ถึงยุค “ตำรวจปฎิรูป” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร์”
ท่านไม่ใช่ “เพชร”
แต่ท่านและทีมงานทำให้ตำรวจและ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ที่มีภาพเป็น “รังโจร” มานาน
คืนความเป็น “เพชร”
ในทางทำงาน “พึ่งได้-หวังได้” ให้กับประชาชนอีกครั้ง

พลันท่านขึ้นเป็นผบ.ตร.ได้ลบคำว่า “ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความอยุติธรรม” ให้หายไปจากการทำงานของตำรวจ ผู้เป็น “ต้นทาง” กระบวนการทางกฎหมาย!

คดี “ดิ ไอคอน” ปะทุขึ้นไม่ถึง ๑๐ วัน
เป็นยุคอื่น เขาอาจตีป่าต้อนเสือให้มาเจรจาแบ่งเนื้อกันก่อน แต่ตำรวจยุค “ผบ.ตร.กิตติ์รัฐ”

ป่าไม่ตี เมื่อมีหลักฐานครบ ตบหน้าเสือทันที ไม่มีต่อรอง!

ทั้งโลกเขารู้ “ตำรวจไทย” ถ้าจริงใจต่อหน้าที่ “ฝีมือฉกาจ-สามารถเป็นเลิศ” ไม่เป็นสองรองใครในโลก

ดังนั้น คดี “ดิ ไอคอน” ที่ “บอสพอล” เป็นองค์ประทับ การทำคดี ใช้คำว่า “เดินหน้า” ไม่ตรงกับการทำงานของตำรวจยุคผบ.ตร.กิตติ์รัฐ

ต้องใช้คำว่า “วิ่ง” นั่นแหละ…ใช่

“พรึบพรับ-ฉับพลัน”

ทั้งบอสพอล บอสกันต์ บอสแซม และใครต่อใครอีกหลายบอส “หงายเก๋ง-แหงแก๋”

ล็อตแรก “๑๘ บอส” ไปนอนฮัมเพลง “ขยันผิดที่ คุก ๑๐ ปีเป็นอย่างต่ำ” อยู่ในตะรางกองปราบ!

ในขั้นแรก เจอข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” กับ “ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” เป็นออร์เดิร์ฟนำร่อง

เมื่อสอบปากคำผู้เสียหาย ทั้งผู้ต้องหา รวบรวมพยานหลักฐานครบแล้ว “เมนคอร์ส” จะตามมา “หนักท้อง” กว่านี้แน่

บอกได้คำเดียว รายการนี้ ตำรวจ “จัดหนัก-จัดเต็ม”!

คดีนี้ มีผู้แจ้งความแล้วนับพันราย ทั้งตามโรงพักทั่วไป และที่ “กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค-บก.ปคบ.”

ความเสียหายที่รวบรวมขณะนี้ กว่า ๖๐๐ ล้าน และพูดกันว่า เข้าข่ายต้องโอนคดีไปให้ DSI ทำ

คือ มีคำพูดให้มองกันไปในทางว่า ตำรวจกับดีเอสไอเริ่ม “แย่งคดี” กันทำ

ประเด็นนี้ “ผบ.ตร.กิตติ์รัฐ” บอกว่า….
“อย่ามองอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ดีเอสไอ สคบ.แม้กระทั่งธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง

เท่าที่ทราบ แต่ละหน่วยงาน จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าหน่วยงานตัวเองต้องทำอะไรบ้าง

ผมรู้สึกดีด้วยซ้ำไป ที่แต่ละองค์กรหรือแต่ละหน่วยงานมีหน้าที่เข้ามาช่วย”

เห็นมั้ย คนที่ทำงาน “มุ่งงาน” โดยสุจริต ไม่กลัวเรื่องใครจะมาแย่งงาน ดีซะด้วยซ้ำ ที่มีคนมาช่วยกันทำงานหลายๆด้าน

