“ชีวิตเลือกได้” ของ “อุ๊งอิ๊ง” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

เอิ้มมมมมม….
ไม่ทราบว่า “พรรคประชาชน-คนรุ่นใหม่” เคยได้ยินที่คนโบราณเขาเปรยบ้างมั้ย
ที่ว่า…..
“หมากินน้ำข้าวที่เจ้าของขุนจนท้องกาง ก็มุดเข้าใต้ถุนเอาแต่นอน โจรย่องเข้าบ้าน ไม่ยอมเห่า หมาพันธุ์นี้ เลี้ยงไว้ก็เสียน้ำข้าวเปล่า” นั่นน่ะ

อย่างตอนนี้เหมือนกัน
โจรมันกำลังนัดแนะพวกเข้ามา “ปล้นแผ่นดินไทย” ตรงเกาะกูด แต่แกนนำ “ฝ่ายค้าน” นอกจากนอนเฉย ไม่ยอมเห่าแล้ว

แค่ฮึ่มแฮ่ ตามวิสัยหมาบ้าง ก็ยังไม่มี!?
จะ “เห่า-กัด-สะบัดโซ่” อยู่แค่ ๒ เรื่อง เท่านั้น

-“แก้รัฐธรรมนูญ” ปูทางเขียนใหม่ทั้งฉบับ กับ
-“นิรโทษกรรม” คนผิดมาตรา ๑๑๐ และมาตรา ๑๑๒!

แบบนี้ ส่งขายเวียดนามให้ทำ “หมาหัน” ซะดีมั้ย?

ตรงกันข้าม…
พรรค “พลังประชารัฐ” ของ “พลเอกประวิตร” แม้สส.เหลือแค่ ๒๐ คน แต่รู้และทำหน้าที่ “หมาเฝ้าบ้าน” ได้ดีเยี่ยม

เมื่อวาน (๓๐ ต.ค.๖๗)….
นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร, นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานวิชาการของพรรค และ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กก.บห.พรรค

แถลงที่รัฐสภา “ค้านการเจรจาผลประโยชน์ปิโตรเลียมในกรอบ MOU 2544”
เข้าชื่อทำ “จดหมายเปิดผนึก” ถึง “นายกฯแพทองธาร”

ให้หยุดการเจรจาแบ่งปันก๊าซและน้ำมันกับเขมร จนกว่าจะตกลงเรื่อง “อาณาเขต” ในอ่าวไทยกันเรียบร้อยแล้ว

“นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” แถลงว่า….

ข้อความในเอกสาร MOU 2544 ประกอบแผนที่แนบ แสดงว่า ๒ ประเทศ ยอมรับว่า “มีพื้นที่พัฒนาร่วม” เพื่อให้เจรจาแบ่งผลประโยชน์ปิโตรเลียมกัน

แต่ขอบพื้นที่ดังกล่าว ด้าน “ทิศตะวันตก” ใช้เส้นเขตแดนในทะเล ที่ “ประกาศโดยกัมพูชา” ปี ๒๕๑๕
มีจุดตั้งต้นในเส้นที่ “พาดผ่านเกาะกูด”

ตรวจสอบหลักฐานแล้วพบ “ขัดกับสนธิสัญญา” สยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.๑๙๐๗

ดังนั้น จึงมีความเห็นว่า “พื้นที่พัฒนาร่วม” ตามที่ระบุใน MOU 2544 “ขัดกับสนธิสัญญาฯ”
ย่อมทำให้เอกสาร MOU 2544 ทั้งฉบับ “ผิดกฎหมาย”

นอกจากเห็นว่าผิดกฎหมายแล้ว “ยังอาจจะทำให้ไทยเสียดินแดนอีกด้วย”

ถ้าหากกัมพูชายอมรับ ว่าไทยมีเอกสิทธิ์ในเกาะกูดอย่างสมบูรณ์แต่ผู้เดียวจริง
กัมพูชาจะต้องยอมรับไทย ลากเส้นห่างจากชายฝั่งของเกาะกูด ๒๐๐ ไมล์ทะเล ตามกติกาสากล
ไม่ใช่ลากเส้น “พาดผ่านเกาะกูด”

