เงินแลกหายนะ #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ยิ่งใหญ่จริงๆ ครับ

ใครจะไปเชื่อ จากอดีตนักโทษชาย ผู้ป่วยวิกฤตห่างหมอไม่ได้ ติดเตียงร่วม ๕ เดือน เป็นตายเท่ากัน วันนี้ “ทักษิณ ชินวัตร” พลิกชะตาชีวิตกลับมาใหญ่คับประเทศ

ในฐานะพ่อนายกรัฐมนตรี และผู้สั่งการรัฐบาล

ยังอยู่เรื่อง กาสิโน ครับ

วันเสาร์ที่ผ่านมา “ทักษิณ” พูดถึงกลุ่มคัดค้านการเปิดกาสิโนในทำนอง ไม่ให้ราคาสักเท่าไหร่

“…ความไม่เข้าใจของคนที่วิจารณ์ก็อยู่มีเยอะ การอธิบายยิ่งจำเป็นต้องให้เข้าใจ คนส่วนใหญ่เท่าที่สำรวจมา ก็ชัดเจน แม้ว่าคนที่ไม่เห็นด้วยก็มีอยู่แล้ว แต่ไม่มาก เพราะทุกเรื่องมันต้องมีคนไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว แต่ไม่ได้มาก

สำคัญคือคนที่เอามาพูด มีข้อมูลข้อเท็จจริงที่ยังไม่ค่อยชัด บางทีก็ต้องโทษฝ่ายที่ทำกฎหมาย ที่อธิบายไม่ชัดเจน เมื่อทำกฎหมายไปทางกฤษฎีกาก็บอกว่า กฎหมายน่าจะครอบคลุมทางด้าน เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ด้วย แต่เขาไประวังกติกาของกาสิโน ที่มีข้อกฎหมายเยอะ จริงๆ แล้วกาสิโนมีเพียงไม่เกิน ๑๐% ของพื้นที่ทั้งหมด…”

คนที่ไม่เห็นด้วยไม่รู้ข้อมูลจริงหรือไม่

และการบอกว่า มีกาสิโน ไม่เกิน ๑๐% ของพื้นที่ทั้งหมด มีระบุในกฎหมายหรือไม่

มีสิ่งที่ “ทักษิณ” พูดถูกอยู่เรื่องเดียวคือ เนื้อหากฎหมาย ที่เขียนไปไม่ครอบคลุมส่วนของ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปเน้นเรื่องของกติกาการจัดตั้งกาสิโนมากไปนิดหนึ่ง

ตรงนี้ “ทักษิณ” พูดตรง เพราะร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. เน้นไปที่การอนุญาตเปิดกาสิโนเป็นหลัก

ส่วนอื่นๆ กลับห้อยไว้ที่บัญชีแนบท้าย ทำให้เห็นสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า เป็นกฎหมายเปิดกาสิโน ส่วนที่เหลือเป็นแค่องค์ประกอบ

ในร่างกฎหมายไม่ได้บอกว่า กาสิโน มีไม่ถึง ๑๐% จึงน่าสงสัยว่า “ทักษิณ” กำลังทำตัวเป็นกฎหมายอย่างนั้นหรือ

มาตรา ๔๑ ของร่างกฎหมายระบุว่า…

“…ให้สถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณเขตพื้นที่ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น โดยจะต้องประกอบไปด้วยธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้อย่างน้อยสี่ประเภท ร่วมกับกาสิโน ทั้งนี้สัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด…”

ขณะที่บัญชีแนบท้ายประเภทธุรกิจสถานบันเทิงมี ๑๐ ประเภท

๑.ห้างสรรพสินค้า

๒.โรงแรม

๓.ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ หรือบาร์

๔. สนามกีฬา

๕.ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ

๖.สถานที่เล่นเกม

๗.สระว่ายน้ำและสวนน้ำ

๘.สวนสนุก

๙.พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP

๑๐.กิจการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด

หมายความว่า การเปิด กาสิโน ๑ แห่ง จะต้องมีประเภทธุรกิจอย่างน้อย ๔ ใน ๑๐ ประเภทนี้ร่วมด้วย

ไม่มีตรงไหนบอกว่า เป็นกาสิโน ๑๐%

หรือว่า “ทักษิณ” มั่วนิ่มรวบธุรกิจทั้ง ๑๐ ประเภท มาอยู่ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ทั้งหมด แล้วอ้างว่า ที่เหลือคือกาสิโน

