พรรคแตก “เพิ่งเริ่มต้น” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

หลวงปู่ “พุทธทาส” บอก….
“ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ”
แต่พอศีลธรรมกลับมาเป็น “มาตรฐานจริยธรรม” ใช้เป็นเกณฑ์วัดคนที่จะตั้งเป็น “รัฐมนตรีรัฐบาลใหม่” เท่านั้นแหละ
“พรรคพลังประชารัฐ” ของลุงป้อม
“แตกดังโพละ”!

ธรรมนัส ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า “ทาสใครแน่?” ระหว่าง “พลเอกประวิตร” กับ “นายทักษิณ” ประกาศอิสรภาพทันที

“ประสบการณ์ ๖ ปีที่ผ่านมา ผมรับใช้คนๆ หนึ่งมาพอสมควร ถึงเวลาที่ต้องเดินออกมา

ส่วนจะไปอยู่พรรคไหนนั้น…..
ชีวิตผมไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ไหน และไม่จำเป็นต้องฝากไว้กับการเป็นนักการเมือง เมื่อปี ๒๕๖๑ ผนเข้าสู่การเมืองด้วยความบังเอิญ

และมาสร้าง “พรรคพลังประชารัฐ” กับพี่น้องนักเรียนนายร้อย แต่ละท่านก็เกษียณ เหลือผมอยู่คนเดียว

วันนี้…คงถึงเวลา ที่ต้องประกาศ “ความเป็นอิสรภาพ”

“คุยกับ พล.อ.ประวิตร หรือยัง?”

“ไม่จำเป็นต้องคุย เพราะท่านไม่อยากจะใช้ผมแล้ว แม้ไม่ถูกขับจากพรรค เราก็อยู่กันแบบนี้

ส่วนกลุ่มพี่น้องมีกี่คน เดี๋ยวก็รู้ เราแยกออกมาให้ชัดเจนว่าจะอยู่อย่างไรกัน แต่ผมจะไม่ทำลายบ้านเมือง และไม่ทำลายรัฐบาล”

“คุยกับ อดีตนายกฯทักษิณหรือยัง?”

“ชีวิตการเมืองผมเกิดจากพรรคไทยรักไทย พี่น้องผมอยู่เยอะจนถึงปัจจุบัน”

ครับ……..
ต้องขอบคุณ “มาตรฐานจริยธรรม” และ “นายกฯ แพทองธาร” ที่นำคนจะตั้งเป็นรัฐมนตรีเข้าเครื่องตรวจจับจริยธรรมชนิดเข้มข้น

จากบทเรียน “เศรษฐาตั้งนายพิชิต” จนต้องตกเก้าอี้ฐาน “ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”

ด้วยเข้มในมาตรฐานจริยธรรมนี้แหละ
ธรรมนัสจะฝ่าด่านมาตรฐานจริยธรรมได้หรือไม่ และลุงป้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะส่งเข้าประกวดหรือไม่?

นี่แหละ เป็นเหตุนำไปสู่การ “ประกาศอิสรภาพ” ของธรรมนัส พรรคพลังประชารัฐจะเป็นของลุงป้อมหรือของธรรมนัส
พิสูจน์กันระหว่างพลเอก “ลูกพี่” กับร้อยเอก “ลูกน้อง”?

ก็ต้องขอบคุณ “ดาวมฤตยู” และดาวราหู กับ ดาวเสาร์ ด้วย
ที่ร่วมกันค่อยๆ บดขยี้ “ทำลายสิ่งเก่า” สู่เส้นทาง “ลอกคราบประเทศไทย” ในอนาคตอันใกล้

ซึ่งจะไฉไล เหนือความคาดหมาย …
ชนิด ถึงวันนั้น ทั้งพาราประชาชาติ จะต้องซู๊ดปาก ร้อง อู้ฮู…รู้อย่างนี้ น่าจะให้ทำซะตั้งนานแล้ว

“จะกินอาหารให้อร่อยต้องใจเย็นๆ” ฉันใด การใช้ “หนามบ่งหนามประเทศ” ก็ ฉันนั้น!

การชำระ “กรรมเก่า” ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ยังจำตอนเรียนมัธยมเรื่อง Present Continuous กันได้กระมัง?

ตอนนี้ “บิลกรรม” ถึงคราวต้องชำระกันแล้ว

“ทำชั่ว-ได้ชั่ว, ทำดี-ได้ดี”……..

มฤตยูจะพิสูจน์ “สัจธรรม” ข้อนี้ให้เห็น ศีลธรรมจะค่อยๆ กลับมา โลกาจะวินาศ ส่วนของโลก แต่ส่วนของเรา ไม่วินาศแน่นอน!