ซึ่งการที่ใน MOU 2544 ไทยยอมรับเส้นพาดผ่านเกาะกูดนั้น ย่อมหมายความได้ว่า
“ไทยยอมให้กัมพูชามีสิทธิ์ในเกาะกูดครึ่งหนึ่ง เป็นการทำให้ไทยเสียดินแดนชัดเจน”

ส่วนกรณี “นายภูมิธรรม เวชยชัย” บอกว่าไม่ต้องห่วงเรื่อง MOU 2544 เพราะกัมพูชาไม่สนใจพื้นที่เกาะกูดนั้น

นายธีระชัย บอกว่า…
“พลเอกประวิตร ได้เล่าให้ฟัง สมัยเป็นรองนายกฯ และประธานคณะกรรมการด้านเทคนิคฝ่ายไทย
ในการ “เจรจากับกัมพูชา”

เจรจาไปได้ไม่นาน กัมพูชาก็พูดถึง “เกาะกูด” ทุกครั้ง พลเอก ประวิตรจึงสั่งให้เลื่อนการเจรจาออกไป ทำให้การเจรจาไม่บรรลุผลสำเร็จ”

“หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์” ร่วมแถลง

“ในขณะที่ไทย-กัมพูชา เจรจาเส้นเขตแดนทางทะเล ปี ๒๕๑๓ โดยไทยยึดมั่นตามอนุสัญญาเจนีวา ๑๙๕๘ ระหว่างเจรจา ฝ่ายกัมพูชา ก็ประกาศเส้นเขตแดนในปี ๒๕๑๕ โดยไม่ได้เป็นไปตาม “กฏหมายสากล” เพื่อรักษาสิทธิฝ่ายไทย”

จึงมีประกาศพระบรมราชโองการ กำหนดเขตไหล่ทวีปของประเทศไทย ฝั่งอ่าวไทยปี ๒๕๑๖
ทำให้เห็นได้ว่า เส้นที่ฝ่ายกัมพูชาประกาศไปนั้น เป็นการล่วงล้ำ “พระราชอาณาเขต” ทำให้การเจรจายุติลง

“แต่เพียง ๒ เดือน ของรัฐบาลนายทักษิณ ปี ๒๕๔๔ ก็นำเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างเร่งรีบ
เริ่มเจรจา ๒๑ เม.ย.๔๔ ตกลงเซ็น MOU 2544 ในวันที่ ๔ มิ.ย.๔๔ รวมเวลาเจรจา ๔๔ วัน”

โดยไทยเปลี่ยนท่าทีจากเดิม คือ “ไม่รักษาสิทธิอันพึงมีของไทย” ตามกฎหมายสากล
กลับ “ยอมรับเส้นของกัมพูชา” ที่ขีดทับอาณาเขตของราชอาณาจักรไทยเป็นครั้งแรก

จนเกิดพื้นที่ทับซ้อนที่ใหญ่โตมากถึง ๒๖,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร ทั้งที่ พื้นที่นี้เดิม ไม่มีกฎหมายรับรอง…….

“พรรคพลังประชารัฐ จึงเรียกร้องให้นายกฯ ยกเลิก MOU 2544 โดยเร็วที่สุด”

เนื่องจาก “แผนที่แนบท้าย MOU 2544 เขตของกัมพูชาได้รวมเอาน่านน้ำภายใน ของจังหวัดตราด เกาะกูด และทะเลอาณาเขตของไทยเข้าไปด้วย”

ทำให้ไทยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบและมีโอกาส “เสียดินแดน” เช่นเดียวกับ “ปราสาทพระวิหาร”

คล้ายกับ “กรณีฝรั่งเศส” ที่เข้ายึดพื้นที่ของสยาม เพื่อเป็นตัวประกันในการเจรจาต่อรอง”

เมื่อวานเช่นกัน…..
“นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซ ตั้งประเด็นให้รัฐบาลตอบ
ย้ำว่า “ถ้าตอบไม่ได้รัฐบาลพังแน่”!

