ขึ้นชื่อว่า “พยัคฆ์”
ต่อให้แก่เขี้ยวหลุด ที่ไม่หลุด-ไม่ลอก คือ “ลาย”
บิ๊กป้อม “พยัคฆ์บูรพา” ก็ประมาณนั้น!
เรื่องปรับครม.แฟนๆ นึกว่าบิ๊กป้อมเสร็จสองเสือ “สุริยะ-สมศักดิ์” ที่ใช้เก้าอี้มหาดไทยเป็นเหยื่อล่อซะแล้ว
ที่ไหนได้……..
ลุงป้อม ที่ “ไม่รู้…ไม่รู้” ตลอดนั้น
ที่แท้โคตรรู้
และที่ดูไม่ทันเกมเก๋าของสองเสือ ความจริงซ่อนคมกริบแห่ง “หัวเสธฯ” ไว้ในกริยาการ “ขุนพลเฒ่า” งกเงิ่น
ใครๆ เห็น ก็เข้าใจว่า ลุงป้อมบ่ลัก-สมองตัน ไม่ทันเกมการเมือง ตกเป็นเครื่องมือของสองเสือจอมเก๋า ที่เชิดให้ชนกับนายกฯ
ลุงป้อมตัน-ไม่ตัน เมื่อวาน (๒๒ กค.๖๓) ก็คงรู้-คงเห็นกันแล้ว ในลีลาสนทนาโต้ตอบคำถามนักข่าว
“ท่านคะ มีข่าวว่าท่านจะนั่งควบมหาดไทย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรคะ?”
ปกติ ลุงป้อม จะโต้ตอบแบบปลายปิด เริ่มด้วยย้อนถาม อะไร…ผมไม่รู้ ไม่เอา..ไม่เอา…ไม่พูด หรือไม่ก็ ไม่รู้ซี ต้องไปถามนายกฯ
นี่คือ “ท่ามาตรฐาน” ลุงป้อม
แต่เมื่อวาน พอนักข่าวถามปั๊บ ลุงป้อมหยุดปุ๊บ รีบถอดหน้ากาก แล้วตอบ
“ไม่หรอก ผมไม่ไหวแล้ว ผมไม่รับหรอก”!
จากขุนศึกชราภาพ กระย่อง-กระแย่งแรงอ่อน แต่ครั้งนี้กลับกระฉับกระเฉง คึกคัก ตาประกาย สองมุมปากพรายยิ้ม
ยืนปักหลักแทนเลี่ยงหลบอย่างตะก่อน แสดงว่า วันนี้ตั้งใจ พร้อมดวล
สอดรับกริยาการนายกฯ เป๊ะเลย!
คือ เมื่อวาน นายกฯ ยังกะนกกางเขนในสวนลุมฯ สดใส ร่าเริง อารมณ์ดี ส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้ว
เพราะอะไร พี่ใหญ่กับน้องเล็กถึงออกอาการลั้นลาตรงกันขนาดนั้น?
นักกายศาสตร์บอก แบบนี้ แสดงว่า “โผโควตาพรรค-โควตานายกฯ” ปรับจูนเป็น “โผครม.” ลงตัวแล้ว
ถึงได้ไม่หมดตามต้องการ แต่ก็ (จำต้อง) สดชื่นพลังประชารัฐ!
เอ๊ะ…มันยังไงกัน ๒ ป.ถึงได้สดชื่น ในขณะที่ ๒ ส.ดูขื่นๆ ชอบพิก๊ล!?
ก็ดูเอาจากคำตอบลุงป้อมละกัน นักข่าวถาม
“เคาะตำแหน่งกันลงตัวหรือยัง?”
ลุงป้อมตอบยาวเป็นปฐมกาล ว่า
“เคาะตำแหน่งเสร็จแล้วหรือไม่ ผมไม่ทราบ เพราะการปรับคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องของนายกฯ”
-ส่วนของ พปชร.ส่งกี่รายชื่อให้นายกฯพิจารณา?”
“โอ๊ย….มันเป็นเรื่องลับ …….
ต้องรอนายกฯ นายกฯจะเอาใครก็ได้ แล้วแต่นายกฯ”
-ตำแหน่งรมว.พลังงาน มีการเสนอชื่อในส่วนของพรรคพปชร.ด้วยหรือไม่?
“ไม่มี…ไม่มีการส่งรายชื่อใคร ไม่ส่ง”
อุ๊ยตาย…….
