แอ่งในรอยเท้า “อดีตไทย”

ช่วงนี้…….
เป็นช่วง “โหมโรง” เรียกคนดู
ช่วงเผด็จศึก “ไล่รัฐบาล-ล้มสถาบัน” จริงๆ ตามแผนงานของ “คณะสามสัส” เจ้าภาพ
โน่น……
ตั้งแต่เดือนกันยาเรื่อยไป
เขากะว่า ด้วยแสนยานุภาพขาสั้น-คอซอง และนิสิต-นักศึกษา ที่วางตำแหน่งไว้เป็นทัพหน้า มวลชนแดงอมส้มสมทบเป็นทัพหนุน
ภายใต้การบัญชาการรบสามสัสและคณาจารย์
จะ “เช็คบิลรัฐบาล” ได้ ภายในเดือนพฤศจิกา!

หมายความว่า ราวๆเดือนพฤศจิกา พลเอกประยุทธ์ต้องพ่ายแพ้ “ถอดใจ” ไม่ยุบสภาก็ลาออก เพราะทนแรงบีบมวลชนโบขาวไม่ไหว

ทำไมต้องดีเดย์ เดือนกันยา และทำไมคิดว่า นายกฯจะถอดนวมทิ้งในเดือนพฤศจิกา?

อ๋อ…..
ก็ “หมอดู” เขาว่างั้น!
บางสำนักถึงขั้นรับประกัน “ฉีกตำราทิ้ง” เพราะเขาเชื่อมุมดาวราหู ดาวเสาร์ ดาวอังคาร ว่า ระยะนั้น มันสัมพันธ์บีบแรง-เล็งแรง

นี่ผมเข้าใจเอานะ อาจไม่ใช่ เป็นเพียงบังเอิญตรงกันก็ได้ เหมือนอย่าง ๒๔-๒๕ สิงหา ที่จะถึง นายกฯ ยกครม.ไปประชุมสัญจร ที่ระยอง
ก็บังเอิญ นายธนาธร คณะก้าวหน้า มีกิจกรรมมวลชนการเมือง ต้องลงไประยองด้วยเหมือนกัน ตัดหน้านายกฯ ๑ วัน!

ครับ…ก็สนุก น่าลุ้นดี
โดยเฉพาะเรื่องดีเดย์ “เช็คบิล” นายกฯ ก็อยากพิสูจน์เหมือนกันว่า ดาวเหนือนายกฯ หรือนายกฯ เป็นคนเหนือดาว?

วันก่อน ซินแส “ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล” ดูโหงวเฮ้งนายกฯ แล้วบอก “จะอยู่ ๒ สมัย”
ยิ่งทำให้น่าลุ้นหนักขึ้น ฝ่ายดวงดาวบอกกันยา-พศฤจิกา ช่วงวิกฤตรัฐบาล ถ้ารอดก็ไปโลด ถ้าไม่รอด ก็ร่วงผล็อย ฝ่ายโหงวเฮ้งบอก “จะอยู่สองสมัย”

แต่ฝ่ายสามสัสและคณาจารย์ใต้อาณัติเนดมั่นใจ ด้วยรุ่นใหม่ ๓ นิ้ว-โบขาว เอานายกฯ ตกเก้าอี้ และ “ยึดประเทศ” ได้แน่!
เชื่อแบบไหน เลือกเอา ส่วนผมเชื่อกรรม คือการกระทำ ใครทำดี -ผลดีสนอง, ใครทำเลว-ผลร้ายสนอง
กับเชื่อ “องค์พระสยามฯ”
เทพผู้ปกปักพิทักษ์เมือง “คนดีอยู่ได้ คนร้ายต้องมลายสูญ”

“ช้า-เร็ว” ขึ้นอยู่กับบุญกรรมแต่ละคนเป็นตัวกำหนด แต่ที่แน่ๆ “เป็นเช่นนั้น” แน่!

ก็เก็บมาเล่าสู่กันฟัง ให้ฟัง…ไม่ใช่ให้เชื่อ ถ้าใครอยากเชื่อ ก็เชื่อได้ประเด็นเดียว คือ

ขณะนี้……
ประเทศไทยตกอยู่ใต้ “ใบสั่ง” เปลี่ยนระบบ-ล้มสถาบันจากจักรววรรดินิยมตะวันตก “สหรัฐ-ยุโรป” ผ่านขบวนการชังชาติ ชนิดเข้มข้น!