ให้รัฐบาลต้องออกมาชี้แจงประเด็นสำคัญเรื่องเกาะกูดและ mou44 อย่างเป็นทางการ
ไม่ใช่ตอบเพียงว่า “เกาะกูดยังเป็นของไทย” หรือตำหนิคนเห็นต่างว่า “คลั่งชาติ”

ประเด็นที่หมอวรงค์ตั้งเป็นคำถามให้รัฐบาลตอบ มี ๓ ข้อ ดังนี้

๑.ทำไมยอมรับเส้นแบ่งเขตทางทะเลของเขมร ทั้งๆ ที่รู้ว่า เขมรกำหนดเส้นนี้แบบไม่ถูกต้อง

๒.แม้เขมรจะกำหนดเส้นอ้อมเกาะกูดใน mou44 แต่ทำไมไทยไปยอมรับ โดยเฉพาะพื้นที่ทางทะเลที่ต้องเป็นของไทย แต่ไปยอมรับเป็นพื้นที่ทับซ้อน

3.ใน mou44 ทำไมจึงไปกำหนดให้มีการเจรจา แบ่งเขตแดนด้านบนและแบ่งผลประโยชน์ด้านล่าง (เส้น11องศาเหนือ)

ทำไมไม่เจรจาเขตแดนทางทะเลให้เรียบร้อยทั้งหมด จึงค่อยมาเจรจาผลประโยชน์ เหมือนที่เจรจากับมาเลเซีย?

ผมคิดว่า นี่คือข้อกังขาเบื้องต้น ที่รัฐบาลต้องตอบเป็นทางการ ไม่ใช่ตอบแบบเอาตัวรอดไปวันๆ

ขอเตือนให้รีบตอบ…..
ถ้าตอบไม่ได้ ก็ควรที่จะยกเลิก mou 44 ถ้ายังเดินหน้ารัฐบาลพังแน่!

ทำไม “รัฐบาลต้องพังแน่” หรือวรงค์ขู่ส่งเดชงั้นหรือ?

ถ้าอยากรู้ “ส่งเดช” หรือมี “ฤทธิ์เดช” ผมอยากให้ย้อนไปดูคำร้อง “คุณธีรยุทธ สุวรรณเกษร”

ที่ยื่นเรื่องให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัย สั่งการให้นายทักษิณและพรรคเพื่อไทย “เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” เมื่อต้นเดือนตุลา.

คุณธีรยุทธแยกการกระทำของทักษิณและพรรคเพื่อไทยออกเป็น ๖ กรณี

กรณีที่ ๒ มีว่า…….
“นายทักษิณมีพฤติกรรมฝักใฝ่คบหาร่วมคิดกับสมเด็จฯฮุน เซน ซึ่งเป็นผู้นำทางการเมืองประเทศกัมพูชา ซึ่งมีระบบการปกครองที่ฝ่ายการเมืองมีอำนาจเหนือสถาบันพระมหากษัตริย์

และนายทักษิณ มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และเป็นผู้สั่งการพรรคเพื่อไทย เป็นเครื่องมือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน

สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์กับสมเด็จฯ ฮุน เซน
ให้ประเทศกัมพูชาละเมิดอธิปไตยทางทะเลของไทย โดยให้มีการเจรจาพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าเป็นเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (MOU 2544)

เพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา”

เห็นมั้ย….
ถ้านายกฯ แพทองธาร และรัฐบาลเพื่อไทย ไม่ล้มเลิก MOU 2544 ขืนเดินหน้าเจรจาแบ่งผลประโยชน์กับเขมร ก่อนปักปันเขตแดนให้ลงตัวกันก่อนละก็

การกระทำ “เข้าล็อก” ตามคำร้องคุณธีรยุทธ “กรณีที่ ๒” นี้เป๊ะเลย!

นี่ไม่ใช่การขู่…..
“แผ่นดินและผลประโยชน์เป็นของรัฐและประชาชน”
“แต่การถูกถีบตกเก้าอี้และ “คุกตะราง” เป็นของคุณ”

ต้องการแบบไหน… “ชีวิตเลือกได้” นะ อุ๊งอิ๊ง!

เปลว สีเงิน
๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๗

Written By
More from plew
“พ่อทำไว้ให้โดยลูกไม่เห็น”
พ้นเขตสงกรานต์ จังหวัดโน้น-นี้ เริ่มขยุกขยิก จะเปิดเมือง นัยว่า ชาวบ้าน-ร้านค้า-สถานบริการ เรียกร้อง!
Read More
0 replies on ““ชีวิตเลือกได้” ของ “อุ๊งอิ๊ง” #เปลวสีเงิน”