ตาเถรหกตกต้นกล้วย โผรายชื่อคนจะเป็นรัฐมนตรีของพรรค ออกแรงดันนายสุริยะกันจนมิดด้ามปานนั้น เอาเข้าจริง ลุงป้อมกลับบอก “ไม่ส่งชื่อใครเข้าประกวด” ในตำแหน่งนี้?!
ต้องร้องว่า เจ๋ง..เจ๋ง..และ เจ๋ง!
เจ๋งหนึ่ง ……..
“ลุงป้อมเจ๋ง” ตอนไม่มีอะไรคล้ายแมวนอนหวด แต่พอมีอะไร คล้ายพยัคฆ์ตื่นตะปบ
เจ๋งที่สอง….
“ลุงป้อมเจ๋ง” ใครๆก็พูด เจว็ด ที่ ๒ ส.อุปโลกน์เพื่อหลอกใช้ บ่มิไก๊ เอาพวก “เขี้ยวลากดิน” ไม่อยู่หรอก
แต่การที่ลุงป้อมโชว์เหนือ พูดกี่ครั้งๆ ก็คำนั้น “ปรับครม.เป็นอำนาจของนายกฯ”
ไม่เห็นมีหน้าไหนกล้าหือกะลุงซักหน้า!?
เจ๋งที่สาม…..
ลุงป้อม (อีกนั่นแหละ) เจ๋ง แสดงถึงความเป็น “พี่ใหญ่ตัวจริง-เสียงจริง” ของตระกูล ๓ ป.
ปกติแสร้งอ้อแอ้ แต่พอมีสถานการณ์ ที่อ่อนเปียกกลับแข็งปั๋ง!
เล็ก-ใหญ่ “ในพรรค-นอกพรรค” ลุงป้อม “กินเรียบ!”
มาฟังบทถาม-ตอบนักข่าวของลุงต่อ
-ส่วนของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พรรคส่งชื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ ข่าวสับสน ช่วยเคลียร์หน่อย?
ตรงนี้สำคัญ ดูลีลาพลิ้วออกจากมุมของลุงป้อมนะ
“ผมบอกแล้ว ให้รอหน่อย รอดูว่ามีใครบ้าง”
นักข่าวไล่ต้อน พยายามโน้มคอตีเข่าให้ได้
“ในส่วนของพรรค ท่านจะพูดให้ชัดเจนได้หรือไม่ ว่าได้ส่งชื่อนางนฤมลด้วยหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน?”
ลุงป้อม “ดักศอก” เปรี้ยง……..
“ต้องถามนายกฯ จะมาถามอะไรผม นายกฯ จะเลือกใครก็ได้ จะมีชื่อหรือไม่มีชื่อก็เลือกได้ นายกฯ สามารถหยิบชื่อใครมาก็ได้”
เจอลุงป้อมมวยหลัก นักข่าวเห็นท่าต้อนไม่จน เลยถามเซ็งๆ ส่งท้าย
-นายกฯบอกหรือไม่ การปรับครม.จะชัดเจนเมื่อไหร่?” “ก็บอกว่าเดือนสิงหา.ไง”
ตอบเสร็จ ลุงป้อมฮัมเพลง “รักดอกจึงหยอกเย้า” ของตุ้ม สุพรรณษา พลางกระย่อง-กระแย่ง ซ่อนอมยิ้ม เดินจากไป ปล่อยให้นักข่าวค้อนตามหลัง
ทีนี้ เรามาคุยกันเอง “หลังข่าว”
ก็จะเห็น เรื่องดันพี่ใหญ่ไปแย่งเก้านี้มหาดไทยน้องรอง ลุงป้อมตอบชัด “ผมไม่ไหว…ผมไม่รับ”
ประเด็น โผพรรค ส่งรายชื่อสุริยะเป็นรัฐมนตรีพลังงานหรือไม่
ลุงป้อมเคลียร์ชัด ๓๖๐ องศา “พรรคไม่มีการส่งชื่อใครในตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงาน”
มีประเด็น “นางนฤมล” เท่านั้น ที่ลุงป้อมใช้เคล็ดลับวิชาวิชา “เปลี่ยนเอ็น-ย้ายกระดูก”
นักข่าวถาม “ส่งรายชื่อในตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยหรือไม่” นักข่าวยิงหมัดตรง ลุงป้อมเด้งเชือก ไม่ตอบว่าส่งหรือไม่ส่ง แต่บอก “ให้รอดูเอง”
นักข่าวไล่จี้ ท่านก็เป็นผึ้ง พลิ้วไล่ต่อยนักข่าวซะอีก
“จะมาถามอะไรผม นายกฯ จะเลือกใครก็ได้ จะมีชื่อหรือไม่มีชื่อก็เลือกได้ นายกฯสามารถหยิบชื่อใครมาก็ได้”
แบบนี้ ในความเห็นผม ฟันธงได้เลย……
“พรรคส่งชื่อนางนฤมลเป็นรัฐมนตรีด้วยล้านเปอร์เซ็นต์”
ส่วนจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็น ก็เป็นไปตามที่ลุงป้อมบอก
คือประมาณว่า……
พรรคเสนอไป แต่จะได้หรือไม่ อยู่ที่นายกฯ จะให้หรือไม่ให้
ตรงนี้ชัด…ฟันธง!
