วย ยังกระทืบซ้ำ ให้ไทยต้อง “จำนำประเทศ” แลกเงินกู้ IMF

มันหายหัวแน่บไปจากภูมิภาคเมื่อหมดประโยชน์ ครั้นเห็นจีนโตใหญ่ในย่านอินโด-แปซิฟิก ก็ยอมไม่ได้ จะกลับมาใหญ่เหมือนเดิม

รัฐบาลทักษิณอยู่ ก็สบาย “สมประโยชน์” ทุกอย่าง รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ ยิ่งสบาย ได้ทั้งเนื้อ-ทั้งน้ำ!

แต่ไทยพ้นระบอบทักษิณครองประเทศ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เข้ามา
ที่เคยสบาย จะเอาอะไร ชี้นิ้วสั่งได้ ไอ้กันก็ไม่สบาย เอาไม่ได้-สั่งไม่ได้ เหมือนเดิม
หงุดหงิด…….

ออกลายชัดตั้งแต่เดินสายสนับสนุนขบวนการเสื้อแดงนปช.เปลี่ยนประเทศเป็น “แดงทั้งแผ่นดิน” ทักษิณสถาปนาโน่นแล้ว

ก็เรื่อยมา แต่ครั้งนางคริสตี เคนนีย์ เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำไทย ใต้ดิน-บนดิน เห็นอยู่ สถานทูตกลายเป็นศูนย์บัญชาการขบวนการแดงระบอบทักษิณ รู้กันทั้งโลก

ยามใด ประเทศอยู่ใต้บริหารระบอบทักษิณ เอ็นจีโอ นักวิชาการ อาจารย์มหา’ลัย นักศึกษา กลุ่มมวลชน
เรียบ เป็นผ้าเช็ดตีน ทำเนียบ!

ไม่มีประท้วง ไม่มีเคลื่อนไหว ไม่มีเรียกร้อง ไม่มีตะโกนหาประชาธิปไตย ไม่มีเป็นไท-เป็นทาส

เพราะอะไร?

เพราะ วิน-วิน พุงอืด “สมประโยชน์” ทุกฝ่าย ได้ก็แบ่งปัน ฟันไม่เคยขาดฟาง

ขนาดโกงจำนำข้าวไป ๖-๗ แสนล้าน ตอนนี้ รัฐบาลต้องตามใช้หนี้ ๕ แสนล้าน ยาวนาน ๑๖ ปี
เฉพาะดอกเบี้ย ยังต้องปีละ ๓ หมื่นกว่าล้าน แต่ไม่มีหมาประชาธิปไตยซักตัวหอน!

พอรัฐบาลต่างพวกเข้ามาตัดผุ ฟื้นฟูสภาพประเทศที่กินกันจนผุใกล้พัง
โอ้โฮ…รักชาติ รักประชาธิปไตย โหยหาเสรี-ภาพ-เสมอภาค-ภราดร-ภาพ ต้องล่มชาติ-ล่มสถาบัน จึงจะเป็นไท
ถุย…ไอ้สัส!

เอาหละ….
ที่เห็นรัฐบาล หน่วยงานทางความมั่นคงต่างๆ เขานิ่ง ขณะทาสไอ้กันออกมาเริงเมืองตอนนี้

ไม่ใช่นิ่ง เพราะเขารู้ไม่ทัน

แต่จากประสบการณ์ เขารู้ว่า เสือหรือแมว เวลาตะปบหนู มันจะหมอบ สงบนิ่ง ตาจ้องหนูที่จั๊ดจ๊าดอยู่ตรงหน้า จะไม่เต้นระบำตามหนู
ได้จังหวะนั่นแหละ เขาจะ “โจนตะปบ”!

ฉะนั้น เพนกวินก็ดี นายไมค์ก็ดี นางเอกดอกท้ออีก ๒-๓ ดอกที่เหมือนสำลีพองน้ำนั่นก็ดี

วันนี้ซ่า คิดเผื่อวันข้างหน้า ที่ต้องเซ่อไว้ด้วย!
เห็นทำอะไรกัน บางทีก็สมเพชในทุเรศ

แหกปากร้องหาประชาธิปไตย จะปลดแอก จะเป็นไทไม่เป็นทาส

แต่โปสเตอร์ประชาธิปไตย กลับลอกแบบโปสเตอร์คอมมูนิสต์สมัย “ประธานเหมา” มาทั้งดุ้น

รูปเพนกวิน สาวรุ้ง ใครต่อใคร รวมทั้ง ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ ในชุดคอมฯ เท่ จนหมาลืมหอน

โดมธรรมศาสตร์ …..
กลายเป็นโดมแดง “สัญลักษณ์” อยู่ในโปสเตอร์ขบวนการล่มชาติ-ล่มสถาบัน อร้าอร่าม!

ขบวนการแก๊งนี้ “สับสนทางเพศ” ก็ว่าเหลือทุเรศพอแล้ว แต่นี่ยังมาสับสนเรื่อง “ระบบ-ระบอบ”เข้าไปอีก

-โหยหาประชาธิปไตย ดันประกาศตัวเป็นคอมมูนิสต์
-จะปลดแอก ดันคาบฟาง เทียมไถ-เทียมแอก ซะโก้
-บอกจะเป็นไท ไม่เป็นทาส …..

แต่ทั้งตัวใหญ่-ตัวเล็ก ล้วนคลานไปซบตีนไอ้กัน รับแผนมาล้มบ้าน-ล้มเมือง!

