เปลว สีเงิน
แบบนี้ไง ที่เรียก IO
ที่ระดม “ปั่นแฮชแท็ก” กันเมื่อวาน……
“ตำรวจฆาตกร…ตำรวจชนแล้วหนี…รัฐบาลปราบปรามประชาชน”
เพื่อเบี่ยงประเด็น-กลบระยำให้ “กองโจรทะลุแก้ส”
ที่ก่อจลาจลเมืองรายวัน …
ทั้งยิง ทั้งทุบทำลาย ทั้งสกรัมตำรวจ ทั้งจุดพลุไฟ-โยนระเบิด ทั้งเผาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ย่านสามเหลี่ยมดินแดง
ไอ้พวกนี้ เป็นใคร?
ก็ขบวนการสามนิ้ว-สามสัส “จารย์+โจ๋+โจร” ที่รับแผนต่างชาติ “อเมริกัน-ยุโรป” ก่อการ “ล้มระบบกษัตริย์” สถาปนาระบบประธานาธิบดีแทน
เปลี่ยนทำไม?
เปลี่ยนเพื่อให้ง่ายต่อการเข้ามาใช้ไทยเป็นฐาน “ต่อกรกับจีน” ในปฏิบัติการแผ่อิทธิพลควบคุม “อินโด-แปซิฟิก” ของสหรัฐฯ
แล้วทำไมจึงโหมฟืน-โหมไฟเพื่อล้มเอาตอนนี้ล่ะ?
ก็เพราะเมื่อก่อน….
ตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ เรื่อยมา “ระบอบทักษิณ” คุมอำนาจบริหารประเทศเป็นส่วนใหญ่ ยอมเป็น “เด็กดี” ของสหรัฐ-ยุโรป
สหรัฐฯ ใช้ไทยเป็นฐานทำอะไร สั่งให้ซ้ายหัน-ขวาหันไปทางไหน ทั้งทางการทหาร-การเมือง-การบ้าน “ได้ทั้งนั้น”
บน “ผลประโยชน์” แลกเปลี่ยน!
แต่ นับแต่กลางปี ๒๕๕๗ เรื่อยมา พลเอกประยุทธ์เข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศ ภายใต้รัฐธรรมนูญอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประโยชน์ชาติ-ประโยชน์ประชาชน บนความเป็นเอกรัฐ-เอกราช “ต้องมาก่อน”
การบริหารของพลเอกประยุทธ์ ….
ไม่เอาชาติไปจิ้มก้องอเมริกัน ไม่ซ้ายหัน-ขวาหันให้ชาติไหน ไม่เอาประโยชน์ชาติไปแลกกับผลประโยชน์ตัว อย่างที่ระบอบทักษิณทำ
จักรวรรดิอำนาจตะวันตก ภายใต้กลไกยิว-ไซออนิสต์ ที่เดินแผน New World Order เป็นอำนาจเดียวครองโลก โดยให้สหรัฐฯ เป็น “รัฐบาลโลก”
แผนในย่านอุษาคเนย์ของสหรัฐฯ ที่ปักหมุดไทยเป็นฐาน กำลังสมูธๆ สะดุดกึ๊ก ทันที
เหมือนจังหวะลงล็อก คือสหรัฐฯ ทิ้งถิ่นย่านนี้ไปนาน เมื่อเห็นจีนเป็น “ยักษ์ตื่น” จึงส่งกองเรือที่ ๗ “คัมแบ็ก” อินโด-แปซิฟิก” เป็นเจ้าพ่อคุมถิ่น
จะคุมได้ ก็ต้องใช้ไทยเป็นฐาน
แต่ประยุทธ์ไม่ใช่ยิ่งลักษณ์ที่โอบามา “ตาประสานตา” ไว้หวานหยดจนแฉะ แผนที่จะใช้ไทยเป็นหมากเดิน “ขัดขาจีน” จึงพัง!
เพราะประยุทธ์ไม่ขายชาติ….
เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ แต่จะให้เป็นเด็กดี “เดินตามนิ้วชี้” ให้เดินนโยบายเป็นปฏิปักษ์จีน ให้ยอมเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ ทั้งลับ-ทั้งแจ้ง
อยางนั้น ไม่ได้ ประยุทธ์ไม่ทำ!
นับแต่นั้น สหรัฐฯ-ยุโรป อ้างเหตุ “รัฐบาลประยุทธ์ไม่เป็นประชาธิปไตย” ไม่ยอมรับสถานะรัฐบาลไทย
ทั้งที่ข้อเท็จจริง นับตั้งแต่ ๒๔๗๕ เป็นต้นมา….
แทบไม่มี “ปฏิวัติ-รัฐประหาร” เปลี่ยนตัวนายกฯ ครั้งไหน ที่สำเร็จเรียบร้อย โดยไม่มีสหรัฐฯ “รู้เห็น” เป็นเบื้องหลังเลย!
จะมีก็ “นายกฯประยุทธ์” นี่แหละ
การไม่ยอมเป็นเด็กดี ทำให้ “หมากทั้งกระดาน” ของสหรัฐฯ รวนไปหมด ต้องกำจัดให้พ้นไป แล้วเอารัฐบาลระบอบทักษิณ “วัวเคยขา-ม้าเคยขี่” กลับมาให้เร็วที่สุด!
แต่ช่วงนั้น เป็นรัชกาลที่ ๙ ที่ทั้งโลกยกย่อง
สหรัฐฯ ไม่กล้าใช้แผน “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” แบบโจ๋งครึ่ม ได้แต่เซาะซึมผ่านระบอบ “แดงทั้งแผ่นดิน”
และใช้ขบวนการใต้ดินผ่านองค์กรเพื่อสังคมและการศึกษาที่ฝังรากในหมู่นักวิชาการ, จานมหา’ลัย, พระ, นักเคลื่อนไหว, สื่อรับใช้ และผู้นำชุมชน
เดินแผนปฏิบัติการจริงจัง!
ประจวบ “เปลี่ยนแผ่นดิน” เป็นรัชกาลปัจจุบัน บวกการเมือง “จีน-สหรัฐ” เข้าเขี้ยว เป็นเงื่อนไขสมพ้องให้สหรัฐฯ “ตีรุก”
หลายๆ เรื่อง ถูกหยิบยกสร้างเป็นชุดความคิดนำกระแส ระบอบทักษิณ “ฝ่ายประชาธิปไตย”
มีความชอบธรรมทางสังคมที่จะขับไล่ฝ่ายเผด็จการ คือ “รัฐบาลประยุทธ์”
จนช่วงเลือกตั้ง ๖๑-๖๒ สหรัฐ-ยุโรปสร้างธนาธรเป็นสัญลักษณ์ “คนรุ่นใหม่” คู่ขนานกับ “ฝ่ายประชาธิปไตย” ของระบอบทักษิณ
จากนั้น แผน “ล้มเจ้า” จึงเปิดต่อสาธารณะ ผ่านสถานศึกษา-มหา’ลัย ตามพิมพ์เขียวที่ “ยุโรป-สหรัฐฯ” กำหนดไว้ และสหรัฐ-ยุโรปก็ปฏิบัติการ “โลกล้อมไทย” เป็นคู่ขนานผ่านนักศึกษาตามสถาบันในต่างประเทศด้วย
แปลงข้อมูลบิดเบือนประวัติศาสตร์ไทยในระบบสื่อสารไอที ป้ายสี-ใส่ร้ายพระมหากษัตริย์ รัฐกาลที่ ๙ หวังให้คนเข้าใจผิดแล้วเกลียดชัง ว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ เช่น ๑๔ ตุลา-๖ ตุลา พฤษภาทมิฬ เป็นต้น
“ล้มประยุทธ์” แค่ผลพลอยได้ในฉาก “การเมือง” เฉพาะหน้า
“ล้มกษัตริย์” เชิดสุนัขรับใช้ขึ้นเป็น “ประธานาธิบดี” แทนนั่นแหละ การเมือง “ยึดไทยเป็นทาสสหรัฐ-ยุโรป” ถาวร!
