“คนรุ่นใหม่” ไปแนวหน้า #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

เหมือนเสี้ยนที่ตำคาใจตั้งแต่ ๒๘ กรกฏา.ได้รับการบ่ง

เมื่อเพจ “Army Military Force”

แพร่วิดีโอคลิปเมื่อวาน (๑๕ ธ.ค.๖๘) พร้อมข้อความว่า

“ด่วน!! ทหารไทยยึดคืน “ปราสาทตาควาย” สำเร็จแล้ว พร้อมอัญเชิญ “ธงชาติไทย” ขึ้นเหนือตาควาย เป้าหมายต่อไปคือ ยึดเนิน ๓๕๐”

นี่มิใช่แค่ศักดิ์ศรีกองทัพไทยเท่านั้น แต่มันคือการประกาศ “ศักดานุภาพ” ของทหารไทยให้ชาวโลกได้รู้ว่า…ไทยนั้น รักสงบ

แต่ถ้าใครคิดจะรบกับไทยละก็

ต้องเอาหม้อดินผูกคอรอให้ญาติมาเก็บกระดูกกลับไปด้วย!

“Bangkok I Love You” โพสต์ข้อความแทนใจคนไทยว่า

ชัยชนะที่ “ปราสาทตาควาย” คือศักดิ์ศรีของชาติ

กราบคารวะวีรชนผู้กล้า เลือดทุกหยดที่หลั่งเพื่อผืนแผ่นดินไทย

ใต้เงาผาหินเก่าแก่ เสียงลมหายใจของประวัติศาสตร์ยังคงก้องกังวาน ณ ปราสาทตาควาย

สถานที่ซึ่ง วันนี้ได้กลับคืนสู่อ้อมอกของแผ่นดินไทยอีกครั้ง ชัยชนะครั้งนี้ มิได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ

หากเกิดจาก เลือด เนื้อ และชีวิต ของทหารกล้าผู้ยืนหยัดอยู่แนวหน้า

พวกเขาไม่ใช่เพียงผู้ถืออาวุธ แต่คือ เกราะกำบังของแผ่นดิน คือผู้ยอมก้าวเข้าสู่ความมืด ความเสี่ยง และความตาย

เพื่อให้ “ธงไตรรงค์” ยังโบกสะบัด อย่างสง่างามเหนือผืนแผ่นดินไทย

เลือดทุกหยดที่หลั่งลงบนผืนหินและผืนดิน ณ ที่แห่งนี้ คือคำยืนยันอธิปไตยที่ไม่มีถ้อยคำใดหนักแน่นไปกว่านี้

การยึดคืนปราสาทตาควายสำเร็จ ไม่ได้เป็นเพียงชัยชนะทางยุทธศาสตร์

แต่คือ ชัยชนะของหัวใจไทยทั้งชาติ

เป็นบทพิสูจน์ว่าศักดิ์ศรี ความเสียสละ และความกล้าหาญ ยังดำรงอยู่ในสายเลือดทหารไทยทุกนาย ผู้ยอมวางชีวิตไว้เบื้องหน้า เพื่อให้แผ่นดินหลังบ้านยังคงสงบสุข

ขอกราบคารวะต่อทหารกล้าทุกท่าน—ทั้งผู้ที่ยังยืนหยัดอยู่ และผู้ที่จากไปอย่างสมเกียรติ

ชื่อของท่านจะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ว่าเคยมีผู้กล้ายืนหยัด ณ ตาควาย เพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนด้วยชีวิต

วันนี้ ธงชาติไทยที่ปักอยู่ ณ ปราสาทตาควาย มิได้เป็นเพียงผืนผ้า หากคือสัญลักษณ์ของ ……

ความกล้าหาญ ความสามัคคี และชัยชนะ ที่แลกมาด้วยเลือดเนื้อของลูกหลานไทย

#ตาควายเป็นของไทย

#ชัยชนะที่ตาควาย

………………………………..

เหตุการณ์ “ไทย-เขมร” หลายคนมองเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ถ้าเรามีมุมมอง สามารถหาประโยชน์จากสิ่งที่ว่าเลวร้ายนั้นได้

คนที่เรียกตัวเองว่า “คนรุ่นใหม่” และตั้งคำถามว่า “ทหารมีไว้ทำไม?” นั่นเป็นเรื่องเข้าใจได้

เพราะช่วงชีวิตที่เขาเกิด บ้านเมืองไม่เคยมีปัญหาเรื่องการรุกราน เขาจึงมองไม่เห็นความจำเป็นว่า ประเทศจะต้องมีทหารไว้ทำไม?

