แก้รธน. “ไม่เป็นไร ผมรอได้”

วันนี้ (๗ สิงหา.) นายกฯไปยะลา…..

คดี “หุ้นสื่อธนาธร” ศาลรัฐธรรมนูญ เลื่อนไป ๒ กันยา.

แล้วเราจะคุยอะไรกันดี?
เรื่อง “พรรคเพื่อไทย” ประกาศ” แก้รัฐธรมนูญ” เพื่อไปฉีกรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบันทิ้ง แล้ว “เขียนใหม่” ทั้งฉบับ โดยตั้ง “สภาร่างรัฐธรรมนูญ” ขึ้นมา ที่เรียก “สสร.” ดีมั้ย

ก็น่าจะดี มีภาษิตว่า “อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัว-ปั้นควายให้ลูกท่านเล่น”

เมื่อไม่ได้เป็นรัฐบาล ๗ พรรคค้าน ก็กินเงินประชาชน มีสิทธิพิเศษเหนือประชาชน แล้วจะนิ่งดูดายได้อย่างไร?
มันก็ต้องขุดเซาะเจาะไชให้บ้านเมืองวุ่นวายไปเรื่อยๆ จริงมั้ย?

ถามจริงๆเถอะ…..บัดป่านนี้แล้ว ในขันธสันดาน ไม่มีสำนึกดีๆ กับบ้าน-กับเมืองเป็นเชื้อบ้างเลยเชียวหรือ?

“ตัวตั้ง-ตัวตี” นักกฎหมายใหญ่ทั้งนั้น ระดับด็อกเตอร์อังดรัวต์ก็มี ด็อกเตอร์ตูลูสก็มี

ดังนั้น ย่อมอ่านกฎหมายรู้ ดูรัฐธรรมนูญ ฉบับปี ๖๐ ออก ว่าถ้าไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาลเป็นหัวหอกแล้ว
ฝ่ายค้าน “แก้ผ้า” ได้ แต่แก้รัฐธรรมนูญ “ก็ได้…แต่ไม่สำเร็จ” เพราะเสียงไม่พอ!

ถ้างั้น ดันทุรังไปเพื่ออะไร?

อ้าปากเห็นทะลุถึงดาก “สร้างเงื่อนไข” เพื่อเดินเกมปลุกเร้ามวลชนให้สุกงอมสู่จุดเหี้ยนกระหือรือ

“ล้มรัฐบาล-คว่ำประยุทธ์-สถาปนาระบอบทักษิณ”

ก็เพราะรู้นั่นแหละ ถึงทำ

คือ รู้ว่า ด้วยเสียงสส.ฝ่ายค้าน “แก้ในรัฐสภา” ไม่สำเร็จ ก็ต้องมอมประสาทมวลชน “แก้นอกสภา” แบบนี้ น่าจะสำเร็จ!?

ไม่รู้จักจำกันเลย……

เมื่อปี ๒๕๕๖ “เพื่อไทย” เป็นใหญ่ในแผ่นดิน “ยิ่งลักษณ์” เจ้าของวลี… “รอแป๊บนะพี่ เดี๋ยวหนูถึง” เป็นนายกฯ เป็นรัฐบาล ๓๐๐ เสียง “แน่นปึ๋ง” ลำพังเพื่อไทย ก็ตั้ง ๒๖๕ เสียง

แล้วเป็นไง?

ดันพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย หรือ “พรบ.เหมาเข่ง” ในสภา ๓ วาระ จนหัวถลอก

เสียงมากขนาดนั้น ถึงเอากันจนได้ แต่ก็ไปไม่ได้ สุดท้าย ยิ่งลักษณ์ต้องประกาศ “ยุบสภา” เพราะทนเสียงชาวบ้านที่ออกมาเย้ยไม่ไหว

“สภายิ่งลักษณ์” ลักหลับ “ตอนตี ๔”!

“ล่มแล้ว-ล่มอีก” กับการเข็นกฎหมายนิรโทษให้ทักษิณ ก็ไม่เข็ด-ไม่จำ
เป็นรัฐบาล แค่ “กฎหมายลูก” ยังจอดไม่ต้องแจว แล้วตอนนี้ เพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน

สะแอ๋ง ถึงขั้นจะแก้เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วเขียนเอาใหม่ตามอำเภอใจทั้งฉบับ

รับยา “แก้เพ้อ” ที่ช่อง ๓ ดีกว่ามั้ย?
แรกๆ อนาคตใหม่ “ปิยบุตร” ศิษย์ “แซ็ง-ฌุสต์” ประกาศแก้เพื่อยกเลิก มาตรา ๒๖๙-๒๗๒ เรื่องวุฒิสภา มาตรา ๒๗๙ ว่าด้วยการรับรองอำนาจ-คำสั่งคสช.