ทำไมจึงสนใจประเด็นคุณนฤมลกันนักก็ไม่ทราบ พูดตรงๆ ถ้าไม่เอาด้าน “ชอบ-ไม่ชอบ” อันเป็นทัศนคติของบางคน-บางพวก เป็นตัวตั้ง
มองด้านคุณสมบัติ ถ้าคุณนฤมลได้เป็น ผมก็ไม่เห็นเธอจะต่ำต้อยด้อยกว่าใครๆ ในพรรค
ส่วนนายอนุชา นาคาศัย ตำแหน่ง “เลขาธิการพรรค” ในระบบการเมือง จะปฏิเสธการมีตำแหน่งรัฐมนตรีของเขาไม่ได้เลย ส่วนจะตำแหน่งไหนนั้น นั่นเป็นอีกเรื่อง
“นายสุชาติ ชมกลิ่น” ก็เป็นที่ยอมรับของคนในพรรคว่า นอกจากความสามารถแล้ว ยังมีบารมี และมีความเหมาะสมคู่ควรตำแหน่งรัฐมนตรี
ที่มีเสียงติง…….
ตรงประเด็น พรรคเสนอให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแรงงาน เพราะเก้าอี้นี้ พรรครวมพลังประชาชาติไทยเขานั่งอยู่ก่อนแล้ว
สำหรับนายสุริยะ ถ้าเป็นอย่างที่พลเอกประวิตรยืนยัน ไม่ได้เสนอชื่อไปเป็นรัฐมนตรีพลังงาน คือยังคงเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรมตามเดิม
ทุกอย่างก็จบ …….
ไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องโควตารัฐมนตรีของพปชร. ส่วนใครจะตำแหน่งไหน อยู่ที่นายกฯ จะตัดสินใจ อย่างที่บิ๊กป้อมบอกนั่นแหละ
การเมืองนี่ หัวใจจริงๆ อยู่ตรง “ศรัทธา-ความเชื่อ” ของประชาชน
ตามปกติ พรรคแกนนำอย่างพลังประชารัฐ นายสุริยะ จะนั่งพลังงาน ถือว่าธรรมดามาก
แต่เพราะประชาชน “ไม่เชื่อและไม่ศรัทธา” ด้วยระแวงปูมหลังของนายสุริยะนั่นแหละ
ดังนั้น ถ้านายสุริยะมั่นใจว่าไปเป็นรัฐมนตรีพลังงานแล้ว ด้วยความรู้-ความสามารถ และมีความซื่อสัตย์จริงใจในการทำงาน เข้าไปแล้ว จะสร้างประโยชน์ในฐานะรัฐมนตรีได้ดีกว่าคนอื่นละก็
“อดออม-อดทน” พิสูจน์ฝีมือ แสดงความสุจริตในงานให้ประชาชนประทับใจซักสมัย-สองสมัย เมื่อได้ศรัทธา-ความเชื่อจากประชาชนแล้ว
ตอนนั้น อยากนั่งเก้าอี้ไหน ใครเขาจะไปตั้งแง่!
ความจริง เก้าอี้อุตสาหกรรมก็ใหญ่ ถามว่า “ปีกว่า” นายสุริยะ แสดงฝีมือให้ประชาชนเห็น “ผลงานโดดเด่น” ตรงไหน- อะไรบ้าง?
แต่ถ้า “อยากได้-อยากเป็น” โดยไม่สนอะไร และเชื่อในบารมี เลือกตั้งเมื่อไหร่ ชื่อ ๒ ส.ขายได้
ก็จะแนะให้……..
แตกไปเป็น “พรรค ๒ มิตร” แบบนี้ อย่าว่าแต่เก้าอี้รัฐมนตรีพลังงาน
“เก้าอี้นายกฯ” เอาไปเลย!
