เปลว สีเงิน
“คอรัปชัน” ในวงราชการ “ครองชาติ”!
ผมใช้คำนี้ …..
“เกินความเป็นจริงไปมั้ย?” ช่วยบอกด้วย
ถ้าเกินไป จะได้กราบขอโทษ
แต่พูดกันแฟร์ๆ ข้าราชการทั้งประเทศมีร่วม ๒ ล้านคน ที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง, กินสินบาทคาดสินบน มีซัก ๕% ถึงหรือเปล่าก็ไม่ทราบ?
แต่ ๕% ก็มากแล้วนะ เพราะเป็นแสน!
ก็นั่นแหละ มันเป็นความจริง “ฝังราก” คู่มากับคำว่า “ไม่มีหลักฐาน…หลักฐานอ่อน…หลักฐานไปไม่ถึง”
ซึ่งเป็นคำนิยมใช้ในระบบราชการไทยและกฎหมายไทยมาตลอด จนเป็น “ศัพท์ประจำชาติ” ไปแล้ว
ฉะนั้น ก่อนคุยกันในภาพรวม….
ผมกราบขออภัยข้าราชการผู้ทำงานต่างพระเนตร-พระกรรณพระราชา ผู้ยึดประโยชน์สุขประชาชนเป็นที่ตั้ง ด้วยซื่อสัตย์-สุจริต ก่อนว่า
ทั้งหมดนี้ มิได้หมายรวมถึงท่าน!
จากคดีบอส, คดีหลงจู๊สมชาย จนถึงคดีตู้ห่าว
ล่าสุด คดีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช “นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา”
เป็นตัวสะท้อนวัดการทำหน้าที่ของคน “ระบบราชการ” ได้ชัดเจน ในด้าน “ความสัตย์ซื่อ” ต่อหน้าที่
นายรัชฎา “ซื้อขายตำแหน่ง” กับลูกน้อง ถูกจับได้คาหนัง-คาเขา ดังเป็นข่าวขณะนี้
ไม่ต้อง “ตกอก-ตกใจ” ไปหรอก เพราะนี่ ไม่ใช่รายเดียวหรือรายแรกในหมู่ข้าราชการไทย
ขอใช้คำว่า “หน่วยราชการไหนๆ เขาก็ทำกัน” และทำกันจนเป็นเรื่อง “เลวปกติ” คู่ชาติ
โดยเฉพาะในแวดวง “คนใช้กฎหมาย” ขึ้นหน้า-ขึ้นตามากที่สุด!
กรณีอธิบดีกรมอุทยานฯ “คอรัปชัน” เป็นแค่ “ตัวอย่างน้ำจิ้ม” เท่านั้น
ขนาด “หลักฐานจะๆ” คาซองเงิน ยังปฎิเสธ แบบนี้ ต้องนับถือ “หัวใจเถื่อน” กันเลยทีเดียว
แล้วดูนะ….
“กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช” จากการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕
มีผลออกมาว่า “กรมอุทยานแห่งชาติฯ” เกรด A
หมวดการป้องกันการทุจริต ได้ ๑๐๐ จากคะแนนเต็ม ๑๐๐!
แล้วแบบนี้ ต้องให้บอกมั้ยว่า……
คำว่า “มาตรฐาน” ในระบบราชการไทย “มีหรือไม่มี” มันขึ้นอยู่กับว่า “คุณมีเงินเท่าไหร่?”
ถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวผมจะเอาคำพูด “นายตู้ห่าว” จากคลิปที่คุณชูวิทย์นำมาเปิดเมื่อวานมาให้ฟัง
ทุกระบบในประเทศไทย “มีเงินซื้อได้” จริง-ไม่จริง ผมไม่ทราบ
แต่นายตู้ห่าว “หลานเขย” อดีตผบ.ตร. “ประชา พรหมนอก” และอดีตรองนายกฯ สมัยยิ่งลักษณ์ เขาทราบ
“อธิบดีรัชฎา” ตามกฎหมายเขาบอกว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาจากศาลถึงที่สุดนั่นแหละ ถึงสรุปได้
เหมือนคดีบุกรุกป่าของนางสมพร, นายธนาธรและพี่สาวเขา เป็นคดีไล่เลี่ยกับคดี อดีตสส.ปารีณา ไกรคุปต์
คดี อดีตสส.ปารีณา ผ่านขั้นตอนพนักงานสอบสวน ผ่านอัยการ จนถึงศาล และศาลตัดสินว่า “ผิด” ไปแล้ว
แต่คดีของนางสมพร, ธนาธรและพี่สาวธนาธร กี่ปีแล้วล่ะ ป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่า ยังอยู่ชั้นพนักงานสอบสวน หรือชั้นอัยการ?
