อยากรู้ใช่มั้ย ว่าจะปรับครม.เมื่อไหร่?
วันนี้ มีคำตอบ…….
คำตอบไม่ได้มาจากนายกฯ หากแต่มาจากไทม์ไลน์สภา ว่าด้วยการจัดทำงบประมาณแผ่นดิน ปี ๒๕๖๔
ถ้าจะปรับ
ช่วงนั้น ความ “สมเหตุ-สมผล” ลงตัวที่สุด!
การพิจารณางบฯปี ๖๔ ยอดรวม ๓.๓ ล้านล้าน ตามที่รัฐบาล-ค้านตกลงเวลากัน น่าจะโหวตรับหลักการวาระแรกไปเมื่อคืน(๓ กค.๖๔)
ขั้นตอนต่อจากนี้
ตั้งคณะกรรมาธิการฯ ๗๒ คน เพื่อพิจารณาและแปรญัตติภายใน ๓๐ วัน สู่วาระ ๒ และ ๓
ต้องให้เสร็จก่อน ๑๐๕ วันตามเงื่อนไขกฎหมาย
คือก่อน วันที่ ๒๘ กันยายน พรบ.งบปี ๖๔ ต้องจบในชั้นสภาผู้แทน และส่งเข้าสู่สภากลั่นกรอง คือวุฒิสภา
จากนั้น นำขึ้นทูลเกล้าฯ…..
เพื่อทรงมีพระราชวินิจฉัยและทรงลงพระปรมาภิไธย ประกาศใช้ต่อไป
สรุป “กรกฏา-สิงหา-กันยา” เรื่องปรับครม. “ยังไม่ต้องพูดถึง”!
ทีมสมคิด “อุตตม-สนธิรัตน์-สุวิทย์-กอบศักดิ์” อยู่หรือไป ยังไม่ต้องถามถึง ในเมื่อยังไม่มีการปรับ “๔ กุมาร” ก็ยังคงเดิม
ไตรมาส ๔ “ตุลา.” นั่นแหละ
“พรรคหลัก-พรรคร่วม” ที่กลั้นอยากมานาน คงถึงคราวปลดปล่อย ตั้งรัฐบาลเป็นทีม A ทีม B ขนาดนั้น ก็ไม่แน่ใจจะ “ครบอยาก-ครบคน” หรือไม่?
เอาเป็นว่า ราวๆ ตุลา. ถ้าปรับครม. จริง
แล้วทีมสมคิด “ยังอยู่” หรือ “ต้องไป” นี่เป็นคำถามสุดท้าย ที่ต้องร่อนตะแกรงหาคำตอบ
เชื่อว่าคนที่ประกาศ “ใครจะเสนอใครมาก็ได้ แต่การตัดสินใจอยู่ที่ผม” คนนั้น มีความคิดสำเร็จรูปอยู่ในใจแล้ว
“ลุงป้อม”………
หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ “ก็คง” แล้วแต่ตู่” ตั้งนานแล้วด้วย!
ลองมาร่วมคิดกันเล่นๆ ก็ได้ ในประเด็น “ทีมสมคิด” ยังอยู่หรือต้องไป?
กุญแจไขคำตอบ อยู่ตรง “โควิด” สร้างยุค New Normal!
เราจะเห็นว่า ตั้งแต่ต้นปีเรื่อยมา โควิดเหมือนกองทัพยกมาโจมตีประเทศ “อาจารย์แพทย์” ทำหน้าที่ทัพหลวงออกบัญชาการรบ
เมื่อศึกประชิดเมือง ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าทำมาหากินไม่ได้
ท่านรองฯ สมคิดและรัฐมนตรีอุตตม รับคำสั่งนายกฯ ทำหน้าที่ด้านพลาธิการ จัดหาเสบียงกรัง
ส่วนเฉพาะหน้า …….
ต้องบริหาร “ยึดประชาชนทุกสาขาอาชีพเป็นที่ตั้ง” ในภาวะไม่เป็นอันได้ทำกิน “ทีมสมคิด” ต้องทำให้ประเทศไม่วิกฤตทางเศรษฐกิจและการคลัง
และ “เงิน” จะต้องหมุนไปสู่กระเป๋าประชาชนทุกคน-ทุกสาขาอาชีพ พอปะทะ-ปะทังกันไป เพื่อหมุนเฟืองเศรษฐกิจ-การค้า ไม่ให้ขาดลมหายใจ
และจากปัจจุบันสู่อนาคต…….
