คลิกฟังบทความ…?
เปลว สีเงิน
ระยะนี้ จะได้ยิน “ว่าที่นายกฯ” แต่ละพรรคขึ้นเวทีโชว์วาทะ
ก็ให้ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป ชัดๆ คือ
คน “พูดจากหัวใจ” กับพูดจากที่เขา “เขียนมาให้พูด”
เหมือนอาหาร ๒ จาน
จานที่ “เขียนมาให้พูด” หลังร้าน โปะทั้งเครื่องปรุงรส ทั้งสารแต่งสี ล่อตา-ล่อใจ ให้อร่อยลิ้น แต่อันตรายต่อคนกิน
ส่วนจานที่ “พูดจากใจ” ชื่อก็บอก “ปรุงจากหัวใจ” เป็นอาหารคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยคนกิน
ทั้งยี่ห้อ ทั้งพ่อครัว รับประกันคุณภาพ เชื่อถือได้ในความซื่อสัตย์ ว่า…ที่ยกมาเสิร์ฟ “ควันฉุย” บนโต๊ะนั้น
พ่อครัวเอา “หัวใจ” ใส่ “ฝีมือ” ทำเห็นๆ
ไม่ใช่ใครไม่รู้หลังร้าน “เอาตีนทำ” แถมถุยน้ำลายใส่ แล้วให้ยกมาเสิร์ฟ!?
ความรู้สึกนี้ เกิดจากที่ผมฟัง “นายกฯ ประยุทธ์” แบหัวใจพูด กับผู้สมัครสส.๔๐๐ คนของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” เมื่อ ๒๕ มี.ค๖๖
เป็นนายกฯ มากว่า ๘ ปี ถือว่าเป็น “นักการเมือง” เต็มตัว แต่พูดจาให้กลมกลิ้งแบบนักการเมือง ไม่ค่อยกลิ้ง
ตรงกันข้าม…….
เวลาเอาความจริงจากหัวใจมาพูด นายกฯ จะพูดได้กินใจ อร่อย-ไม่อร่อย ไม่เป็นปัญหา ข้อสำคัญ คือ
“ปลอดสารพิษ” เชื่อถือได้ ก่อเกิดแรงดาลใจกับคนฟัง
สปีชนายกฯ เมื่อ ๒๕ มีนา.ถือเป็น “สัจพจน์” ต้องบันทึก
……………………………..
วันนี้ เห็น ส.ส ๔๐๐ ผมรู้สึกไม่โดดเดี่ยว รู้สึกตื้นตัน พระเอกทั้งหมดอยู่ข้างผมและมีนางเอกด้วย
หนังเรื่องนึง ต้องมีพระเอกและนางเอก
แต่ผู้ร้าย ก็แพ้ทุกที
ฉะนั้น เราต้องอยู่ฝ่ายพระเอก พระเอกสุดท้ายก็รักกับนางเอก และผู้ร้าย ชอบเกเรกับนางเอก
วันนี้ เราได้สมาชิกร่วมอุดมการณ์พรรค ๔๐๐ คน ขอบคุณทุกคน ที่ตัดสินใจมาอยู่กับพวกเรา “พรรครวมไทยสร้างชาติ”
วันนี้ รู้สึกตื่นเต้นพอสมควร ที่ได้พบกับสมาชิกครบทั้งพรรค ซึ่งส่วนใหญ่ ก็จำหน้ากันได้หมด
วันนี้ ทุกคนมาร่วมทำงานร่วมอุดมการณ์ ทำงานในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ บางท่านเคยเป็นส.ส.อยู่แล้ว
หลายคนมาครั้งแรก มีทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ ซึ่งมีความรู้หลากหลาย
พวกเรายืนยันว่า จะปรึกษาหารือกัน ขับเคลื่อนไปด้วยกัน เพื่อให้คนทุกรุ่น-ทุกวัยของประเทศ เดินไปข้างหน้าได้
ผมหวังว่าทั้ง ๔๐๐ คน จะร่วมกันคิดและทำไปกับผม
“วันนี้ ผมนึกไปเล่นๆ………
ถ้าเรามี ๔๐๐ คน ไปนั่งในสภาจะทำยังไง?