แต่ตอนนี้ ตั้วเฮียทางกฎหมายซีกเพื่อไทย ออกมาตั้งโต๊ะแถลงในนาม ๗ พรรคแค้น

-การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ควรดำเนินการออกแบบใหม่ทั้งฉบับ ไม่ใช่การแก้ไขเป็นรายมาตรา
เพราะการแก้ไขเป็นรายมาตรา เป็นไปได้ยาก อีกทั้งการแก้ไขประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ก็อาจจะต้องไม่สอดคล้องกันทั้งหมด

-จะใช้รูปแบบของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเพิ่มเติมหมวดว่าด้วยการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ

-โดยจะมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเข้ามาดำเนินการ

-จะต้องมีการยกร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายใน ๒๔๐ วัน

แบบนี้ค่อยสมภูมิผู้เชียวชาญกฎหมายรัฐธรรมนูญหน่อย

การแก้เฉพาะมาตราที่ตัวเองแค้นอาฆาตอย่างศิษย์แซ็ง-ฌุสต์ มันไม่ได้หรอก

ถึงได้ แต่..ยุ่งตายห่ะ เพราะมันโยงพันไปถึงอีกหลายมาตรา

ถ้าอยากแก้ ต้องเริ่มจากแก้เพื่อ “เปิดประตู” ไปสู่การเขียนใหม่ทั้งฉบับนั่นแหละ

ความจริง กฎหมายทุกฉบับในโลก “มนุษย์เขียน-เพื่อมนุษย์” แก้ได้ทุกฉบับ

รัฐธรรมนูญ ๖๐ คือ ฉบับปัจจุบัน ก็แก้ได้ มีบอกไว้ในหมวดที่ ๑๕ “การแก้ไขรัฐธรรมนูญ” อยู่แล้ว

ผ่านทางฝ่ายครม.-ฝ่ายสส.-ฝ่ายประชาชน ๕ หมื่นชื่อ

ทั้งนโยบายรัฐบาลประยุทธ์ที่แถลงต่อรัฐสภา ๒๕-๒๖ กค.๖๒ ในหมวดนโนยบายเร่งด่วน ๑๒ ข้อ

ข้อ ๑๒ มีว่า………

“การสนับสนุนให้มีการศึกษา การรับฟังความเห็นของประชาชน และการดําเนินการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในส่วนที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ”

ฉะนั้น ไม่มีปัญหา เดินตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญหมวดที่ ๑๕ พรรคไหนก็ “เสนอแก้” ได้ทั้งนั้น

สำคัญอยู่ตรงว่า ที่แก้นั้น ประเด็นไหน เพื่ออะไร จำเป็นเร่งด่วนหรือไม่ เพื่อยังประโยชน์กับประเทศชาติ-ประชาชน หรือ เพื่อหมู่คณะตัวเอง หรือเพื่อใครบางคน?

ต้องตอบโจทย์ตรงนี้ให้ได้ก่อน ด้วย “สำนึกบริสุทธิ์” คนเป็นสมาชิกรัฐสภา
รูปแบบที่เพื่อไทยเซลล์ไอเดีย ก็แกะแบบสสร.ที่ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ ๒๕๔๐ อันประทับจิต-ประทับใจเพื่อไทย เพราะด้วยกติกานั้น ทำให้เกิดไทยรักไทย เกิดทักษิณ เกิดนายกฯทักษิณ เกิดประชาธิปไตย “รัฐสภาเบ็ดเสร็จ”

ขยายพันธุ์เป็น “แดงทั้งแผ่นดิน” ทักษิณสถาปนา นั่นไง!

ขณะนี้ มีขบวนการบ่อนทำลายประเทศ แฝงตัวเข้ามาวินาศกรรมเมืองตูมๆๆ

ขณะนี้ สงครามเศรษฐกิจ “สหรัฐฯ-จีน” สร้างความสับสน-ระส่ำระสาย ทั้งการเมือง ทั้งเศรษฐกิจสะเทือนถึงชีวิต-อนาคตประชาชนไปทั่ว

มันเป็นปัญหาเฉพาะหน้า อันตัวแทนประชาชน ต้องรวมเป็นหนึ่ง แล้วใช้รัฐสภาเป็นศูนย์กลาง

ระดมสติปัญญา หาทางออก-ทางแก้ให้บ้านเมือง ช่วยให้ประชาชน “คลายร้อน-นอนหลับ” ก่อน

แต่นี่อะไรกัน เงินเดือนภาษีประชาชน-เอา สิทธิพิเศษ-เอา หน้าที่แก้ทุกข์ให้ประชาชน-ไม่เอา

พวกกูจะเอาแต่ที่พวกกูประสงค์ ใช้รัฐสภาเป็นฐาน “ล้มบ้าน-ล้มเมือง”

หนึ่งเดือน สภาเปิดซัก ๘ วัน แต่โน่น…เห็นเสือกหน้า-เสือกคาง ไปเร่ขายชาติบ้าง ไปซ่องสุมอยู่กับกลุ่มโจรบ้าง

ถามว่า มันใช่ “เหตุจำเป็น” สมควรทิ้งงานประชาชน ลาไปลอยดอกอย่างนั้นมั้ย?