สถานการณ์โควิด เปลี่ยนโลก เปลี่ยนโครงสร้าง “วิถีชีวิต-เศรษฐกิจ-การค้า-การลงทุน” ไปทั้งหมดแล้ว
ซึ่งนั่น สำคัญนัก!
เป็นหน้าที่สมคิด “ผู้บัญชาการทัพเศรษฐกิจ” และอุตตม “ขุนคลัง” ต้อง “กำหนดทิศ-กำหนดทุน” รองรับสังคมใหม่
เป็นภารกิจ “เป็น-ตาย” ที่ผู้บัญชาการใหญ่ประเทศ คือนายกฯมอบหมาย ห้ามพลาด
ต้องนำประเทศแลนดิ้งลงสนาม New Normal ให้รอดและปลอดภัย เป็นปัจจุบันเชื่อมต่ออนาคต เป็นไทยยุคใหม่
ไทยยุค “Big Data”!
สังคมโลกต่อจากนี้ไป กลไกระบบดิจิทัลจะเป็นตัวขับเคลื่อน “วิถีชีวิต-เศรษฐกิจ-การสังคม” ของมนุษย์ทั้งโลก
เราไม่ไป …….
ก็หมายความว่า พอใจคืนประเทศสู่มิติหลังเขา
แต่เรายังต้องการอยู่ร่วมสังคมโลก ดังนั้น จำเป็นต้องหมุนตามโลกไปกับเขา
บางคนอาจถาม ไหน…Big Data อะไรที่ว่านั่น?
ขอถามว่า……
ท่านมีบัตรสวัสดิการประชารัฐ ที่เรียก “บัตรคนจน” กันหรือเปล่า ท่านลงชื่อรับเงิน ชิม-ช้อป-ใช้ แอป “เป๋าตังค์-เป๋าตุง” กันหรือเปล่า?
ท่านมีบัตรประกันสังคมหรือเปล่า ท่านเป็นคนพิการ ท่านเป็นผู้สูงอายุ, คนชรา แม่เลี้ยงเดี่ยว หรือเปล่า?
ท่านรับเงินคนละ ๕ พัน ๓ พัน และสารพัด-สารพันแจกจากรัฐบาลกันหรือเปล่า?
ท่านใช้แอป “ไทยชนะ” กันหรือเปล่า ท่านเป็นเกษตรกรกันหรือเปล่า ท่านเป็นผู้ว่างงานกันหรือเปล่า?
นี่ ตอนนี้ เห็นว่าจะแจกเงินให้เที่ยวกันอีกมิใช่หรือ?
นั่นคือ คนไทย ๗๐ ล้าน เวลานี้ ……….
ขณะนี้ กว่า ๔๐-๕๐ ล้านคน ท่านเป็นมนุษย์สังคม Big Data สู่ยุค New Normal กันแล้วโดยไม่รู้ตัว!
ไม่ว่า พ่อเฒ่า แม่แก่ ลุง ป้า น้า อา เด็กเล็ก เด็กใหญ่ จะเป็น เศรษฐี ยาจก วณิพก ขอทาน
ที่ร้องกันว่า ทำไม่เป็น ไม่รู้เรื่อง วานลูกหลานกรอกข้อมูล ทำบัตร ทำแอป ต่างๆนานาเหล่านั้น
ที่กรอกๆ กันไป ……….
ข้อมูลที่กรอก มันไปรวมอยู่ในฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่เรียก Big Data เรียบร้อยหมดแล้ว
รองฯ สมคิด ขุนคลังอุตตม และกระทรวงต่างๆ อีก ๔-๕ กระทรวง ค่อยๆ ทดลองระบบผ่านโครงการต่างๆ ตามเห็นในรอบ ๒-๓ ปีที่ผ่านมา
และตอนนี้ เริ่มเข้าที่ จนไทยเราจะใช้เงินดิจิทัลแทนเงินกระดาษกันอีกไม่นานจากนี้
ต่อไป ยุค New Normal ใช้บัตร ใช้แอปเป๋าตังค์แทนเงินสด จะซื้ออะไร แค่แตะ แค่ยกมือถือจ๊ะเอ๋กัน เสร็จแล้ว
หรือจะไปติดต่อราชการ ไม่ต้องไปซีรอกซ์ ไม่ต้องหอบเอกสาร-สำเนา ไปเป็นปึกๆ
แค่บัตรใบเดียว เกี่ยวกับตัวเรา พรวดออกมาหมด!