แต่เราจะไม่ทำเหมือนคนอื่นเขาทำ เราจะร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ
นั่นเขาเรียกว่า “ร่วมกันเราอยู่-แยกหมู่เราตาย” ผมเป็นคนที่พูดจาอาจจะขวานผ่าซากนิดนึง พูดไม่เพราะบ้าง แต่ผมเป็นคนจริงใจ
ผมเคยบอกแล้ว พวกเรามีหัวใจคนละดวง แต่ทุกคนต้องมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ เพื่อรักคน ๗๐ ล้านคน ทั้งประเทศ ไม่ใช่รักคนใด-คนหนึ่ง
ต้องรักทุกคนเท่าๆ กัน จะได้คิดออกว่า จะทำอะไรเพื่อเขา ฉะนั้น เราต้องมี “หัวใจอันยิ่งใหญ่”
ซึ่งตัวของผม หัวใจสีม่วง ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดแบบโกหกให้ดูดี ผมเคยเป็นทหารมาก่อน อยู่ในกรมทหารมาก่อน และกรมทหารกรมนั้น มีสัญลักษณ์หนึ่ง คือ “หัวใจสีม่วง”
ต้องถามหมอเหรียญทองอีกทีคำว่าหัวใจสีม่วงคืออะไร? “หัวใจสีม่วง” คือ หัวใจของคนที่ “ใกล้จะตาย”
ฉะนั้น ต้องเป็นหัวใจที่ไม่พูดความเท็จ หัวใจของคนใกล้ตายมันพูดโกหกไม่ได้ เดี๋ยวยังไงมันก็ตายแล้ว
แต่นี่…ไม่ใช่ว่าผมจะตายเลยนะ…ไม่ใช่ ไม่ได้แช่งตัวเอง แต่เป็นการเปรียบเทียบให้ฟัง
ผมพูดด้วยความจริงใจจากหัวใจผม เราทั้งหมด ๔๐๐ คน รับว่าจะดูแลคนทั้ง ๗๐ ล้านคน ไปพร้อมๆ กัน
ในเมื่อทุกคนมีความรู้ มีประสบการณ์ที่หลากหลาย ทุกคนต่างมีเป้าหมายอันเดียวกัน เป้าหมายนั้น
“คือรวมไทยสร้างชาติ”
เราต่างคนต่างมี DNA เดียวกัน ข้างในรวมกันทุกเซลล์ นี่คือ DNA มุ่งมั่นทำเพื่อบ้านเมืองประชาชนและส่วนรวมใช่หรือไม่?
ผมอยากให้กำลังใจ “ว่าที่ผู้สมัครส.ส.” ทุกคน
ผมยืนยันว่า เราจะช่วยกันทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็น “สถาบันการเมือง” ที่เข้มแข็ง
เป็น “ทางเลือกหลัก” ของคนไทยทั้งประเทศ
เราต้องเป็น “สายตรง-สายหลัก-สายใหญ่”
ฉะนั้น ตรงนี้ เราต้องร่วมมือกันให้ได้มากที่สุด พรรคของเรา แม้จะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่ผม “หน้าเก่า” อยู่มาหลายปีแล้ว
เราไม่ใช่คนหน้าใหม่ อดีตรัฐมนตรีก็มี รองนายกรัฐมนตรีก็มี
ต้องขอบคุณหัวหน้าพรรค (คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) ที่ให้เกียรติผมมายืนตรงนี้
ท่านมีผลงานมากมาย เป็นที่ปรึกษาผมมาหลายเดือน ไม่ใช่เพิ่งมาวันสองวัน อยู่กับผมมานานแล้ว
มาช่วยตรงนี้ ก่อนหน้าที่ผมจะตัดสินใจมาร่วมกับท่าน ไม่ใช่ท่านมาตรงนี้ แล้วผมมา
เราคุ้นเคยมานานแล้ว และไว้ใจท่านในฐานะนักกฎหมายแก้ไขปัญหาหลายอย่างมาด้วยกัน
วันนี้ เรา “ทำแล้ว-ทำอยู่-ทำต่อ” ขออนุญาต ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางฯ พรรค
บวกอีกนิดนึง “ทำแล้ว-ทำอยู่-ทำต่อพลัส” หรือทำอีกนั่นแหละ ซึ่งหลายอย่าง เป็นสิ่งที่เราต้องทำอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ โชคดีที่เรามีทีมเศรษฐกิจเข้ามา หลายคนอยากเข้ามา แต่หลายคนไม่อยากเข้าทางการเมือง ขออยู่ข้างหลัง คอยให้คำปรึกษา ซึ่งผมก็รับฟังและนำเสนอมาในพรรคพิจารณา