ไทยต้องอยู่ด้วย “ความเป็นไทย” บนลำแข้งตัวเองให้มากที่สุด ไกล-ตะวันตก ก็ไม่จริงใจ, ใกล้-บูรพา ประโยชน์เขาก็มาก่อน

ถ้าใครเคยอ่านเอกสารบันทึก, วิเคราะห์เหตุการณ์เมืองไทย ที่ทูตสหรัฐ, อังกฤษในไทย “แต่ละสมัย” เขียนรายงานส่งกลับไปให้กระทรวงต่างประเทศของเขา เมื่อ ๕๐ กว่าปีก่อน

จะทราบว่า……
ท้ายยุคอำนาจ “คณะราษฏร” ครองประเทศ “จอมพลป.พิบูลสงคราม” เป็นนายกฯ

จนถึง พศ.๒๕๐๐ หมดยุคคณะราษฏร สู่ยุค “รัฐบาลทหาร” โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นับจากนั้น จนถึง ๖ ตุลา ๑๙

-การทำรัฐประหารทุกครั้ง
-ผู้ขึ้นมาเป็นนายกฯ ทุกคน

ต้องผ่านการรับรู้และการเห็นชอบจากสหรัฐฯ ก่อนทั้งนั้น พูดตรงๆ การเปลี่ยนรัฐบาล-เปลี่ยนนายกฯ ยุคนั้น
ต้องอเมริกัน Approve ไม่งั้น ทำไม่ได้ ถึงทำได้ ก็อยู่ไม่ได้!

เลย ๕๐ ปีไปแล้ว เขาโล๊ะทิ้ง ………
ถ้าใครซื้อกล้วยแขกแล้วได้ถุงกระดาษจากเอกสารเหล่านั้น ถือว่าโชคดี ได้ถุงกล้วยแขกเป็นครูสอนประวัติศาสตร์ ที่หาอ่านไม่ได้จากที่อื่นๆ!

ที่นำมาเล่า ก็เพียงจะบอกว่า ประเทศไทยเปลี่ยนจากสังคมเกษตร มาเป็นสังคมอุตสาหกรรมเครื่องจักร และต้องตกอยู่ใน “กับดัก” ระบบทุนตะวันตก

จากไม่เป็นหนี้ ในน้ำมีปลา-ในนามีข้าว บ้านเมืองของเรา แผ่นดินสมบูรณ์ ก็ต้องเป็นหนี้
เพราะสหรัฐฯ ถือโอกาสตอนจอมพลสฤษดิ์ป่วย เอาตัวไปนอนรักษาที่โรงพยาบาลทหารวอเตอร์รีด

แล้วเกาะข้างเตียงกล่อมจอมพลสฤษดิ์ ให้เปลี่ยนประเทศจากเกษตรไปเป็นอุตสาหกรรมเครื่องจักร

กลับมา…..
จอมพลสฤษดิ์กลายเป็น “เด็กดี” ของไอ้กัน แก้กฎหมาย-ออกกฎหมาย เปลี่ยนประเทศจากสังคมเกษตร รองรับการเป็นประเทศอุตสาหกรรมเครื่องจักรทันที

แล้ว USAID ปีศาจในคราบนักบุญก็เข้ามาตามแผนไทยก็คลานเข้ากับดักระบบทุน กู้ “เวิลด์แบงก์” ที่อ้าปากรอตามสเต็ปเขา
ไทยติดกับดักหนี้ ต้องเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทไอ้กัน ก็ถึงขั้นยุคสงครามเวียดนาม จอมพลถนอมประกาศ “รบนอกบ้าน ดีกว่ารบในบ้าน”

“ฐานทัพสหรัฐฯ” เป็นดอกเห็ดทั่วประเทศ ไปทางไหน เจอแต่ป้าย USAID เหนือ ๒ มือประสาน
สหรัฐฯ เรียกไทยเป็น “ประเทศมหามิตร”!
จนสหรัฐฯ สิ้นประโยชน์ อินโดแปซิฟิกไม่มีอะไรที่สหรัฐฯ ต้องอินัง หลังแพ้ราบคาบในสงครามเวียตฝดนาม จึงถอยออกไปจากภูมิภาคนี้

ขนาดไทยยกประเทศให้เป็นฐานทัพ ตอนไทยเจอพิษต้มยำกุ้งปี ๒๕๔๐ ไปขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ
เขาบอกว่าไงรู้มั้ย……..

บิล คลินตัน ประธานาธิบดีตอนนั้น บอกรัฐสภาเขาว่า ไทยไกลจากสหรัฐฯ ไม่ต้องช่วยมัน ไปช่วยเม็กซิโกดีกว่า

นี่ไง เนื้อแท้มหามิตร
นอกจากไม่ช่วย ยังหลิ่วตาให้ IMF บีบไทยต้องเขียนสัญญา “จำนองประเทศ” แลกเงินกู้ก้อนหนึ่ง!

ช่วงทักษิณครองอำนาจ ไทย-สหรัฐ สมประโยชน์กันลงตัวทุกอย่าง ยิ่งตอนยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ กับประธานาธิบดีโอบามา ประโยชน์แทบจะเกยทับซ้อน ซี๊ดซ๊าดกระฉ่อนโลก

จากนั้น อะไรที่ไอ้กันชี้นิ้วสั่งเอาจากไทยได้ ก็ไม่ได้-ไม่คล่องเหมือนเดิม บวกกับจีนผงาดขึ้นมา สหรัฐฯ ที่ทิ้งแปซิฟิก จึงต้องหวนกลับมาอีกครั้ง

ก่อนที่จีนจะ “กินรวบ” ทะเลจีนใต้!