“ความยุติธรรมที่มาช้า คือความอยุติธรรม” เป็นคติทางกระบวนการยุติธรรม

“ความดีและความชั่วที่ทำ แม้ผลมาช้าหรือมาเร็ว แต่มาแน่ และมาชนิดเที่ยงธรรมเสมอ” นี่คติในกระบวนการกรรม

แล้วคอยดูต่อไป…..
รัฐบาล “นายกฯ แพทองธาร-เพื่อไทย” จะเป็นสะพานนำคน “สุทธิจิต” ขึ้นสวรรค์
และถีบพวก “อสุทธิจิต” ต่อชาติบ้านเมืองลงนรก!

ช่วงนี้ ในทางการเมืองสู่การเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองเป็นช่วง “สะสมเหตุ”

เราอย่าทำตัวเป็นด้ายหลอดวัดความลึกมหาสมุทร ขอจงรู้ไว้…อะไรที่เกิดขึ้น อะไรที่เป็นไป
อย่าเอา “ความถูกใจ-ไม่ถูกใจ” เราเป็นที่ตั้ง ให้เข้าใจซะว่า…

“เพราะมีสิ่งนั้นเกิด สิ่งนี้จึงเกิด และเพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งโน้นจึงเกิดตามมา” และมันจะหมุนไปตามวงรอบของมันอย่างนั้น

ไปเรื่อยๆ ตราบที่โลกใบนี้ ยังเต็มไปด้วยมนุษย์ขี้เหม็น!

เราคุยกันแต่วันแรกที่สภา ๕๐๐ เลือกอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ แล้วว่า ถ้านายกฯ อุ๊งอิ๊งและรัฐบาลเพื่อไทย จะให้สุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลละก็

จงอย่าให้ “คนนอกพรรค” เข้ามาบงการ ครอบงำ สั่งการทั้งคนและพรรค

วันแรกๆ “จันทร์ส่องหล้า” อ้าซ่า..บัญชาการ
จิ้งจก-ตุ๊กแกทักเสียงเกรียว จากนั้น พรรคเพื่อไทยและนายกฯ อุ๊งอิ้ง จะไปใช้อาคารชินวัตร ๓ ย่านวิภาวดี แทนใช้บ้านจันทร์ส่องหล้า

เลี่ยงครหา “พรรคและนายกฯ” บัญชาการโดย “คนนอกพรรค” ที่ชื่อทักษิณ

แต่อย่างว่า คนกินข้าว หมากิน…(อาหารเม็ด) ยังไงก็อดไม่ได้

เมื่อวาน พรรคเพื่อไทยประชุมที่อาคารชินวัตร ๓ ทักษิณก็ตามไปปรากฎตัวที่นั่น

ไม่ปรากฏเปล่า คงหลงว่าตัวเองคือ “นายกฯ ตัวจริง” ให้สัมภาษณ์แทน “นายกฯ แพทองธาร” สารพัดเรื่องพรรค-เรื่องรัฐบาลใหม่เป็นฉาก-เป็นช่อง จะรีวิวให้ดู

-สิ่งที่เกิดในพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าหรือไม่?

ทักษิณ:ไม่เป็นไร รัฐบาลน่าจะมีคณะกรรมการอยู่แล้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาช่วยสกรีนเพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อยที่สุด

-พลังประชารัฐแตก ๒ ฝ่าย ระหว่างพลเอกประวิตรกับร้อยเอกธรรมนัส ใครเหมาะสมจะมาร่วมงานกับรัฐบาล?

ทักษิณ:ฝ่ายทุ่มเทให้กับรัฐบาลมาตลอดน่าจะเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง

-พลเอกประวิตรไม่ได้โทรหาใช่หรือไม่?

ทักษิณ:ไม่ได้โทรครับ

-จะไม่ให้ตระกูลวงษ์สุวรรณร่วมรัฐบาล?

ทักษิณ:แล้วแต่กรรมการ ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง เป็นคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแล้วได้ยินเฉยๆ

-พลังประชารัฐควรเข้ามาทั้งพรรคหรือไม่?

ทักษิณ:อยากร้องเพลงอัสนี วสันต์ ว่า “ถ้าจะมา ก็มาทั้งตัว”

-ประชาธิปัตย์จะมาร่วมรัฐบาล หากพลังประชารัฐมาไม่ครบ?

ทักษิณ:เป็นธรรมชาติต้องมีเสียงให้มีเสถียรภาพ เพราะปัญหาประเทศมันเยอะมากในข้างหน้า ต้องเปลี่ยนเชิงโครงสร้างโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ
และในโครงสร้างก็ต้องอาศัยการแก้ไขกฎหมาย อาศัยการสนับสนุนจากสภาฯ
เพราะฉะนั้น เราต้องมั่นใจว่า รัฐบาลมีเสียงพอ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นของประเทศ

-ไม่ปิดทางประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่?

ทักษิณ:เป็นไปได้อยู่แล้ว

-กับพลเอกประวิตร ยังผูกใจเจ็บกันอยู่หรือไม่?