ต้องซื้ออาวุธ ซื้อเรือรบ-ซื้อเครื่องบินไปทำไม ใช้เรือประมงแทนก็ได้?!

จากกรณีเขมรรุกล้ำเข้ามายึดครองแผ่นดินไทย และไทยยึดคืนจนเกิดการสู้รบกันดังที่เห็น ตรงนี้ถือเป็น “ประสบการณ์” ชีวิตใหม่ ของคนรุ่นใหม่ โดยตรง

ประสบการณ์นั้น ปลุก “จิตใต้สำนึกไทย” ที่นอนนิ่งอยู่ในร่างคนรุ่นใหม่ให้คุโชน ข้อสงสัยต่างๆ ที่เคยมี…..

“ทหารมีไว้ทำไม….ซื้ออาวุธไปรบกะใคร…ต้องเกณฑ์ทหารทำไม” ข้อสงสัยเหล่านั้น “พลันกระจ่าง” ด้วยความเข้าใจ โดยไม่ต้องให้ใครอธิบาย!

ตอนนี้ เมื่อเราเปิดเฟซบุ๊ก จะเห็นหนุ่มน้อยวัย ๑๘ ปี หน้าตาใสๆ บางคนอยู่ในกลุ่ม LGBTQ บางคนหนุ่มสำอาง มีงาน มีฐานะดี เป็นดาราก็มี

แต่ไม่น่าเชื่อ….

เขาเหล่านั้น สมัครไปรบแนวหน้า โพสต์รูปตัวเองในชุดพร้อมรบมอมแมมและพร้อมเจ็บจริง-ตายจริงในสนามรบ

เขาโพสต์ข้อความเองด้วยความภาคภูมิใจว่า

“ผมสมัครมารับใช้ชาติครับ”!

เมื่อโรงพยาบาลต่างๆ ประกาศรับบริจาคเลือดเพื่อทหารหาญที่บาดเจ็บ

ผมเห็นหนุ่มสาว มหา’ลัยบ้าง นักเรียนบ้าง มาบริจาคเลือดกันชนิด “ยกมาทั้งโรงเรียน” เช่นในแถบอีสานใต้ เป็นต้น

“กองทัพ” ประกาศรับสมัคร “ทหารทางออนไลน์” ปรากฎว่า รุ่นใหม่เลือดไทยเต็มตัว สมัครกันเป็นหมื่น!

ไม่เพียง “รุ่นใหม่ชาย”

“รุ่นใหม่หญิง” ก็สมัครเป็น “ทหารหญิง” กันล้นหลาม!

วันนี้ “คนรุ่นใหม่” ส่วนใหญ่ ใช้ประสบการณ์ชีวิต พัฒนาความคิดสู่ “โลกที่เป็นจริง” ซึ่งน่าดีใจ

คนเรา ขอเพียง “รู้จักคิด” ชีวิตก็จะไม่ถูก “สถุลชนต่ำสัตว์” ลากไปสู่ที่ต่ำ

ผมเห็นยังขำปนเวทนา….

๓-๔ วัน ก่อน หลังนายกฯ อนุทินประกาศยุบสภา เห็นหัวขบวนส้ม “๗ ขุนพลว่าว” ทั้ง ธนาธร พิธา ณัฐพงษ์ ชัยธวัชวิโรจน์ และใครอีกจำชื่อไม่ได้

ไปจัดงาน “พรรคประชาชนพบประชาชน” ที่สนามหญ้า มศว ประสานมิตร

๗ ขุนพลว่าว นั่งหน้าเศร้า เพราะการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเขียนใหม่ทั้งฉบับ หวังไว้ต้อนรับการกลับเข้าสู่การเลือกตั้งของธนาธร หลังพ้นโทษ ๑๐ ปี ในปี ๒๕๗๐

“ว่าว” อีกตามเคย!

“ลุงตู่” สมัยเป็นนายกฯ ชอบพูดประจำ “ผมจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังแม้แต่คนเดียว”

เห็นงาน “พรรคประชาชนพบปะประชาชนแล้ว”

พูดได้ประโยคเดียว…..

ประชาชน ทั้งรุ่นใหม่-รุ่นเก่า “ทิ้ง ๗ ขุนพลว่าว” ไว้ข้างหลัง อย่างน่าสยดสยอง

สาวกที่เคยล้นหลาม เหลือหรอมแหรม คนเข้าคิวคอยผัดไทย “ทิพย์สมัย” ประตูผี ยังมากว่าเป็นสิบเท่า!