นี่มันคืออะไร….
“คนในระบบ” มีคำตอบด้าน “มาตรฐาน” ให้สังคมได้เข้าใจบ้างมั้ย?
“ธนาธร” เอง นำคน ๓ นิ้วรณรงค์ว่า “เป็นคนต้องเท่ากัน” แต่กรณีนี้ “ความไม่เท่ากัน” มันเกิดขึ้นแล้ว
ธนาธรต้องออกมาทวงถามนะ
ไม่งั้น จะเสียทั้งมาตรฐาน เสียทั้งหมา!?
ในเมื่อตามกฎหมาย “อธิบดีกรมอุทยาน” ยังเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหา แล้วตามกฎข้าราชการล่ะ ว่าไง?
ก็ไม่ว่าไง ก็ “ตั้งคณะกรรมการสอบสวน” ตามฟอร์ม ยังไปแตะเนื้อ-ต้องตัว ระดับอธิบดี ซี ๑๐ เขาไม่ได้
นายกฯ คงอึดอัดเต็มที่ จะปลด จะย้าย จะไล่ออก ก็ไม่ได้ จึงออกคำสั่งให้ไปปฎิบัติหน้าที่อยู่ “สำนักนายกฯ” ก่อน
ไปนั่งๆ นอนๆ ผลาญเงินภาษีประชาชนไปเรื่อยๆ จนกว่าคณะกรรมการสอบสวน จะมีผลสอบออกมา แต่ไม่รู้ชาติไหน
พูดแล้วก็นึกถึง “พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ กรณ์ชัยยานันท์” เมียนายตู้ห่าว หลานสาวพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
ถูกจับในข้อหา “พัวพันฟอกเงิน” แก๊งตู้ห่าว ได้ประกันตัวออกไป
ก็ไม่ทราบทางสตช.ดำเนินการงานวินัยอย่างไร คุณชูวิทย์ช่วยไปถามผบ.ตร. “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์” หน่อยซิ
ว่าให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือย้ายเข้ากรุ หรือให้สวมเครื่องแบบนายตำรวจอยู่ในตำแหน่งผู้กำกับเหมือนเดิม?
แล้วทาง “ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง” ที่ร่วมแก๊งตู้ห่าว รับแปลงวีซ่าคนจีนให้อยู่ยาวในไทย บิ๊กสตม.จำนนหลักฐาน รับแล้วว่ามีจริง
จัดการทางวินัยและอาญากันถึงไหน หรือดีดไข่คนละทีแล้วอุบอิบให้เรื่องเงียบ ก็ค่อยให้ออกมาเหมือนเดิม?
มหาดไทยเหมือนกัน “กรมการปกครอง” ว่าไง?
“สวมบัตรประชาชน” ให้แก๊งจีนเทานั่นน่ะ เป็นตะกั่ว ก็อย่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไปนะ
ระบบราชการ “เอาหลอก” แต่ตอนนี้ ระบบประชาชน “เอาจริง” นะ จะบอกให้รู้
มันถึงคราว “เก็บขยะ” ทำบุญใหญ่ ล้างบาง “ข้าราชการกังฉิน-นักกินเมืองโฉด” กันแล้วหละ!
ไม่งั้น ประเทศเหมือน “ตุ่มน้ำ” รั่ว
ประชาชนตักใส่ซี่โครงบาน ตักเท่าไหร่ก็ไม่เต็มซักที เพราะพวกผีโขมด “ฉ้อราษฎร์-บังหลวง” ทั้งระบบรัฐสภา-ระบบข้าราชการ มัน “โฉดชาติ”
“ประชาชนต้องช่วยกันกระทืบพวกนี้ให้มัน “หลาบตีน” ก่อน
ไม่งั้น “ประเทศยืนตาย”!
เรื่องล่มชาติ ไม่ต้องกลัวพวก ๓ นิ้วหรอก โตอีกหน่อย พวกเขาก็ระลึกชาติกันได้เอง
กลัวพวก “อสัตย์แผ่นดิน” ในคราบ “คนระบบรัฐ” โดยเฉพาะใน “ระบบกฎหมาย” นั่นเถอะ
พวกนี้ มัน “มะเร็งชาติ”
กัดกิน ตับ ไต ม้าม ปอด ไส้พุง คือแอบจากข้างใน กว่าจะรู้ ก็ระยะสุดท้าย ประเทศ “รอตาย” สถานเดียว
เรื่อง “ประเทศชาติ” นั้น….
พวกเรา…ประชาชน อย่านึกว่า “ธุระไม่ใช่”
แล้วปล่อยให้พวกข้าราชการและนักการเมืองเป็นเจ้าเข้าครอง
จงลุกขึ้นมา….