เป็นที่มาตัวเลขกลมๆ กาสิโนแค่ ๑๐% เท่านั้น

ถ้าเป็นแบบนี้เท่ากับหลอกลวงประชาชนครับ

แต่จับตาดูครับ ๑๐% ที่ว่านี้อาจระบุในร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร เรื่อง สัดส่วน พื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร

หากเป็นเช่นนั้นการเปลี่ยนแปลงประกาศสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพราะไม่มีระบุเอาไว้ในกฎหมายแม่นั่นเอง

“ทักษิณ” ยังพูดเรื่องการออกใบอนุญาต

“…เมื่อคืนนี้ผมฟังข่าว มีคนบอกว่า เป็นการให้ใบอนุญาต ยืนยันว่าไม่ใช่ แต่ต้องมีการประกวดราคากันอย่างเปิดเผย ใครสนใจก็ต้องมาแข่งกัน เสนอว่าจะสร้างอะไรที่เป็นประโยชน์ กับการท่องเที่ยวบ้าง และจะให้ค่าตอบแทนรัฐอย่างไร…”

นี่ก็เช่นกันยังไม่เห็นหลักเกณฑ์ ว่าร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตสถานบันเทิงครบวงจร กำหนดไว้เช่นไร

ประกาศทั้ง ๒ ฉบับนี้ ต้องรอ คณะกรรมการบริหาร ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เป็นผู้กำหนดออกมา

การออกใบอนุญาต คณะกรรมการบริหาร เป็นคนจิ้ม หรือ ใช้วิธีประมูล ยังไม่มีอะไรชัดเจน

แต่ประกาศเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

วานนี้ (๑๙ มกราคม) “สังศิต พิริยะรังสรรค์” โพสต์ข้อความ

“…กาสิโนจะเป็นพลังด้านบวกและเป็นประโยชน์ต่อประเทศได้ก็ต่อเมื่อมันอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ระบบการเมือง และระบบราชการดี รัฐบาลไม่มุ่งหาผลประโยชน์ส่วนตัวจากกาสิโน แต่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศมากกว่า ดังเช่นกาสิโนที่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ เป็นต้น

แต่ถ้ากาสิโนเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขของระบบการเมืองและระบบราชการที่ขาดธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรง นักการเมืองมุ่งแสวงหาผลประโยชน์จากกาสิโนให้แก่ตัวเองและพวกพ้อง กาสิโนสามารถจะแสดงบทบาทด้านลบออกมาได้เช่นเดียวกัน ดังที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศอาเซียนรอบๆ ประเทศไทย…”

“…นอกจากนี้การที่รัฐบาลกำลังจะอนุญาตเปิดให้มีการเล่นการพนันทางออนไลน์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รัฐบาลควรตระหนักถึงเยาวชนของชาติในอนาคตที่จะถูกดึงเข้าสู่ตลาดการพนันได้ง่าย การที่ภาครัฐยังไม่มีการปฏิรูประบบการทำงาน ของหน่วยงานการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องนี้ให้มีความโปร่งใสและสุจริต รัฐบาลจะสามารถให้ความมั่นใจแก่สังคมได้อย่างไรว่า จะไม่ให้มีเงินสีเทาหรือเงินสีดำเข้ามาเกี่ยวข้องกับตลาดการพนันออนไลน์…”

มองภาพรวม มีแต่รัฐบาลเลวเท่านั้น ที่ขยันสร้างผลงานมอมเมาประชาชน

จะมีสักกี่รัฐบาลที่ยอมแลกระหว่างการได้มาของเงินกับวิกฤตทางสังคม

หนึ่งในนั้นคือรัฐบาลพ่อเลี้ยง

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
ประยุทธ์ สั่ง!!! ห้ามทบทวนยกเลิกใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส “อนุทิน” เผยขบวนการค้าสารพิษภาคเกษตรฯ ล็อบบี้ ยัดไส้วาระการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย
17 พฤษภาคม 2565-รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ คณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกะทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาทบทวนการยกเลิกการใช้สารเคมีพาราควอต และ คลอร์ไพริฟอส
Read More
0 replies on “เงินแลกหายนะ #ผักกาดหอม”