นี่แหละ “คนหลงทาง” ของแท้

ใต้-หาดใหญ่ น้ำท่วม คนแห่ไปช่วยกันทั้งเมือง

อีสานใต้ยันตราด ทหารไทยกับทหารเขมร เปิดศึกปะทะตลอดแนวรบ คนก็แห่ไปช่วยเป็นหน่วยส่งกำลังบำรุงทหาร ไปช่วยบริจาคเลือด

แต่พรรคประชาชน โดย ๗ ขุนพลว่าว

“กูไม่เอา-ไม่สน” อะไรทั้งนั้น กูจะแก้เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญตั้งสสร.เขียนใหม่ทั้งฉบับอย่างเดียว!

รุ่นใหม่ มีแต่พัฒนาความคิด-ความอ่านและการกระทำที่ดีขึ้น

แต่รุ่นใหม่ แบรนด์ “๗ ขุนพลว่าว” มีแต่ถอยหลังลงรู เห็นมั่นอก-มั่นใจ เลือกตั้งใหม่ ๘ กุมภา.๖๙ นี้ จะกวาดเรียบ พรรคเดียวตั้งรัฐบาล

วางตัว “ขุนพลเท้ง” เป็น “นายกฯ ว่าว” ต่อจากพิธา ก็ขอให้สมปรารถนา ได้เป็น “นายกฯ ว่าว” คู่กับ “นายกฯโพล” เทอญ!

ต้องยอมรับว่า ไทยปะทะเขมรรอบนี้ “ตึงมือ” กว่าเดิม แสดงถึงเขมรเตรียมตัวมาดี

ไม่เพียงอาวุธเพียบ ยังมี “ทหารรับจ้าง” มาเสริมทีม เป็นมือปฎิบัติการด้าน “โดรนสังหาร” เป็นการเฉพาะ!

แต่ไม่ครนามือกองทัพไทยหรอก

ตั้งเป้าไว้แล้ว “ต้องสยบกองทัพเขมรให้รายคาบ” ไม่งั้น-ไม่เลิก

ก็จะเลิกได้ไง ดู “หัวใจ” ทหารไทยเราซี!

…………………………………….

“รวมไอจีดารา”

“ผมจะไม่เป็นไรใช่ไหม”

ประโยคนั้น เหมือนหยุดโลกทั้งใบ ของทีมกู้ชีพไว้ชั่วขณะ

คำถามสั้นๆ จากพี่ทหารที่บาดเจ็บหนัก เสียงสั่นเครือ

ทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้น น้ำตาแทบไหล

ทีมกู้ชีพเล่าว่า พี่ทหารท่านหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บหนักมาก

พวกเราทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อยื้อชีวิตเขาไว้ให้ถึงมือหมอ

พี่เขาหันมาถามด้วยเสียงสั่น…….

“ผมจะไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เรามองหน้าเขา แล้วตอบทันที

“ท่านต้องรอดค่ะ ถึงหมอเราแล้ว ท่านต้องรอด”

ตลอดการรักษา พี่เขาพูดซ้ำอยู่หลายครั้ง

“ช่วยผมด้วย…ช่วยผมด้วยนะครับ”

ทุกคำพูดเหมือนขอแรง ขอความหวัง จากคนตรงหน้า

ระหว่างนำส่ง พอร่างกายเริ่มอ่อนแรง

พี่เขาถามเบา ๆ……

“ผมขอหลับได้มั้ย?”

เราจับมือพี่ไว้แน่น แล้วบอกเขาทันที

“ห้ามหลับนะคะ ใกล้ถึงแล้วค่ะ”

พี่เขานิ่งไปครู่หนึ่ง

ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้หัวใจคนฟังเต้นแรง

“งั้น…พี่คุยกับผมบ่อยๆ นะครับ”

ในวินาทีนั้น เราไม่ได้เป็นแค่คนช่วยชีวิตตามหน้าที่

แต่เป็นเหมือนเสียงเดียวที่พี่เขายึดไว้

เพื่อไม่ให้หัวใจดวงหนึ่งหลุดไปกับความกลัวและความมืด

ขอส่งกำลังใจให้พี่ทหารท่านนั้น

ขอให้หายไวๆ และผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างปลอดภัย

พี่ต้องหายแน่นอนนะคะ 🙏🏻🤍

…………………………………………….

วันนี้ ยังไม่ได้อวย “นายกฯ อนุทิน” เลย เดี๋ยวจะไม่มีประเด็นให้ขาจรเขาเมนต์ให้ศีล-ให้พร ฉะนั้น เอาซะหน่อย

เอาที่เขาโพสต์ไว้มาให้อ่านน่ะ

………………………………….