อย่างคดี “ดิ ไอคอน” ตอนนี้ จะเห็น ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง,ท้องที่,ดีเอสไอ,สคบ.,ป.ป.ง.กระทั่งทนายทั้งหลาย
ออกมาช่วยกัน ฝ่ายสอบ-สอบไป, ฝ่ายสืบ-สืบไป, ฝ่ายบุกจับ-จับไป, ฝ่ายค้น-ค้นไป, ฝ่ายอายัด-อายัดไป, ฝ่ายขุดคุ้ย-คุ้ยไป

ผมยังไม่เคยเห็นครั้งไหนที่ “องค์กรต่างๆ” ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวเนื่องกัน จะออกมาทำงานประสานกันฉับพลัน-ทันใดได้น่าปลาบปลื้มเท่าครั้งนี้

อายัดทั้งบัญชีเงินสด ทั้งที่ดิน ทั้งรถ ทั้งทรัพย์สินมีค่าจากบอสทั้งหลาย รวมๆ แล้ว น่าจะระดับกว่าพันล้านบาท!

มองภาพกว้าง ต้องบอกว่า…….
“ข้าราชการบ้านเมือง” วันนี้….ตื่นแล้วใน “สำนึกหน้าที่”

โดยเฉพาะ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” พลัน “พรบ.ตำรวจแห่งชาติ” ที่ทำสมัย “รัฐบาลประยุทธ์” ได้ใช้ ในการแต่งตั้ง-โยกย้ายตำรวจปีนี้

รูปธรรมคำว่า “ตำรวจปฎิรูป” ปรากฎให้เห็นลางๆ แล้ว!

เมื่อการเมืองเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้ง-โยกย้ายไม่ได้โดยตรงเหมือนเดิม ตำรวจเขาก็รู้ว่า ผลงานคือความงอกเงยในยศ-ในตำแหน่ง

เขาก็จะตั้งใจทำงาน
ผิดกับแต่ก่อน ส่วยไม่ส่ง ซื่อตรงหน้าที่ ๑๐ ปี ก็ดักดานอยู่แค่นั้น สู้พวกเก็บส่วยส่งนาย รับใช้สายตรง ไม่ได้
แป๊บเดียวเป็นผู้กำกับ เป็นผู้บังคับการ
อีกแป๊บ….ไปจ่อแถว ผู้ช่วย…รองผบ.ตร.ไปโน่น!

ยิ่งประเภท “งานหลวงเพื่อราษฎร์ไม่ทำ-งานระยำเพื่อโจรถนัดนัก” ตามหิ้วกระโปรงนายหญิงบ้าง เป็นบอดี้การ์ดโจรหน้าเหลี่ยมบ้าง กลับเจริญก้าวหน้า
แถมมีโควตา “แต่งตั้ง-โยกย้าย” ให้พวกได้ด้วยนะ!

ขออย่าให้มัน “ได้ผุด-ได้เกิด” ในยุคนี้นะท่านผบ.ตร.ขอให้ท่านจงเป็นต้นทางลำธารของ “ตำรวจทำงาน” ทั้งหลาย

ตำรวจ “ซื่อสัตย์-สุจริต” ต่อหน้าที่ ไม่ต้องถึง ๑๐๐%หรอก เอาซัก ๖๐-๗๐%ก็พอ ขอให้มีคุณธรรมในการใช้กฎหมายกับประชาชน

ก.ตร.-ผบ.ตร.โปรดพิจารณาให้เขาได้เจริญเติบโตในหน้าที่ตามลำดับขั้นและผลงานเถิด ก็จะเป็นกำลังใจ เป็นแรงจูงให้ให้ตำรวจเดินตรงทางขึ้นเรื่อยๆ

ในโลกนี้ มันมีคำ ๒ คำที่ “เหมือน” แต่ “แตกต่าง” คือ”คอร์รัปชัน”กับ “คอมมิชชั่น”

ในการ “บริการประชน” ไม่เฉพาะตำรวจ ข้าราชการทุกหน่วย-ทุกคนแหละ ไม่ต้อง “คอร์รัปชัน” หรอก