ทักษิณ:​ฮู้…ผมเยอะโดนเยอะที่สุด แต่ก็ไม่ได้ไปใส่ใจอะไรกับอดีต ผมอยู่กับวันนี้และพรุ่ง​นี้

-คนสุ่มเสี่ยงต่อมาตรฐานจริยธรรมจะไม่ให้เล็ดลอดเข้าไปเป็นรัฐมนตรีเลยใช่หรือไม่?

ทักษิณ:ก็ไม่ควร ทุกคนก็ควรที่จะเสียสละเพื่อให้การเมืองต่อเนื่อง

-คนที่จะมาช่วยงานรัฐบาลคือคนที่ช่วยงานรัฐบาลมาตลอด แต่การโหวตเลือกนายกฯพลเอกประวิตร ก็ไม่ได้ไปโหวต ควรให้เข้าร่วมร่วมรัฐบาลหรือไม่?

ทักษิณ:สื่อลองถามท่านดู ว่าทำไมไม่มาโหวต

แต่ที่น่าสนใจ เรื่อง “ดิจิทัล วอลเล็ต” ต้นคิดใคร-มาจากไหน วันนี้ มีคำเฉลยชัดแล้ว

ทักษิณ “หลุดปาก” บรรยายเป็นฉาก-เป็นช่อง ที่ทำการพรรคเพื่อไทยชั่วคราวเมื่อวาน จำเป็นบันทึกละเอียดไว้ซักนิด ดังนี้

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตตอนนี้นายกฯ กับฝ่ายงบประมาณ ฝ่ายเศรษฐกิจ กำลังคุยกันอยู่

การกระตุ้นเศรษฐกิจต้องทำแน่นอน และต้องทำอย่างเร็วด้วย ช้าไม่ได้ เพราะถ้าเศรษฐกิจยิ่งไหลลงลึกเท่าไหร่ ก็ดึงขึ้นมายาก

นายกฯ กำลังวางแผนกันอยู่ ทำงานได้เมื่อไหร่ ก็คงสั่งการเลย

“คำว่าดิจิทัล วอลเล็ต มีอยู่ ๓ เรื่อง คือ…”

๑.การกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นหัวใจสำคัญและต้องทำ

๒.การให้ประชาชนมีโอกาสเรียนรู้เทคโนโลยีเพื่อใช้ประโชน์ต่อไปข้างหน้า ก็ต้องทำต่อไป แต่ความเร่งด่วนอาจรอได้

๓.อนาคต “ดิจิทัลวอลเล็ต” เมื่อวางไว้แล้ว สามารถใช้ประโยชน์กับประชาชนกับประเทศ ให้ประชาชนกับรัฐบาลเชื่อมต่อกันได้ทางเศรษฐกิจ
เป็นช่องหน้าต่างให้ประชาชนทำธุรกิจผ่านวอลเล็ต เป็นเรื่องเทคนิคที่ต้องมีต่อไป

“แต่ ๒-๓ รอได้ อันที่ ๑ รอไม่ได้ รูปแบบอาจจะอิงเทคโนโลยีบ้างหรือไม่ ไม่อิงบ้างก็ได้ แต่ต้องถูกกฎหมาย และไม่ขัดแย้งกับคนที่เห็นต่างเยอะเกินไป”

ส่วนเรื่องการอัดฉีด “เท่าที่เดินผ่านไปเห็นนายกฯ คุยกับฝ่ายงบประมาณ” ก็บอกว่า

“ควรจะต้องทำ” ผมก็ช่วยให้คำแนะนำ แต่การตัดสินใจเป็นของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี แต่ผมให้คำแนะนำได้

จะเปลี่ยนเป็น “แจกเงินสด” หรือไม่?
ข้อดีแจกเงินสดคือมันเร็ว แต่ข้อเสีย กลัวว่าจะใช้ในสิ่งที่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่เต็มที่

“น.ส.แพทองธาร จะเป็นควบกลาโหมด้วยหรือไม่?”

“คงไม่” …เอาแค่นี้ก็หนักแล้ว ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมจะเป็นทหารหรือพลเรือนแล้วแต่กรรมการเขาดูว่า จะมีใครเหมาะสมอยู่ก็เลือกกันอีกที

ครับ….
ผม…โน คอมเมนท์ ประเด็น “ครอบงำ-สั่งการ” คนและพรรค
ก็บอกแล้ว “ดาวมฤตยู”มันแรง!

เปลว สีเงิน
๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๗

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from plew
วาสนาหรือชะตากรรม? #เปลวสีเงิน
เปลว สีเงิน “อุ๊งอิ๊ง” เนี่ย “อภิชาตบุตร” จริงๆ! ที่ช่วยไม่ให้ “คุณพ่อทักษิณ” ถูกสส.ทั้งพรรครุมด่า (ในใจ) ฐานเป็นตัวการทำให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบ ก็จากเหตุทำ”ประเจิด-ประเจ้อ”……...
Read More
0 replies on “พรรคแตก “เพิ่งเริ่มต้น” #เปลวสีเงิน”