จงรู้ว่า “ประชาชน” เป็น “นาย” พวกข้าราชการและนักการเมือง เป็น “ลูกจ้าง”
เราจ่ายเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ให้พวกเขามีอยู่-มีกิน
เมื่อลูกจ้าง “ไม่ซื่อสัตย์”
“นายจ้าง” ต้องช่วยกันดัดสันดานและลงโทษ!
ไม่ใช่แค่ “กรมอุทยาน” หรอก ……..
เอาจอบแซะไปกรมไหน กระทรวงไหน ปลวกแทะประเทศพรึ่ดเหมือนกันหมด!
โดยเฉพาะคนหน่วยงานที่ใช้กฎหมายกับประชาชน ตำรวจนั่นแหละตัวดี
ซื้อ-ขายตำแหน่งแล้ว จะอยู่ต่อ ก็ต้องซื้อต่อ หรืออยากจะย้ายไปอีกท้องที่ ก็ต้องซื้อเพื่อย้ายอีก
แล้วจะเอาเงินที่ไหน ก็ต้องไปหาเงินอย่างที่หากินกับนายตู้ห่าวนั่นแหละ
นอกจาก “หาเอา” แล้ว ยังต้องหา “หาส่ง” ขึ้นไปเป็นลำดับชั้นด้วย ผมถึงบอก ชาวบ้านน่ะ ไม่ต้องกลัว “ตกนรก” หรอก
เพราะนรก “มันเต็ม” จนล้น ด้วยพวกตำรวจ ข้าราชการ และนักการเมือง “กังฉิน”!
เมื่อวาน (๒๙ ธค.๖๕) คุณชูวิทย์โพสต์เฟซ พร้อมคลิป “ตู้ห่าว” กำลังขูู่ตะคอกด่าใครซักคน
ฟังซะ…จะได้ “สะใจ” ไทยประเทศ
“กูมีเงินเยอะ เข้าใจไหม….ถ้าไม่จบ กูยิงมึงจริงๆ นะ…
กูมีปืน ไปดูภูเก็ตสิ จับกูได้หรือ
ใครมีเงินทำได้ทุกอย่าง มีคนไทยตายด้วย ติดคุกได้ด้วย เชื่อไหม?”
แล้วชูวิทย์ ก็โพสต์ต่อว่า…..
ฟังแล้ว “ตู้ห่าว” เรียนรู้เร็ว เพราะมีเพื่อนเป็นทั้งตำรวจ ทั้งนักการเมือง ใหญ่ๆ ทั้งนั้น
อยู่เมืองไทยไม่นาน แปลงสัญชาติเป็นไทยได้แค่ไม่กี่ปี
เก่งกว่าไทยแท้ ที่เกิดไทยเสียอีก ยอมรับว่ามันเก่งได้ใจจริงๆ
ข้อมูลลับอยู่ในมือพยานเอกอย่างผม ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
ถึงยุค “กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม ผู้ดีจะเดินตรอก ขี้ครอกจะเดินถนน”
เทศนาธรรมของ “สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก”
หมายถึง ยุคที่คนดีจะถูกเหยียบย่ำ คนชั่วได้รับยกย่อง
นับเป็นคำเทศนาธรรมที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันจริงๆ สาธุ.
ผมไม่ได้ดูคลิปจากเฟซคุณชูวิทย์โดยตรง แต่ดูจาก “ผู้จัดการออนไลน์” ที่เขานำมาเผยแพร่ต่อ ท่านก็หาดูให้ได้ยินกะหู เห็นกะตาได้
เรื่องคอรัปชัน เอะอะ “ด่านายกฯ-โทษนายกฯ” มันง่าย
แต่ในทางปฎิบัติ…
สิทธิมนุษยชนเอย ผมยังเป็นผู้บริสุทธิ์เอย ขึ้นศาล จากชั้นต้น ยังอุทธรณ์ ฎีกา หลายๆ คดี ๑๐-๒๐ ปี คดียังไม่ถึงที่สุดก็มี
ไม่อยากใช้คำว่า “มันยาก” ที่จะให้มันง่าย แบบ “ใช้ยาฆ่าหญ้า” ราดลงไป นั้น
ขนาดระบบ “สังคมคอมมิวนิสต์” คำสั่งประธานาธิบดี “สี จิ้น ผิง” คือกฎหมาย ประหารไปกี่รายแล้ว คอรัปชันก็ยังไม่สิ้นเชื้อ!
สุดท้าย ระหว่าง “กฎหมาย” กับ “กฎกรรม” นั่นแหละ
เป็นที่ “ทำใจ”!
เปลว สีเงิน
๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๕