ทำไมถึงตั้งหน้า-ตั้งตาแต่จะแก้รัฐธรรมนูญ เขียนรัฐธรรมนูญใหม่?
ถ้าไม่มี “ที่มา-ที่ไป”……….

สส.๗ ฝ่ายค้าน ก็คงไม่เถลือกไถลชนิดไร้ “สำนึกชั่วดี” ในหน้าที่แท้จริงของสส.ขนาดนี้หรอก

“ทุกอย่าง” มันมี “ร่องรอย” ตอนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่เกิด พรบ. “เหมาเข่ง-สุดซอย” มันมาจากอะไร รู้มั้ย?
ถ้าไม่รู้ หรือรู้ แต่ลืมแล้ว ก็จะบอก………

ปี ๒๕๕๖ ประชุมพรรคเพื่อไทย เดือนพฤษภา.มีเสียงโหยหวน ลอยเข้ามาในวงประชุม ว่า

ที่จะเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมอะไรกันนั้น ควรเอาร่างฉบับที่เฉลิมเสนอ

“ผมได้คุยและขอบคุณท่านเฉลิมแล้ว เห็นด้วย จะทำอะไร ควรทำอะไรให้มันสุดซอย ร่างของวรชัย เหมือนเดินไปครึ่งๆ กลางๆ มันไม่สุดซอย เมื่อจะทำแล้ว ก็ทำให้มันสุดซอย แต่ถ้าจะเร่งเอาเข้าสมัยประชุมวิสามัญ ๓ วาระรวด ไม่เห็นด้วย จะถูกฝ่ายค้านโจมตีอีก ขณะนี้ ยังไม่มีการชี้แจงเหตุผล รายละเอียดทั้งหมด อยากให้เอาเข้าสมัยประชุมหน้า ไม่เป็นอะไร ผมรอได้”

นี่ไง……..ที่มาของ “สุดซอย-เหมาเข่ง” นำไปสู่การหลงจ๊ง เก๋าเจ๊งของรัฐบาลเพื่อไทย-ยิ่งลักษณ์!

ด้วยเนื้อหา “สุดซอย-เหมาเข่ง” ที่ผ่านวาระ ๒-๓ ตอนตี ๔ เดือนพฤศจิกา. ออกมา มาตรา ๓ ว่า

“การกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง หรือมีความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด โดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๙ ก.ย.๔๙ รวมถึงองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องต่อมาที่เกิดขึ้นระหว่างปี ๒๕๔๗ ถึงวันที่ ๘ ส.ค.๕๖ ไม่ว่าผู้กระทำในฐานะตัวกลาง ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดกฎหมาย ก็ให้ผู้กระทำนั้นพ้นจากความผิดโดยสิ้นเชิง ไม่รวมถึงการกระทำผิดในประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒…”

คนที่บอก “ไม่เป็นไร ผมรอได้” ร้องไชโย….

“กูกลับบ้านอย่างเท่ๆ ได้แล้วโว้ย”!
โดยนัยแห่งแมวและหมา “อึกองใหม่” ย่อมเป็นไปตามร่องรอย “อึกองเก่า” การที่เพื่อไทย “พี่ใหญ่” ๗ พรรคระบอบทักษิณ เหี้ยนกระหือรือแก้เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญเขียนใหม่ตั้งแต่พระยังไม่ตีระฆังเช่นนี้

น่าจะเป็นอย่างที่ผมลอกจากข้อความที่เขาโพสต์-แชร์กันตอนนี้ ดังนี้

เหตุผลสั้นๆที่นักการเมืองกลัว!!!
รัฐธรรมนูญ ๖๐

คดีความ = ไม่มีวันหมดอายุ

โกงกิน = ประหารชีวิต/จำคุก/จำคุกตลอดชีวิต

ร่ำรวยผิดปกติ,ฟอกเงิน = จำคุก ๑๕-๓๐ ปี + ยึดทรัพย์

ห้ามโดยสารเครื่องบินชั้น First Class ฟรี!

บริหารประเทศเสียหาย =จำคุก ๑๕-๓๐ ปี

เมื่อมีคดีความ = ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

เอ้า….ม้วนหางสิลูก!

Written By
More from plew
เวลา “กับปัญหา” รอระเบิด – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน “หายไปวัน” ก็ไม่ได้ไปไหน “ไข้ทับหัวฝน” ปนเปกับ “โรคขาประจำ” มันจรมาเยี่ยมพร้อมๆ กัน เลยต้องนอนต้อนรับเขาหน่อย เรื่องของคนแก่นะครับ ไม่น่าสนใจ...
Read More
One reply on “แก้รธน. “ไม่เป็นไร ผมรอได้””
  1. says: manoch sangvipasnapaporn

    นักโทษหนีคดีกลัวรัฐธรรมนี้ที่สุด เพราะคดีความไม่มีวันหมดอายุ

Comments are closed.