ประเด็นยอมให้ใช้ธรรมศาสตร์เป็นเวที “พูดถึงสถาบันแบบเบิ้มๆ”

“รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร” อดีตรองอธิการบดีธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซเมื่อวาน ขออนุญาต “เก็บความ” มาให้อ่านกัน ดังนี้

“อีก 10 วัน จะถึงวันที่กลุ่มประชาชนปลดแอก ประกาศว่าจะจัดการชุมนุมใหญ่ ที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ขณะเดียวกัน ธรรมศาสตร์ ได้รับบทเรียนมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อชุมนุม 10 สิงหา. ที่ลานพญานาค ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ครั้งนี้ จึงมีการเตรียมการวางเกณฑ์การอนุญาตให้มีการจัดชุมนุมทางการเมือง ในพื้นที่ธรรมศาสตร์ โดยออกเป็นประกาศที่อธิการบดีลงนาม และผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย
ประกาศ ลงวันที่ 3 กันยา.63 สาระสำคัญ คือ

ผู้จัด ต้องเป็นกลุ่มกิจกรรมที่สังกัดมหาวิทยาลัย หรือคณะหรือเป็นกลุ่มกิจกรรมที่จัดตั้งขึ้นถูกต้องตามข้อบังคับว่าด้วยกิจกรรมนักศึกษาธรรมศาสตร์
หากเป็นกลุ่มอิสระ, กลุ่มเฉพาะกิจ พูดอีกอย่างหนึ่งคือกลุ่ม “เถื่อน” ที่ไม่มีกฎหมายรองรับ การขออนุญาต ต้องมีอาจารย์ที่ปรึกษาลงนามรับรอง


เกณฑ์สำคัญคือ ให้ผู้จัด, ตำรวจ, หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบและมหาวิทยาลัย ทำข้อตกลงร่วมกัน 3 ฝ่าย
นับว่าธรรมศาสตร์วางเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้สถานที่ได้รัดกุมพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามฝากท่านอธิการบดีธรรมศาสตร์ เพื่อพิจารณา

1. แกนนำประกาศว่า จะจัดการชุมนุมธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ก่อนมหาวิทยาลัยจะมีประกาศเรื่องเกณฑ์การขออนุญาตดังกล่าวข้างต้น
แสดงว่า ผู้จัดยังไม่ได้ยื่นหนังสือขออนุญาตใช้สถานที่ต่อมหาวิทยาลัย ณ วันประกาศต่อสาธารณะ

ในขณะที่ ชุมนุม 10 สิงหา.สร้างปัญหามากมาย การประกาศจะชุมนุม ก่อนมหาวิทยาลัยจะอนุญาต เป็นการไม่ให้เกียรติและไม่ยี่หระต่อมหาวิทยาลัย ใช่หรือไม่?

2. หากขออนุญาตในนามกลุ่มกิจกรรม “เถื่อน” ซึ่งปกติจะไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นทางการ เช่นนั้นแล้ว ใครบ้างที่จะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่มหาวิทยาลัยยอมรับให้ลงนามรับรองได้?


3.ต้องไม่ลืม แม้ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” จะไม่ต้องการให้บังคับใช้ มาตรา 112 แต่ยังไม่ได้มีการยกเลิกกฎหมายมาตรานี้ ดังนั้น กฎหมายมาตรานี้ยังมีอยู่

คำถามคือ หากผู้จัดระบุว่า เนื้อหาปราศรัยพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ มหาวิทยาลัยยังจะอนุญาตให้ใช้พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยหรือไม่?

4. หากระบุว่า ไม่พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือระบุว่า จะมีการพาดพิงแต่จะไม่มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
แต่เมื่อขึ้นเวทีจริงๆ กลับมีคำพูดที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างชัดเจน หากเป็นเช่นนี้ แล้วมาตรการที่เหมาะสมคืออะไร?
ธรรมศาสตร์จะรับผิดชอบไหวหรือไม่ หรือจะบอกว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย?


ครั้งนี้ ไม่ทราบว่า ณ วันนี้ ยื่นขออนุญาตใช้พื้นที่ต่อมหาวิทยาลัยแล้วหรือไม่?

หากขออนุญาตแล้ว ไม่ว่าธรรมศาสตร์จะอนุญาตหรือไม่ น่าเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ

ไม่ว่าข้อตกลงจะเป็นอย่างไร ผู้จัดได้แสดงความมั่นใจว่า 19 กันยา.จะมีคนเข้าร่วมชุมนุมล้นหลาม และให้ข่าวว่า จะมีการ “พลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน”

และยังประกาศจะยึดสนามหลวงให้เป็นสนามของประชาชนอีกด้วย

ดังนั้น เชื่อขนมกินได้เลยว่า การพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ จะต้องมีแน่นอน เพราะนั่นคือเจตนารมณ์ของเขา

ครั้งนี้ เห็นทีท่านอธิการบดี จะต้องเตรียมตัวรับมือด้วยตนเอง แล้วละครับ.

ครับ….อยากให้ถึง ๑๙ กันยา.วันนี้-พรุ่งนี้
คืออยากเห็นธนาธรพาลูกเมียนำหน้า “ยึดสนามหลวง” น่ะ!


Written By
More from plew
ก้าวไกลไม่กล้าแตะนักโทษ – เปลว สีเงิน
คลิกฟังบทความ..⬇️ เปลว สีเงิน น่าเห็นใจ “ไหม-ศิริกัญญา” เธอนะ องุ่นที่เคยปลิดกินในมื้อ “ดินเนอร์ทอล์ค” หารือตั้งรัฐบาล “ก้าวไกล-เพื่อไทย” พิธาเป็นนายกฯ ที่...
Read More
0 replies on ““บิ๊กเซอร์ไพรส์เบิ้มๆ” ของทาส”