ผมชื่อ “เมษ” ครับ

โพสต์นี้ไม่ได้อวยพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อวยอนุทิน ขอยกขึ้นพานเลยมากกว่าครับ ผมไม่รู้ว่าในอนาคต ใครจะได้เป็นนายกฯ

แต่ รมว.ต่างประเทศ อยากให้ตำแหน่งนี้ “ล็อกตัว” สีหศักดิ์เป็นตำแหน่งถาวร

และ รมว.กระทรวงพาณิชย์ “ล็อกศุภจี” ไว้ถาวรได้ไหมครับ?

กว่าประเทศเราจะเจอคนเก่งๆ แบบนี้ เราล้มลุกคลุกคลานมามากจริงๆ กลัวว่า ถ้าภูมิใจไทยไม่ได้ ๒ คนนี้ ทำงานในตำแหน่งนี้

กลัวว่าพวกเราจะได้สส.และขยะกลับมาทำงานในตำแหน่งสำคัญๆอีก 🥰

………………………………….

รัตนวดี พีซากอร์ส กปปส.กองทัพนกหวีด✦✦✦✦✦

“หนึ่งภาพเกินล้านคำบรรยาย !!! ลุงอนุหนูเดินทางมาที่วัดพรหมพิทักษ์วนาราม หมู่ที่ 9 ตำบลรอบเมือง อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด

เพื่อเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ “จ่าสิบเอกศตวรรษ สุจริต” ทหารกล้าที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา

ในภาพลูกสาวคนเล็กของจ่าเพียวได้เข้าไปคุยกับลุงอนุหนูอย่างสนิทสนม พูดจาประสาเด็ก ซึ่งความเป็นเด็กหากผู้ใหญ่คนไหนมีความเมตตา อบอุ่น เด็กจะเข้าหาแบบสนิทใจ

สังเกตสายตาลุงอนุหนู ดูอบอุ่น มีความเมตตา ไม่ต้องวางฟอร์มเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องให้การ์ดมากันคน สนิทสนมกลมกลืนกับผู้คน

นายกรัฐมนตรีที่มีบุคลิกแบบนี้ ก็มีแต่ลุงตู่ที่ไม่ถือตัว เข้ากับพี่น้องประชาชนได้อย่างไม่ต้องเก็ก บางที นั่งรถผ่าน เห็นมารอต้อนรับ ยังต้องให้จอดรถลงไปพบปะพี่น้องประชาชน เพราะกลัวจะมารอเสียเวลา

ลุงอนุหนูชื่อนี้ เชื่อว่าย้อนหลังไปสักไม่นาน คงจะมีหลายคนยี้ แต่สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ

สถานการณ์บ้านเมืองในภาวะวิกฤติ ก็สร้างผู้นำที่ดี มีวิสัยทัศน์ มีการตัดสินใจที่เฉียบขาด ยึดเอาบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง

ไม่ยึดติด มองประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

เชื่อว่าในตอนนี้ ชื่อลุงอนุหนู เริ่มสะกิดใจคนไทยหลายๆ คน บางคนอาจจะรับเข้าไว้ในอ้อมใจแล้ว

บ้านเมืองเราต้องการคนเก่ง แก้ปัญหาบ้านเมืองได้ มีเชาว์ไวไหวพริบ ไม่ใช่ยึดแต่หลักการเป็นสากกะเบือ

เหมือนหัวหน้าพรรคบางพรรค ที่พยายามโชว์หล่อ บอกจะไม่ยอมยุบสภาแน่ พร้อมถูกอภิปราย

เหอะๆ พ่อคุณ ถ้าโดนอภิปรายแล้วแพ้โหวต ลงสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ รัฐบาลก็สิ้นสภาพ

ทีนี้ ใครจะรับผิดชอบ บางที จะโชว์หล่อก็คิดให้รอบด้านหน่อย พ่องงคุณ !!!…”

……………………………..

จบนะ…ผมไม่ได้อวย แค่หยิบฉวยที่เขาอวยมาใช้เท่านั้นเอง!

เปลว สีเงิน

๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from plew
ใครทน “ธรรมศาสตร์ไม่ทน?”
ต้องบอกว่า…….. “เวทีล้มเจ้า” ที่ธรรมศาสตร์ คืนวาน “จัดหนัก-จัดเต็ม” ฮือฮากันไม่จบจนถึงตอนนี้ ถือว่า “จุดติด” แล้วใช้มั้ย?
Read More
0 replies on ““คนรุ่นใหม่” ไปแนวหน้า #เปลวสีเงิน”