Big Data คือระบบฐานข้อมูลจากเลขประจำตัว ๑๓ หลักนั่นแหละ
แล้วรัฐบาลแอบไปล้วงประวัติส่วนตัวอันเป็นข้อมูลตัวเราตั้งแต่เมื่อไหร่ ………..
ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนะเนี่ย?
อย่างนี้ต้องให้ปิยบุตรพาไปร้องสภากงว็องซียง ของแซ็ง-ฌุสต์ ที่ฝรั่งเศสซะละมั้ง?
เปล่าหรอก รัฐบาลไม่ได้แอบล้วง
หากแต่พวกเราที่มีบัตร มีแอป รับเงิน สมัครรับแพ็กเกจต่างๆ เต็มใจให้ข้อมูลส่วนตัวกับรัฐบาลไปเอง
ต่อไปนี้ สมมุติ เกิดอุบัติภัย น้ำท่วม ไฟไหม้ หรืออะไรก็ตามเกี่ยวกับประชาชนที่รัฐต้องดูแลช่วยเหลือ
ด้วยฐานข้อมูล Big Data “รัฐ-ประชาชน” ถึงตัวกันโดยตรง ปัญหาซ้ำซ้อนต่างๆ จะหมดไป
คร่าวๆ นี่ เป็นโครงงานปัจจุบัน ที่จะเปลี่ยนอนาคตประเทศ ทั้งหลายนี้ เป็นภารกิจ กำลังพัฒนาต่อเนื่อง
แล้วตอบกันซิ ถ้าปรับครม.ให้รองฯ สมคิด รัฐมนตรีอุตตม ออกไป
โลกไม่แตกหรอก……….
แต่ภารกิจอันเป็นโครงสร้างหลักทางเศรษฐกิจ-การคลัง ที่สัมพันธ์ถึงฐานรากประชาชน ที่กำลังเดินๆ อยู่
ไม่สะดุด จนพาที่ลงทุนทำมาทั้งหมดพังไปหรือ?
นี่ยังไม่พูดถึง อีอีซี โครงการชี้ชะตาอนาคตประเทศ จริงอยู่ สมคิดไป คนอื่นก็ทำต่อได้
แต่กับงานที่ค้างคา คนกำลังทำอยู่ต้องไป คิดหรือว่า คนเข้ามาใหม่ จะเข้าใจแล้วสานต่อเดินหน้าได้ทันที-ทันใด?
และคิดหรือ คนมาใหม่ จะไม่เปลี่ยนเป้าเจตนา และยักเยื้องรายทางโครงการ จนลำไม้ไผ่กลายเป็นบ้องกัญชา?
ยิ่งยุบสภา “เลือกตั้งใหม่”
ผมว่า ที่กำลังทำทั้งหมด “ฉิบหาย” ทันที ด้านเชื่อมั่นนักลงทุน
เวลา ๕-๖ ปี กับเงินมหาศาลเพื่อก่อร่างสร้างอนาคตชาติ-ประชาชน หายวับไปกับการเมืองเรื่องแย่งเก้าอี้ระบบสภา
เพราะช่วงรอยต่อโควิดซึ่งยังหาจุดสะเด็ดน้ำไม่ได้นี้ ถ้าเลือกตั้งใหม่ กว่าจะได้รัฐบาลมาบริหาร
เร็วที่สุด ก็ไม่หนี ๖ เดือน
ถามว่า ๖ เดือนช่วง “รัฐบาลรักษาการ” กับสถานการณ์โควิดจริง เหมือนศัตรูที่ยังล้อมกรุงอยู่
จะทำไง?……
ในเมื่อรัฐบาลรักษาการ “สั่งสู้-สั่งถอย” อะไรไม่ได้ทั้งนั้น เพราะไม่มีอำนาจทางนโยบาย
นี่คือโจทย์ ปรับครม. “ปรับได้” แต่ปรับเอา “สมคิด-อุตตมออก” มันยาก ในทาง “งาน” ของประเทศ
ยิ่ง “ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่”……….
โควิดไปสนิทเมื่อไหร่ นั่นแหละค่อยว่ากัน.
LineID:plewseengern.com