สันต์ สะตอแมน
ในที่สุดเธอก็ไม่ได้ตอแหล!
เพราะ..7 หมาต๋า สน.ห้วยขวาง ได้ยอมรับสารภาพแล้วว่า ร่วมกันรีดไถเงินดาราสาวไต้หวันจำนวน 27,000 บาทจริง!
กระนั้น คำว่า “กรุงเทพห่วยๆ” ก็ยังคาใจผมอยู่ดี ก็อยากฝากคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้ทรงอิทธิพล ช่วยกรุณาบอกเพื่อนเธอ หรือตัวดาราสาวไต้หวันด้วยว่า..
ด่าตำรวจเหี้..ตำรวจห่วย ตำรวจเฮงซวย ก็เอาตามสะดวกปากเถอะ ขออย่างเดียวอย่าได้รวมเหมา เพราะผมกล้าพูดได้เต็มปาก..
“กรุงเทพมหานคร อมรรัตรโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์”
ที่มีพระนครอันกว้างใหญ่ดุจเทพนคร เป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต เป็นนครที่ไม่มีใครรบชนะได้ มีความงามอันมั่นคงและเจริญยิ่ง เป็นเมืองหลวงที่บริบูรณ์ด้วยแก้วเก้าประการ น่ารื่นรมย์ยิ่ง
มีพระราชนิเวศใหญ่โตมากมาย เป็นวิมานเทพที่ประทับของพระราชาผู้อวตารลงมา ซึ่งท้าวสักกเทวราชพระราชทานให้พระวิษณุกรรมลงมาเนรมิตไว้
ไม่ได้ห่วย มีแต่ใครไป-ใครมาก็ติดใจ-ประทับใจ ยืนยันได้จากผลสำรวจจากทั่วโลก ที่ยกกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองอันดับ 1 ของโลก ที่น่าทำงานและพักผ่อนมากที่สุดในโลก!
แต่หากดาราสาวไต้หวันจะสรุปเอาจากอารมณ์ที่ถูกรีดไถเงิน 27,000 บาท โดยตำรวจเลวๆ 7 นาย ว่ากรุงเทพห่วยๆ และจะไม่มาเหยียบอีกแล้ว ก็ไม่เป็นไร เอาตามที่เธอสบายใจล่ะกัน!
ส่วนผม ถ้ามีโอกาสก็จะไปเที่ยว-ไปชมไต้หวันอีก ด้วยครั้งหนึ่งเคยไปกิน-ไปเที่ยวกับ “พี่อาด” สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ อดีตพระเอก-ผู้ร้าย ยังรู้สึกประทับ-ติดใจในหลายๆ สิ่ง
รวมทั้งการได้ “กินหมาก” จากพริตตี้สาวเชียร์หมาก อาชีพที่นับเป็นเอกลักษณ์ของไต้หวัน ที่เธออุตส่าห์ปีนขึ้นไปป้อนให้ถึงปากบนรถ (บัส) ทำเอาใจสั่นหวิว..
ต้องบอกว่า ความสวยเธอไม่ได้ห่วย หากแต่สวยสะดุดตาเชียว!
อ้อ..ขอทำความเข้าใจนิด มีหลายท่านอาจคิดและเข้าใจว่ากรณีของดาราสาวไต้หวัน มีสื่อพยายามจะเข้าข้างตำรวจ บ้างก็พูดแรงถึงขั้น “รับงานตำรวจ เพื่อทำลายดาราสาวไต้หวัน” นั้น
ผมเองในฐานะเป็นคนหนึ่งที่ได้เขียนถึงประเด็นนี้มาครั้งสองครั้ง ขอพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจเลยว่า แม้จะเอนเอียงไปในทางจะให้กำลังใจตำรวจ..
นั่น..ก็เป็นแค่เพียงเพื่อต้องการพิสูจน์ความจริงให้ประจักษ์ ไม่ได้มีความคิดที่จะทำลายดาราสาวไต้หวันอะไรเลย!
จะมีติดใจอยู่ก็เพียงคำพูด “กรุงเทพห่วยๆ” เท่านั้น อย่างอื่นก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และเมื่อความจริงปรากฏเช่นนี้แล้ว ผมก็ให้รู้สึกขอบคุณเธอที่ไม่เงียบ-ไม่ปล่อยให้ตำรวจเลว..
ทำเรื่องชั่วๆ แล้วยังลอยหน้าลอยตาและลอยนวลอยู่ต่อไป!
เป็นไปได้ ผมก็อยากกวักมือเรียกดาราสาวไต้หวันให้กลับมาเที่ยวกรุงเทพฯ อีก แต่ดูจะยากเพราะเธอได้ประกาศก้องไปทั่วไต้หวัน-ทั้งโลกไปแล้วว่า..
“จะไม่มาเหยียบกรุงเทพฯอีกต่อไป” ซึ่งเป็นสิทธิที่ใครก็ไม่อาจจะไปรบเร้ากับเธอได้!
และสำหรับตำรวจ 7 นายนั้น ก็ขอให้เป็นไปตามที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้ลั่นคำไว้..
“กรณีของดาราสาวไต้หวันนี้จะต้องทำความจริงให้ปรากฏ หากพบว่า ตำรวจมีการเรียกรับเงินจริง ก็ต้องโทษคดีอาญา รับความผิด”
ซึ่งก็ต้องฝากเป็นภาระคุณชูวิทย์ช่วยเกาะติดเรื่องนี้ต่อไป อย่าให้จบแค่คำสั่งเด้งเข้ากรุแล้วเรื่องเงียบไปเสียล่ะ?
รู้..ว่าคุณชูวิทย์เหนื่อยล้าเต็มทนแล้วกับการไล่ล่าตำรวจชั่ว แต่ทำไงได้ในเมื่อถูกกำหนดให้ต้องสวมบทบาท “ซูปเปอร์ฮีโร่” แล้ว ก็ต้องทำหน้าที่ให้เต็มกำลัง..
จนกว่าฝ่าย (ตำรวจ) อธรรมจะสิ้นซากนั่นแหละ!