ตอนนี้ การจ้วงจาบหยาบช้า พูดจาเหยียดหยาม-หมิ่นแคลน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งต่อสาธารณะ ไม่ใช่สุกงอม
หากแต่ถึงขั้น “เน่า-แหลก-เละ”
ทั้งในคนรุ่นใหม่-รุ่นเก่า ไม่ว่าในสถาบันศึกษา ในวัด ในโรงเรียน ในบ้าน ในถนน จากการบ่มเพาะของขบวนการล้มเจ้า “สามนิ้ว-สามสัส”
ภายใต้คอนโทรล “สหรัฐ-ยุโรป” ประสานข่าวสารเป็นปฏิ บัติการถึงกันด้วยระบบไอที
อย่านึกว่าเรื่องบัดสี-ชั่วช้าจากขบวนการสามสัสจะมีแค่ในสื่อไทย เว็บไทย หากแต่ถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ เผยแพร่ไปพร้อมกัน
ถามว่า เผยแพร่เพื่ออะไร?
ก็เพื่อ บิดเบือนเป็นข้อมูลก่อนคือ fact ข้อมูลจริงที่มาทีหลัง คือ fake ไงล่ะ!
อย่างที่ปั่นแฮชแท็ก ตำรวจฆาตกร..ตำรวจชนแล้วหนี นั่นคือตัวอย่าง ฆาตรกรตัวจริง “ฟ้องโลก-ฟ้องสังคม” ก่อน เป็นโจทก์
ในขณะที่ ตำรวจถูกกระทืบ ถูกเอาระเบิดอัดหน้าจนเละ ถูกรุมทุบรถหวังกระชากลากตำรวจคนขับไปสกรัม แต่ไม่มีขบวนการปั่นแฮซแท็ก กลายเป็นจำเลย!
สังคมส่วนหนึ่ง ถูกจูง-ถูกลากไปตามประเด็นที่โจรตั้งเป็นโจทย์ ว่าตำรวจทำร้าย ยกอ้างความชุมนุมเป็นสิทธิ
นี่คือเทคนิกโจร….
เราต้องตั้งโจทย์ให้ตรงเรื่อง-ตรงประเด็นก่อนว่า
พวกทะลุแก๊ส มาสามเหลี่ยมดินแดงทุกคืน มาเพื่อชุมนุมสันติ ปราศจากอาวุธ หรือมาก่อจลาจลเมือง เป็นภัยสังคม ภัยความมั่นคง ซึ่งมันผิดกฎหมายใช่หรือไม่?
ตอนเกิดเหตุ ๒ ยาม เป็นเวลาเคอร์ฟิวใช่หรือไม่ แล้วแก๊งทะลุแก๊ส มั่วสุมกันอยู่ได้อย่างไร ฝ่าฝืนกฎหมายใช่ไหม? ที่เป็นฝูง ไล่ทุบตีรถเจตนาทำร้ายตำรวจ อย่างที่รุมทุบตีบาดเจ็บไปแล้วหลายนาย นั่นกฎหมาย “กึ่งฆาตกร” อยู่แล้วใช่หรือไม่?
ที่ตะโกน “ตำรวจฆาตกร”
สรุปแล้ว “ทะลุแก๊ส” ตะหากคือ “ฆาตกรฆ่าตำรวจ”
เป็นฆาตกรที่ถูกจับแล้ว “ตีตั๋วเด็ก”
ในอุปถัมภ์ “สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์” ในอุปถัมภ์ สส.ก้าวหน้า ในอุปถุมภ์ธนาธร
ไม่งั้นจะร้อนตัวถึงขั้น “แถลงการณ์-แถลงข่าว” กันหรือ?