เมื่อต้องยันกับจีน และคงอำนาจในทะเลจีนใต้ ที่ไหนจะเหมาะใช้เป็นฐานตั้งองค์กฐิน เห็นจะไม่มี เท่าที่ประเทศไทย

แต่ยุคพลเอกประยุทธ์ ไม่ง่ายเหมือนยุคระบอบทักษิณครองเมืองซะแล้ว

ตอนนี้ ก็ถึงเวลา…..
เครือข่ายซีไอเอ ทั้งองค์กรเครื่องมือ เช่น แอมนาสตี้ ฮิวแมนไรต์ฯ ยูเอ็น องค์กรช่วยเหลือทางสังคม-การศึกษาบังหน้า เอ็นจีโอ สถาบันศึกษา และการเมืองบางพรรค
ต้อง “สนองคุณน้ำข้าว”

ช่วยกันกำจัด “นายกฯประยุทธ์” ออกไป “ล้มสถาบัน” ไปด้วยได้ยิ่งดี

เพราะตราบที่ นายกฯ ประยุทธ์ และมีสถาบันอยู่ สหรัฐฯ ครอบงำไทยได้ยาก มีแต่ต้องเอาพลเอกประยุทธ์และสถาบันพ้นไปเท่านั้น

การเปลี่ยน “ราชอาณาจักรไทย” ไปเป็น “สาธารณรัฐประชาธิปไตย” ระบบประธานาธิบดี จึงจะเกิดขึ้นได้

และไทยจะเป็นฐานสหรัฐฯ ถาวร เหมือนสิงคโปร์และอีกหลายๆ ประเทศเป็น
เช่น ตอนนี้ “ไต้หวัน” ก็ระริก-ระเร่า …..
ไม่เป็นจีนแล้ว จะไปเป็นอเมริกันไต้หวันแทน!

มันเป็นเทรนด์กำลังมา กุมารใหม่ฮ่องกง ก็พยายามจะเป็น “อเมริกัน ฮ่องกง”

ทั้งสหรัฐ-อังกฤษ อ้าขาหลอกล่อยิกๆ ให้ตี๋เล็ก-ตี๋ใหญ่รีบเผาบ้าน-เผาเมือง จะชักธง Stars and Stripes หรือธง Union Jack ขึ้นแทนธง ชงโคห้ากลีบ ก็เลือกเอาตามชอบ

ยุคคอมมิวนิสต์ ลาว, เขมร, ญวน ไปหมด โลกบอกว่าไทยเป็นโดมิโนตัวสุดท้าย ยังไงก็ต้องล้ม
เอาเข้าจริง ไทยไม่ล้ม!

นี่เหมือนกัน เขาก็มองกันว่า ขนาดฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ยังเสร็จไอ้กัน
แล้วไทยจะไม่เสร็จไงไหว ในเมื่อไอ้กันจะเอา!?

เสร็จ-ไม่เสร็จ ก็ลองดู กะ ๓ เดือน “กันยา-พฤศจิกา” ใช้แสนยานุภาพ ๓ นิ้ว โบขาว เผด็จศึกมิใช่หรือ?

วิกฤต “ต้มยำกุ้ง” ปี ๔๐ เป็นบทเรียน ทำให้ระบบการเงินไทยปี ๖๓ แข็งแกร่งในปฐพี ด้วยระบบ “ทุนสำรอง”

ขณะที่ระบบการเงินแต่ละประเทศในโลก หาจุดเสถียรแทบไม่ได้

และนี่ ด้วยวิกฤต “โควิด-๑๙” ทำให้โลก (แทบ) ตัดขาดจากกันด้านเศรษฐกิจการค้า ไปอยู่ในยุค “ต่างคน-ต่างอยู่”


เมื่อการส่งออก, การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเศรษฐกิจพึ่งพาคนอื่นพัง ประเทศเราก็แทบพัง จนเกิดปฏิกริยาสนองจนตางๆ นานา

นี่….
นายกฯต้องใช้เป็น “บทเรียน” รีบแก้ไขสู่ทางอนาคต เหมือนต้มยำกุ้งสอนให้เรารอดวิกฤติทางระบบเงินวันนี้

ต้องรีบนำ “เศรษฐกิจพอเพียง” มาใช้เป็นเสาเข็มฐานราก เพื่อประกันวันข้างหน้า
มีวิกฤติอะไรมา ประเทศไทย-คนไทย ก็มีกิน-มีใช้ ไม่แร้นแค้น-แสนเข็ญ เหมือนตอนนี้!
คุยมากไป ไม่ถูกใจก็ “ขออภัย” ละกัน!

เพิ่มช่องทางรับข่าวสารได้ที่ LineID:plewseengern.com หรือสแกน QR Code

Written By
More from plew
๒๕๖๓ คณาจารย์ร่านเมือง
วันก่อน…….. “เพนกวิน” โพสต์ พวกเราไม่ใช่ “เด็ก” ของใคร หมายถึงที่ปลุกระดม “ล้มเจ้า” ไม่มีใครอยู่เบื้องหน้า-เบื้องหลัง พวกเขาคิดกันเอง-ทำกันเอง ว่างั้น!
Read More
0 replies on “แอ่งในรอยเท้า “อดีตไทย””