“ขอขอบคุณพรรครวมไทยสร้างชาติ ชื่นใจอีกครั้ง เป็นพรรคการเมืองน้ำดี หัวหน้าพรรคบอกแล้ว “สร้างการเมืองใหม่” ตอบโจทย์ประชาชนและประเทศชาติ
ที่สำคัญ พูดสั้นๆ คำเดียวก็พอ ไม่ต้องบรรยายอะไรให้มาก “ก้าวข้ามความขัดแย้ง”
จะเห็นได้ว่า ที่มานั่งตรงนี้ ไม่มีความขัดแย้ง เราจะขัดแย้งกันไม่ได้อีกแล้ว
หลายสิบปีที่ผ่านมาปัญหามีอยู่แล้ว อย่าลืม อย่าเป็นคนความจำสั้น จะต้องไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก
ฉะนั้น วันนี้เราต้องเน้นการเมืองสร้างสรรค์
ผมเป็นลูกผู้ชายพอ
ทุกคนมีเป็นสุภาพบุรุษสุภาพสตรี ฉะนั้นเราจะไม่โจมตีให้ร้ายพรรคอื่น เราจะทำของเราให้ประชาชนเข้าใจ ไม่มีการ “แบ่งเขา-แบ่งเรา”
เพราะประชาชนทุกเขตเลือกตั้งคือคนไทย เพราะถ้าไม่ใช่คนไทยจะเลือกตั้งได้หรือไม่ มาลงเลือกตั้งได้ไหม ทุกเขตเลือกตั้ง คือคนไทยทั้งหมด
เราเป็นของคนไทยทุกคน และเราจะเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ
กลัวเหมือนกัน จะเยอะเกินไปหรือเปล่า ก็อยู่ที่พวกเรา ใช่หรือไม่ รวมไทยสร้างชาติ”
ปกติผมเป็นคนพูดน้อย เพราะพูดเยอะก็โดนด่าทุกที อธิบายไม่ได้เลยจริงๆ ไม่ต้องการฟังคำอธิบาย และเหตุผล “ทำไมเราต้องเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ?”
และ “ทำไมผมตัดสินใจมาอยู่พรรคนี้?”
ผมเปิดไปแล้ว ถ้าผมไม่มีใจ คงไม่มากับเขา หลายคนที่มา เพราะไว้วางใจ “ซื่อตรงต่อกัน”
ใช้อย่างนี้ ความเป็น “ลูกผู้ชาย”
เราต้องอยู่ด้วยกัน เราเดินหน้า ค่อยๆ เดินมาเรื่อยๆ วันนี้ไม่ต้องกลัวใครใช่ไหม?
วันนี้ ผมทำงานมา ๘ ปี ไปได้ทุกจังหวัด เพราะต้องทำงานให้คนทั้งประเทศ ๗๗ จังหวัด หวังอย่างยิ่งว่า ทุกคนจะสนับสนุน ส.ส.ของพรรค
ความจริงผมไม่รู้มาก่อน จะเป็นแคนดิเดตฯ เป็นเรื่องของพรรค ทุกอย่างพรรคทั้งนั้น
แต่บางครั้ง “เขาจะเลือกพวกเราหรือเปล่าน้อออ?”
บางทีก็เหนื่อยนะ แต่ไม่เป็นไร ผมมีกำลังใจจากพวกเรา ชอบ-ไม่ชอบ ก็มีบ้างไม่เป็นไร ทั้งประเทศให้โอกาสพวกเราได้เป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศ
ขอเรียนต่อหน้า ๔๐๐ คน ให้ทราบ
ต่อจากการเลือกผมเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” อันดับ ๑ ซึ่งต้องแจ้งว่า ทางพรรคได้เลือก แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ ๒ ของพรรคคือ “นายพีระพันธุ์”
โอเคหรือไม่?
ขอบคุณ ท่านทำงานหนักมาพอสมควร รัฐบาลจะต้องเข้มแข็ง เคลื่อนไปข้างหน้า ไม่หยุดที่เดิม ทั้งหมดจะต้องก้าวไปด้วยกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง
ไม่งั้น ไปไม่ได้ และเราจะไม่ทันเขา วันนี้หลายอย่างมันฟื้นมาแล้วฝ่ายเศรษฐกิจเราก็มีมากมาย คอยเชื่อมั่นแล้วกัน”
…………………………………
นี่คือ “สัจพจน์” ความจริงที่ไม่ต้องพิสูจน์ ในทัศนะผม
ท่านพูดยาวกว่านี้ ขนาดผมซอยแล้ว ยังเป็นทรงรากไทร จบจากเวทีเปิดตัว ว่าที่ ๔๐๐ สส.ของพรรคแล้ว
ไปเวทีไหน นายกฯพูดแบบ “ใจสั่งมา” นี่แหละ
ผมกลัวอย่างเดียว………
กลัวหมาใน “คลับเฮาส์” อกแตกตายก่อนได้กลับมาเข้ากรงเท่านั้นแหละ!
เปลว สีเงิน
๒๗ มีนาคม ๒๕๖๖