ขอเพียงท่านทำงานเอื้อเฟื้อประชาชนที่ไปติดต่อโดยไม่อิดออด-เกี่ยงงอน เขาก็จะประทับใจ และยินดีมอบ “สินน้ำใจ” ให้ท่านเอง

“คอร์รัปชัน” รับแล้ว เป็นตราประทับรับรอง “ความเลว” ข้าราชการทุจริต
แต่ “คอมมิชชั่น” ได้รับ เป็นตราประทับรับรอง “ความดี” ข้าราชการสุจริต

นี่คือ “เหมือน” ที่ “แตกต่าง” ในครรลองสังคมเกื้อคนมีคุณธรรมน้ำใจ แต่ละท่านค่อยๆพินิจ-พิจารณา ก็จะเข้าใจ

กรณี “ดิ ไอคอน” มันสอนเราหลายอย่าง
“ดารา” ก็คือ “ผี” ประเภทหนึ่ง การแสดงคือการหลอก แต่เรียกกันว่า “ดาราแสดง”

ครั้นเมื่อตาย เมื่อเขามาแสดง กลับเรียกว่า “ผีหลอก”!?

ใครนั่งรถไฟไปอยุธยา จะเห็น “สถานีบ้านม้า” กับ “สถานีบ้านภาชี” ก็น่าจะเป็นสถานีเดียวกัน แต่ถ้าลงผิด ชีวิตเปลี่ยนเลย!

สรุป “ผีหลอก” ไม่หมดเนื้อ-หมดตัว เท่า “ดาราหลอก” ดูตามทรัพย์สินที่ตำรวจสอบสวนกลางยึดมาจาก ๑๘ ผู้ต้องหาแล้ว

ผมสมน้ำหน้าตัวเองทันที “ทำงานผิดที่ ๑๐ ปี ก็ไม่รวย” อย่างนั้นจริงๆ

ทำหนังสือพิมพ์มาครึ่งชีวิต รวยยังไม่ถึงครึ่งสารัชถ์+ทักษิณเลย

แต่พวกบอสเขาทำกันคนละไม่กี่ปี โอ้โห…พ่อเจ้าประคุณลุนช่อง ดูมัน..ดูมันรวยกันซะให้เข็ด!

รถหรู ๒๓ คัน ทองคำ กระเป๋า เสื้อผ้าแบรนด์เนม โฉนดที่ดิน ของมีค่าละลานตา รวมมูลค่ากว่า ๒๑๙ ล้าน!
แยกๆ ให้อิจฉาเล่น ว่าของใครต่อใครมั่ง เป็นดังนี้

ของ “บอสพอล-นายวรัตน์พล”

รถยนต์หรู Benz รุ่น S 500e ๑ คัน bentley รุ่น flying spur hybrid ๑ คัน rolls royce ๑ คัน รถอเนกประสงค์ยี่ห้อ Ford ๑ คัน และ รถตู้ ๑ คัน

นอกจากนี้ ยังมีกระเป๋าแบรนด์เนม อาวุธปืน นาฬิกาหรู อีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า ๖๑ ล้านบาท

ของ “บอสปัน-ปัญจรัศม์”
รถหรูยี่ห้อ mclaren ๑ คัน bmw รุ่น x3 อีก ๑ คัน รวมมูลค่า ๓๐ ล้านบาท

ของ “บอสปีเตอร์-นายกลด เศรษฐนันท์” รถยนต์หรู ๒ คัน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมมูลค่ากว่า ๑๒ ล้านบาท

ของ “บอสหมอเอก-นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ” รถยนต์หรู ๑ คัน เครื่องประดับ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โฉนดห้องชุด ๑ ห้อง รวมมูลค่า ๓.๘ ล้านบาท

ของ “บอสสวย-น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์” รถหรู ๑ คัน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โฉนดที่ดิน รวมมูลค่า ๖.๑ ล้านบาท

แต่ของ “บอสแซม-นายยุรนันท์ ภมรมนตรี” ทำไมเป็นบอส “แกล้งจน” อย่างนี้ล่ะ ทำงานผิดที่เหรือเปล่า?

เพราะมีเพียงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ๑ รายการ มูลค่า ๒ หมื่นบาท ให้ยึดแค่นั้นเอง

“บอสมิน-พีชญา วัฒนามนตรี” เหมือนกัน ตอนโชว์ชักชวนคนลงทุน อะร้าอร่าม ยังกะเจ้าหญิงสุลต่าน
แต้มีเพียงกระเป๋าหลุยส์ให้ยึดใบเดียว มูลค่าแสนกว่าบาทเท่านั้น

ส่วน “บอสจอย-นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ” มีอัลพาร์ด ๑ คัน เงินสด ๖ ล้านบาท สร้อยคอ กำไลทองคำ กระเป๋าแบรนด์เนม รวมมูลค่ากว่า ๙ ล้านบาท ให้ยึด

สู้ “บอสโซดา-น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์” ไม่ได้ ข่าวไม่จาระไนว่ามีอะไรบ้าง แต่รวมมูลค่าที่ยึดตั้ง ๔๕ ล้านบาท

“บอสอ๊อพ-นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์” ก็น้อยหน้าซะที่ไหน ปอร์เช่ ๑ คัน เงินสดกว่า ๑ ล้านบาท ทองคำ กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู เงินสด รวมมูลค่ากว่า ๑๖ ล้านบาท ให้ยึด

“บอสแม่หญิง-น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์” มี PORSCHE ๑ คัน โตโยต้ารถอเนกประสงค์ ๑ คัน กระเป๋าแบรนด์เนมและทรัพย์สิน รวมมูลค่ากว่า ๙ ล้านบาท

ใครๆ ก็สู้ “บอสกัน-นายกันต์ กันตถาวร” ที่ผมสุดแสนจะอิจฉาคนนี้ไม่ได้ เห็นเขาโพสต์เฟซ
แต่ละมื้อ ต้องสั่งล็อบสเตอร์ ปูฮอกไกโด มาจากญี่ปุ่น มื้อละ ๕ หมื่นบาท มากินอวด แล้วมีอะไรให้ยึดบ้างล่ะ

ก็มี Mercedes Benz รุ่น Sprinter 416 CDI Van รุ่น ปี 2020 สีดำ 1 คัน Porche รุ่น Cayenne S E-Hybrid ปี 2014 สีแดง ๑ คัน สปอร์ต FORD Muastang ๑ คัน

ยังไม่แค่นี้ ยังมี KIA รุ่น CARNIVAL ปี 2022 อีก ๑ คัน iPad mini และผลิตภัณฑ์ของ The Icon รวมมูลค่ากว่า ๑๗ ล้านบาท

อ้าว…
แล้วนาฬิกา Patek ที่บอสกันใส่ถ่ายโชว์อีกเป็นสิบเรือน อย่างถูกๆ มีตั้งแต่เรือนละ ๑๔ ล้านบาท ไล่ลงไปถึงเรือนระดับล้านต้นๆ พวกนั้นล่ะ ไปทางไหนหมด ไม่เห็นเลย
อยากเห็นให้เป็นบุญตาอีกน่ะ

ผมลองบวกๆ ราคาแล้ว ทั้งหมดร่วม ๒๐๐ ล้านบาท ชาติหน้า-ถ้ามี ขอเกิดเป็น “บอสกัน” ซักที จะได้มี Patek ใส่

เบื่อ “โสร่งปาเต๊ะ” เต็มทีแล้ว…ผม!

เอาเท่านี้ละมัง เรื่องคนรวย คุยแล้วสบายใจ ตรงข้ามกับเรื่องคนซวย คุยทีไรก็…เซ็ง

เปลว สีเงิน
๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๗

Written By
More from plew
“วัคซีนสมอง” มาแล้วจ้ะ
เปลว สีเงิน การตั้งหัวข้อไลฟ์สด…. “วัคซีนพระราชทาน ใครได้-ใครเสีย” วันก่อนของ “ธนาธร” ถือว่า พบความสำเร็จ “๒ เด่นชัด”
Read More
0 replies on “ถึงยุค “ตำรวจปฎิรูป” #เปลวสีเงิน”